เครือข่ายพลเมืองเน็ต ดันแคมเปญเข้าชื่อหยุดชุดกฎหมาย "ความมั่นคงดิจิทัล" 10+3 ฉบับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          เครือข่ายพลเมืองเน็ต​ รณรงค์เชิญร่วมลงชื่อ “หยุดชุดกฎหมาย​ 'ความมั่นคงดิจิทัล'​” ผ่านเว็บไซต์​ Change.org
          วันนี้ (23 ม.ค.58) นายอาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ต กล่าวถึงที่มา ของการผลักดันแคมเปญรณรงค์ เชิญประชาชนผู้ใช้สื่อวิทยุ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ สื่อทุกประเภท ร่วมลงชื่อ “หยุดชุดกฎหมาย​ 'ความมั่นคงดิจิทัล'​” ที่เว็บไซต์ Change.org เนื่องจากเห็นว่า ร่างกฎหมายว่าด้วย การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมาและกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องนั้น แม้บางส่วนจะเป็นประโยชน์ แต่ในภาพรวมแล้ว ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและผู้ประกอบการในหลายด้าน ผูกขาดการเข้าถึงทรัพยากร ไม่ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลดังที่กล่าวอ้าง และมีลักษณะเหมือนกฎหมาย “ความมั่นคงดิจิทัล” เสียมากกว่า
          ทั้งนี้ ทางเครือข่ายภาคประชาชน 6 องค์กร​ ได้แก่ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) มูลนิธิโลกสีเขียว มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชนและสถาบันพัฒนาสื่อภาคประชาชน เคยตั้งข้อสังเกตหลายประการ ซึ่ง​ถูกสรุป​อีกครั้งในจดหมาย​เข้าชื่อดังกล่าว​ ดังนี้
          1. ชุดกฎหมายเหล่านี้โดยเนื้อแท้ ไม่ใช่กฎหมาย “เศรษฐกิจดิจิทัล” แต่เป็นชุดกฎหมายความมั่นคง ที่ให้อำนาจอย่างกว้างขวางกับหน่วยงานและพนักงานเจ้าหน้าที่
          2. ชุดกฎหมายเหล่านี้ โดยเฉพาะร่างกฎหมาย 8 ฉบับที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในวันที่ 6 ม.ค. 2558 ถูกเสนออย่างเร่งรีบ ไม่อยู่ในวาระประชุมปกติ กระทั่งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ไม่เคยเห็นร่างมาก่อน จนน่าสงสัยว่าชุดกฎหมายที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจในวงกว้างเช่นนี้ มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและพิจารณาละเอียดรอบคอบเพียงพอหรือไม่
          3. มีร่างกฎหมายใหม่และแก้ไขเพิ่มเติมอย่างน้อย 5 ฉบับ (ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์-มั่นคงไซเบอร์-ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์-ปราบปรามสิ่งยั่วยุ-วิธีพิจารณาความอาญา) ที่อนุญาตให้รัฐค้น ยึด อายัด ขอ เข้าถึง และดักรับข้อมูลได้ โดยไม่มีกลไกการพิจารณาตรวจสอบใดๆ จากหน่วยงานตุลาการที่เชื่อถือได้ หรือบางกรณีที่มีก็ไม่ชัดเจนเพียงพอ เป็นการคุกคามเสรีภาพในการแสดงออก สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว และสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล และกระทบต่อความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจด้านข้อมูลข่าวสาร
          4. ร่างพ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ ทำลายความเป็นองค์กรอิสระของหน่วยงานกำกับกิจการ และฉวยโอกาสดึงคลื่นความถี่กลับมาอยู่ในมือรัฐบาลและกองทัพ เหมือนสมัยก่อนรัฐธรรมนูญปี 2540 ทำลายหลักการที่ว่าคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ และทำลายกลไกการแข่งขันเสรีเป็นธรรม
          5. กองทุนที่มาจากค่าใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่และค่าธรรมเนียม ถูกเปลี่ยนวัตถุประสงค์ไปจากเดิมเป็นอย่างมาก จากเดิมเป็นกองทุนวิจัยพัฒนาเพื่อประโยชน์สาธารณะ (ส่งเสริมการคุ้มครองผู้บริโภค ส่งเสริมผู้ประกอบกิจการบริการชุมชน ส่งเสริมจริยธรรมการประกอบวิชาชีพ ส่งเสริมการเข้าถึง ส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อของผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส) กลายเป็นกองทุนเพื่อให้รัฐและเอกชนกู้ยืม
          6. ร่างพ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ ไม่แก้ปัญหาธรรมาภิบาลในการใช้งบประมาณและการใช้อำนาจ ซ้ำยังมีร่างกฎหมายใหม่ในชุดที่จะสร้างหน่วยงานที่มีโครงสร้างงบประมาณและการบริหารที่อาจเกิดปัญหาคล้ายกันขึ้นอีก 3 หน่วยงาน นอกจากนี้ยังไม่ชัดเจนว่าหน่วยงานใหม่เหล่านี้จะมีความรับผิดตามกฎหมายอย่างไร มีกลไกร้องเรียนตรวจสอบได้ทางไหน
          7. ร่างกฎหมายทั้งหมดขาดกลไกคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและสิทธิผู้บริโภคที่ชัดเจน อีกทั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ ก็ไม่มีการรับประกันสัดส่วนจากผู้แทนด้านสิทธิ -- ที่เห็นชัดที่สุดคือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามร่างพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่ตัดการรับประกันกรรมการด้านสิทธิและผู้บริโภคออกไป 3 ตำแหน่ง และเพิ่มกรรมการด้านความมั่นคงเข้ามา 2 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังใช้สำนักงานเลขานุการร่วมกับคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ที่อาจขัดแย้งกัน จนทำให้การตรวจสอบถ่วงดุลเป็นไปได้ยาก
          การผลักดันแคมเปญรณรงค์ดังกล่าว​ มีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีส่วนในการพิจารณาชุดร่างกฎหมายทั้ง​ 10+3 ฉบัคดังกล่าว ได้ทบทวนและระงับร่างกฎหมายที่จะกระทบกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนและทำลายความเชื่อมั่นของการประกอบกิจการในเศรษฐกิจดิจิทัล
          ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถอ่านจดหมาย​เข้าชื่อและร่วมลงชื่อได้ที่ http://goo.gl/PYty3u หรือสามารถเข้าไปที่ www.change.org แล้วเลือกแคมเปญ “หยุดชุดกฎหมาย ความมั่นคงดิจิทัล”
 

ข่าวอาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล+เศรษฐกิจดิจิทัลวันนี้

บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี เปิดตัว THB Programmable Payment อนาคตนวัตกรรมการเงินไทย ยกระดับด้วยเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์

บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนของไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว "THB Programmable Payment" ซึ่งเป็นโครงการภายใต้กรอบการทดสอบนวัตกรรมทางการเงินในขอบเขตที่จำกัดและภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยมีคุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เผยมุมมองเกี่ยวกับภาพรวมอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลและศักยภาพของ Baht Back Token ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ รวมถึงพันธมิตรชั้นนำภายใต้กรอบการทดสอบที่ร่วม

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เด... depa เปิดหลักสูตร "Digital Jumpstart" รุ่น 3 ปั้นผู้นำยุคใหม่ พลิกเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตดิจิทัล — สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เดินหน้าส่งเสริมบุคล...

"Krungsri Finnovate" เผยความเคลื่อนไหวตลอ... "Krungsri Finnovate" หนุนสตาร์ทอัพ AI เจาะตลาดเทคอาเซียน — "Krungsri Finnovate" เผยความเคลื่อนไหวตลอดครึ่งปีแรก 2568 สะท้อนบทบาทผู้นำในการผลักดันนวัตกรรมแ...

The Hoffman Agency (เดอะ ฮอฟแมน เอเจนซี่)... 'The Hoffman Agency' จาก Silicon Valley ขยายธุรกิจสู่ประเทศไทย หนุนนวัตกรรมสู่ยุคดิจิทัล — The Hoffman Agency (เดอะ ฮอฟแมน เอเจนซี่) ประกาศขยายธุรกิจสู่ปร...

กสทช. จัดแถลง “ข้อห่วงใย ต่อร่างกฎหมายพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล 10 ฉบับ"

“ข้อห่วงใย ต่อร่างกฎหมายพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล 10 ฉบับ หวั่นกระทบสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก รวมถึงอำนาจรัฐที่อาจก้าวล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคได้ พร้อมข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงกฎหมาย” แถลงข่าวโดย นายอาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล...