ผู้ซื้อจากทั่วโลก ตบเท้าเข้าร่วม “เมดอินไทยแลนด์อินโฟกัส” ร่วมผลักดันสินค้าไทยให้เป็นที่นิยม เสริมความแข็งแกร่งตลาดเสรีอาเซียน

29 Jan 2015
พาณิชย์ปลื้ม “เมดอินไทยแลนด์อินโฟกัส” ดึงผู้ซื้อจากทั่วทุกภูมิภาคของโลก เข้าร่วมเจรจาธุรกิจ ผลักดันผู้ประกอบการไทย ปั้นสินค้าไทยให้เป็นที่นิยมในต่างแดน เพื่อเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งตลาดอาเซียนหลังเปิดเออีซี

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยความสำเร็จในการจัดงานเมดอินไทยแลนด์อินโฟกัส (Made in Thailand in Focus) ที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2558 (รวมวันเจรจาธุรกิจและวันจำหน่ายปลีก ทั้งสิ้น 5 วัน) ณ อาคาร EH101 - EH104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา โดยในปีนี้ กรมฯ ได้เชิญคณะผู้แทนการค้า ผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยมีนักธุรกิจต่างประเทศ ตอบรับการเข้ามาเจรจาการค้าภายในงานฯ จากประเทศต่างๆ ทั้งในอาเซียนและภูมิภาคอื่น เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน เป็นต้น นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “ผลตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อทั่วโลก เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการผลักดันนโยบายหลักของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการสร้างความนิยมในสินค้าไทยให้เกิดขึ้นในต่างประเทศ นอกจากเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการไทยและสินค้าไทยในอาเซียนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการค้าชายแดน โดยเน้นกลุ่มประเทศอาเซียนพลัส อันเป็นการดำเนินนโยบายเชิงรุกของภาครัฐต่อการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะกลายเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว หลังปี 2558

สำหรับในปี 2557 ที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกรวมทั้งสิ้นกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกว่าร้อยละ 25 เป็นการส่งออกไปในตลาดอาเซียน ในปี 2558 นี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าการขยายการส่งออกของไทยไว้ที่ร้อยละ 4 เพื่อให้มูลค่าการส่งออกเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ งาน Made in Thailand in Focus จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ ในการเปิดเวทีแห่งโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พบกับผู้ซื้อจากหลากหลายประเทศในกลุ่มอาเซียนพลัส อาทิ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และจากภูมิภาคอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกลาง เป็นต้น โดยคาดว่าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายในงานไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ตลอดจนคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 20,000 คน