สภาวะตลาดวันที่ 23 มกราคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,293.10-1,302.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท ก่อนหน้าที่ระดับ 19,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG15 อยู่ที่ 20,160 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 130 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,030 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.14 น.ของวันที่ 23/01/15)
แนวโน้มวันที่ 26 มกราคม 2558
ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นายมาริโอ ดรากี ประกาศซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน โดยเริ่มต้นในเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนกันยายนปีหน้า (นับเป็นระยะเวลา 19 เดือน) ทั้งนี้ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่จะมีการอัดฉีดเม็ดเงินหลายแสนล้านยูโรเข้าสู่เศรษฐกิจยูโรโซนกดดันให้สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงยูโรดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์จนร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2003 ที่ 1.13340 ดอลลาร์ และได้กดดันราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ตาม วงเงิน QE มีมูลค่าสูงกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนในการซื้อพันธบัตร ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่ตลาดทองคำมากขึ้นเช่นกันจึงเป็นแรงบวกดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ ประกอบกับทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อนักลงทุนจับตาดูการเลือกตั้งกรีซอย่างใกล้ชิด เพราะหากพรรคไซริซาชนะการเลือกตั้ง รัฐบาลใหม่ของกรีซก็อาจจะมีเรื่องขัดแย้งกับอียูและไอเอ็มเอฟ ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของกรีซ และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจกรีซเข้าสู่ภาวะล้มละลาย หรือ กรีซอาจจะออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนจนทำให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ ความกังวลดังกล่าวได้สร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,312-1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,290-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,290 หรือ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,312 หรือ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,290 (19,900บาท) 1,280 (19,750บาท) 1,265 (19,510บาท)
แนวต้าน 1,312 (20,240บาท) 1,320 (20,370บาท) 1,338 (20,640บาท)
GOLD FUTURES (GFG15)
แนวรับ 1,290 (20,080บาท) 1,280 (19,920บาท) 1,265 (19,690บาท)
แนวต้าน 1,312 (20,420บาท) 1,320 (20,540บาท) 1,338 (20,820บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.14 น.ของวันที่ 23/01/15)
แนวโน้มวันที่ 26 มกราคม 2558
ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นายมาริโอ ดรากี ประกาศซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน โดยเริ่มต้นในเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนกันยายนปีหน้า (นับเป็นระยะเวลา 19 เดือน) ทั้งนี้ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่จะมีการอัดฉีดเม็ดเงินหลายแสนล้านยูโรเข้าสู่เศรษฐกิจยูโรโซนกดดันให้สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงยูโรดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์จนร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2003 ที่ 1.13340 ดอลลาร์ และได้กดดันราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ตาม วงเงิน QE มีมูลค่าสูงกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนในการซื้อพันธบัตร ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่ตลาดทองคำมากขึ้นเช่นกันจึงเป็นแรงบวกดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ ประกอบกับทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อนักลงทุนจับตาดูการเลือกตั้งกรีซอย่างใกล้ชิด เพราะหากพรรคไซริซาชนะการเลือกตั้ง รัฐบาลใหม่ของกรีซก็อาจจะมีเรื่องขัดแย้งกับอียูและไอเอ็มเอฟ ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของกรีซ และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจกรีซเข้าสู่ภาวะล้มละลาย หรือ กรีซอาจจะออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนจนทำให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ ความกังวลดังกล่าวได้สร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,312-1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,290-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,290 หรือ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,312 หรือ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,290 (19,900บาท) 1,280 (19,750บาท) 1,265 (19,510บาท)
แนวต้าน 1,312 (20,240บาท) 1,320 (20,370บาท) 1,338 (20,640บาท)
GOLD FUTURES (GFG15)
แนวรับ 1,290 (20,080บาท) 1,280 (19,920บาท) 1,265 (19,690บาท)
แนวต้าน 1,312 (20,420บาท) 1,320 (20,540บาท) 1,338 (20,820บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148
YLG ชี้ทองคำระยะยาวแข็งแกร่ง ลุ้นทดสอบ 3,500 ดอลลาร์อีกครั้ง ขานรับสถานการณ์ตะวันออกกลางทวีความตึงเครียด
SCB CIO มองเงินเฟ้อทั่วโลกเริ่มชะลอลงคาดเฟดคงดอกเบี้ย 5.50% แนะจับจังหวะลงทุนหุ้นจีน A-Share และไทยมูลค่ายังถูก