จับตามองจุดตัดรถไฟฟ้าต่อการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ พื้นที่กรุงเทพฯ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          การที่กรุงเทพมหานครมีรถไฟฟ้าให้บริการเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ.2542 ในเส้นทางสุขุมวิท และจากนั้นในปีพ.ศ.2547 จึงมีรถไฟใต้ดินให้บริการคนในกรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงมีส่วนต่อขยายต่างๆ ตามมาจนกระทั่งในปัจจุบัน ซึ่งทั้งรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดินเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน และยังเป็นการเปิดพื้นที่ใหม่ในการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครชั้นในที่เป็นพื้นที่หลักที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่านทั้งถนนสีลม สาทร สุขุมวิท พหลโยธิน รวมทั้งถนนพระรามที่ 4 รัชดาภิเษก และลาดพร้าว ที่มีเส้นทางรถไฟใต้ดินผ่าน ปรากฏว่าตลอดเส้นทางตามแนวถนนเหล่านี้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยสามารถดูได้จากจำนวนคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน อีกทั้งโครงการอื่นๆ ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม ก็จำต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการเพื่อยกระดับขึ้นเป็นอาคารสำนักงานเกรด A หรือโรงแรมระดับ 5 ดาว 
          นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่านอกจากนี้พื้นที่ที่เป็นจุดร่วมของรถไฟฟ้าสองสายที่มาบรรจบกันได้กลายเป็นพื้นที่ทำเลทองในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้ในบริเวณนั้นจะเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนามากอยู่ก่อนแล้วก็ตาม เช่น สยาม อโศก เป็นต้น ซึ่งอาจจะส่งผลห้ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่สำหรับจุดตัดของเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ นั้นกลับเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการมากกว่า โดยจุดตัดที่น่าสนใจ 3 จุดใหญ่ๆ ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาของโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ในอนาคต คือ
          บริเวณสามแยกเตาปูน จุดตัดของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง เป็นทางแยกของรถไฟฟ้าทั้งสองสายดังกล่าว โดยสายสีม่วงจะขึ้นไปทางทิศเหนือตามแนวถนนกรุงเทพ – นนทบุรี สายสีน้ำเงินจะไปทางถนนประชาราษฎร์สาย 2 และเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารของทั้งสองเส้นทาง ตรงจุดแยกนี้ในปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นหลายโครงการ รวมทั้งราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน แม้ว่าส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทาง แต่ตรงจดุที่เป็นทางแยกนี้มีราคาเพิ่มขึ้นกว่าพื้นที่อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด จากที่เมื่อก่อนซื้อขายกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อตารางวา แต่ในปัจจุบันน่าจะมากกว่า 350,000 บาทต่อตารางวาไปแล้ว ซึ่งรวมทั้งตลอดเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสีน้ำเงินที่แยกจากเตาปูนไปก็เป็นเช่นเดียวกันที่ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้น ราคาขายคอนโดมิเนียมก็เช่นกันจากที่ก่อนหน้านี้ช่วงที่เริ่มมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งสองสายใหม่ๆ ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น แต่ในปัจจุบันโครงการใหม่ๆ ราคาขายเริ่มต้นที่มากกว่า 80,000 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว และเกิน 100,000 บาทต่อตารางเมตรในบางโครงการ 
          บางหว้า จุดตัดของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีลมที่ต่อขยายมาจากสะพานตากสิน ในปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นที่จุดนี้ 3 – 4 โครงการ ราคาขายคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ก็ปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเช่นกัน โดยก่อนที่รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจะเปิดให้บริการนั้นราคาขายของคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 55,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ในปัจจุบันหลังจากที่สถานีบางหว้าเปิดให้บริการแล้วราคาขายเฉลี่ยของโครงการเดียวกันนี้อยู่ที่ประมาณ 70,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นมากกว่า 25% ในขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่เปิดขายหลังจากสถานีบางหว้าเปิดให้บริการนั้นมีราคาขายเฉลี่ยมากกว่า 75,000 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว ในส่วนของราคาที่ดินในปัจจุบันเสนอขายกันที่มากกว่า 350,000 บาทต่อตารางวาไปแล้วสูงกว่าเมื่อก่อน มากกว่า 20% ในพื้นที่บริเวณนั้นยังคงมีที่ดินว่างเปล่าเหลืออีกหลายแปลงที่พร้อมจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมในอนาคต
          บริเวณสีแยกท่าพระ ที่ในอนาคตจะเป็นจุดบรรจบของรถไฟฟ้าสายสีน้ำงิน 2 เส้นทาง คือ สายที่มาจากบางซื่อ และจากหัวลำโพง ในปัจจุบันอาจจะยังไม่เป็นที่สนใจของผู้ประกอบการมากนักเมื่อเทียบกับสถานีบางหว้า แต่ในอนาคตน่าจะเป็นอีพื้นที่หนึ่วที่น่าสนใจเพราะด้วยการที่เป็นจุดรวมของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้ง 2 สาย สาเหตุหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ารอบๆ สถานีท่าพระเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีการทำธุรกิจการค้ากันมานานมากกว่า 20 ปีแล้ว ดังนั้นถ้าผู้ประกอบการสนใจจะต้องซื้ออาคารพาณิชย์เหล่านี้เพื่อรวมที่ดินให้มีขนาดใหญ่พอในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งสาเหตุนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตามแนวถนนจรัลสนิทวงศ์ และเพชรเกษมไม่ค่อยมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากนักเมื่อเทียบกับเส้นทางสายสีน้ำเงิน ราคาขายที่ดินในบริเวณนี้มีการเสนอขายกันในบางแปลงที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับโครงการคอนโดมิเนียมอยู่ที่ประมาณ 200,000 - 300,000 บาทต่อตารางวา ปรับเพิ่มขึ้นมาจากปีก่อนหน้านี้ประมาณ 20% ราคาขายคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ก็ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% โดยในปัจจุบันคอนโดมิเนียมมือสองในบริเวณนี้ขายกันที่ประมาณ 58,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 38,000 บาทต่อตารางเมตร
          ห้าแยกลาดพร้าว จุดตัดของรถไฟใต้ดินกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต – คูคต) ซึ่งตรงจุดนี้จะกลายเป็นทำเลที่น่าสนใจในอนาคต เพราะคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในร่างพระราชบัญญัติเวนคืนที่ดิน ตามแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต – คูคต โดยในปัจจุบันรอให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาอนุมัติต่อไป ซึ่งทันทีที่มีการออกข่าวว่าคณะรัฐมนตรีอนุมัติร่างพระราชบัญญัตินี้ ห้าแยกลาดพร้าวทวีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะบริเวณนี้ในปัจจุบันมีความพร้อมมากกว่าจุดตัดอื่นๆ ทั้ง 4 แห่งค่อนข้างมาก เนื่องด้วยมีทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อาคารสำนักงานหลายอาคาร สวนสาธารณะ และมีรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้ว อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากศูนย์คมนาคมพหลโยธินที่จะเป็นศูนย์กลางการขนส่งในอนาคต ดังนั้นบริเวณนี้หลายฝ่ายจึงมีความมั่นใจว่าจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครในอนาคต ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ก็มากกว่า 100,000 บาทไปแล้ว ส่วนของราคาที่ดินก็อยู่ในช่วง 400,000 – 600,000 บาทต่อตารางวาปรับขึ้นมากกว่า 50% ในช่วงปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมากกว่านี้อีกแน่นอนในอนาคต
          รัชดา – ลาดพร้าว จุดตัดอีกแห่งบนถนนลาดพร้าวที่มีความน่าสนใจมากขึ้นหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในร่างพระราชบัญญัติเวนคืนที่ดินเพื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว – สำโรง ที่มีจุดเริ่มต้นที่สถานีลาดพร้าวของรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณนั้นเป็นอีกจุดตัดของเส้นทางรถไฟฟ้าที่มีความสำคัญในอนาคต เพราะถนนลาดพร้าวเป็นถนนที่มีความเจริญ และพื้นที่ทั้งทั้งสองฝั่งถนนเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยที่มีความหนาแน่นมากในปัจจุบัน แต่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต หลังจากที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น 
          เส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และที่กำลังจะเริ่มพัฒนาในอนาคตนั้นเป็นเหมือนตัวเร่งการพัฒนาของพื้นที่ที่อยู่ตามแนวเส้นทางการพัฒนาเหล่านี้ เพราะที่ดินตามแนวเส้นทางการพัฒนารถไฟฟ้าจะมีการปรับเพิ่มขึ้น และจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนมือของที่ดินในบริเวณดังกล่าว เพราะว่าราคาที่ดินมันสูงเกินกว่าจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ประโยชน์แบบอื่นๆ ที่สอดคล้องกับราคาที่ดิน เช่นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน เป็นต้น และการที่ราคาคอนโดมิเนียมปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าก็เป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในบริเวณเหล่านี้ แม้ว่าราคาที่ดินจะปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม เพราะราคาคอนโดมิเนียมเองก็ขึ้นไปแล้วเช่นกัน นายสุรเชษฐ กล่าวสรุป

ข่าวตลาดอสังหาริมทรัพย์+อสังหาริมทรัพย์วันนี้

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย โชว์ความสำเร็จ บุกอสังหาฯ ภาคอีสาน กวาดยอดขายรวมกว่า 600 ล้านบาท หลังเปิด Presale 2 โครงการใหม่

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ยิ้มรับความสำเร็จครั้งใหญ่จากการบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคอีสาน หลังกวาดยอดขายรวมกว่า 600 ล้านบาท จากการเปิดพรีเซลล์ 2 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ "แกรนดิโอ" (GRANDIO) ได้แก่ โครงการ แกรนดิโอ ขอนแก่น-มิตรภาพ และ โครงการ แกรนดิโอ โคราช-เทอร์มินอล ที่มาพร้อมดีไซน์บ้านและทำเลที่ตอบโจทย์ รวมถึงรายล้อมไปด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก นายภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟร

นางดรุณี รุ่งเรืองผล เลขาธิการ สมาคมชุมนุ... จัดอบรมฟรีหัวข้อ Smart Agents with AI ปิดการขายอสังหาฯ ด้วย Chat GPT — นางดรุณี รุ่งเรืองผล เลขาธิการ สมาคมชุมนุมอสังหาริมทรัพย์ไทยหรือ TRECA เตรียมจัดอบร...

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ถือเป็นปีแห่... ส่องโอกาสทองคนซื้อบ้านปี 68 วางแผนเลือกบ้านใหม่อย่างไรให้คุ้มค่า — ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการปรับตัวทั้งในฝั่งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ...

หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ จัดสัมมนา "The Vietn... หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ จัดสัมมนา "The Vietnam Synergy | เชื่อมโยงโลกการลงทุนไทย-เวียดนาม" นักวิเคราะห์ร่วมเจาะอินไซต์ ชี้เวียดนาม ยังคงเป็น Rising Star แนะลงทุน 4 หุ้นเด่น — หลักทรัพย์ ...

แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท เตือนตลาดอสังหาร... แคปปิตอล วัน ชี้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ Q1/2568 หดตัว - แรงซื้อชะลอแม้มาตรการรัฐยังหนุน — แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท เตือนตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 ...

ธนาสิริ กรุ๊ป พาเหรด 12 โครงการพร้อมอยู่ ... THANA ส่งโปรเดือน 5 มาตรการรัฐ On Top X 5 คุ้มค่าน่าอยู่ เริ่ม 1.99 - 18.9 ล้านบาท — ธนาสิริ กรุ๊ป พาเหรด 12 โครงการพร้อมอยู่ ทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่...

ออริจิ้น เวอร์ติเคิล อัดโปรโมชัน "Hello ด... ออริจิ้น เวอร์ติเคิล ปลุกกำลังซื้อ รับมาตรการรัฐกระตุ้นอสังหาฯ ยกทัพ 34 โครงการพร้อมอยู่ อัดโปร! "Hello ดีลเด็ด" ลดสูงสุด 3 ล้านบาท* — ออริจิ้น เวอร์ติเคิ...

ประธานกลุ่มลานไควฟง (LKF Group) และผู้พัฒ... มหาเศรษฐีนักธุรกิจระดับโลก Allan Zeman พลิกบทบาทไลฟ์สไตล์ภูเก็ต เปิดเกมรุกเขย่าตลาดอสังหาฯ — ประธานกลุ่มลานไควฟง (LKF Group) และผู้พัฒนาโครงการหรู Andara ...

มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 เปิดฉากยิ่... อสังหาฯ คึกคัก! มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 เปิดฉาก ย้ำบทบาทฟันเฟืองเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางมาตรการรัฐปลุกกำลังซื้อต้นปี 2568 — มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่...

เจแอลแอล (NYSE: JLL) ประเทศไทย บริษัทที่ป... อนาคตอสังหาริมทรัพย์ไทย 2568: เจแอลแอลเจาะเทรนด์สำคัญพลิกโฉมตลาด ขับเคลื่อนการลงทุน — เจแอลแอล (NYSE: JLL) ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้...