นายสยามรัฐ สุทธานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด ในเอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ในปัจจุบันยังคงมีการแข่งขันสูง และตลาดต่างจังหวัดมีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศและส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้ต้องการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เอสซีจี โลจิสติกส์ จึงวางกลยุทธ์โดยให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ประกอบด้วย กลยุทธ์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับลูกค้า โดยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของธุรกิจทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มระดับการบริการ การสร้างต้นทุนที่แข่งขันได้ โดยเน้นการบริหารสินค้าขาไปและขากลับ (Headhaul-Backhaul Management) และการขนส่งโดยใช้พาหนะหลายรูปแบบ (Multimodal) นอกจากนี้ ยังขยายเครือข่ายการกระจายสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจลูกค้าทั้งในประเทศและขยายไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งข้ามประเทศ (Cross Border Transportation) โดยเน้นพัฒนาด่านที่สำคัญ 3 ด่าน ได้แก่ อรัญประเทศ แม่สอด และมุกดาหาร การสร้างฐานและขยายเครือข่ายการขนส่งในกลุ่มประเทศ GMS และอินโดนีเซีย และการศึกษาการจัดตั้งบริษัทโลจิสติกส์ในประเทศพม่าและอินโดนีเซีย
เอสซีจี โลจิสติกส์ ยังมุ่งเน้นกลยุทธ์การพัฒนาบริการเพื่อรองรับธุรกิจ SMEs โดยเปิดตัว “Nationwide One stop service” บริการกระจายสินค้าครบวงจร ทั้งการรับ-เก็บ-จ่ายสินค้า การบริหารสินค้าคงคลัง การจัดส่งถึงที่หมายทั่วประเทศภายในวันรุ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เพื่อรองรับธุรกิจ SMEs ที่ต้องการกระจายสินค้าที่ไม่เต็มเที่ยว แต่สามารถกระจายไปยังทั่วประเทศได้ เช่น กลุ่มสินค้าเคหะภัณฑ์และตกแต่งบ้าน (Home Improvement) นอกจากนี้ ยังพัฒนาบริการให้สามารถส่งถึงทั่วประเทศได้ภายในวันรุ่งขึ้น เพื่อตอบสนองสินค้าที่ไม่สะดวกจัดเก็บที่ปลายทาง สินค้าที่ต้องการใช้งานอย่างเร่งด่วน และสินค้าที่มีอายุการเก็บสั้น (Short life products) เช่น กลุ่มอะไหล่ยนต์ (Auto part) โดยค่าขนส่งที่สูงขึ้นจะคุ้มค่าเนื่องจากได้ลดต้นทุนสินค้าคงคลัง (Inventory) และการไม่สูญเสียโอกาสทางการขาย ทั้งนี้ เอสซีจี โลจิสติกส์ ตั้งเป้าเพิ่มยอดรายได้ Nationwide One Stop Service จากลูกค้านอกเครือฯ 10 เท่า ภายใน 5 ปี
“เราลงทุนศูนย์กระจายสินค้า ทั้งในส่วนกลางและในภูมิภาค รวมถึงระบบบริหารที่ใช้ควบคุมตั้งแต่ ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่กระบวนการรับคำสั่งซื้อจนถึงการส่งมอบสินค้าและการชำระเงิน อาทิ ศูนย์กระจายสินค้าภาคกลาง วังน้อย ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ลงทุนระบบที่ทันสมัยด้วยเงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท มีพื้นที่ให้บริการ 18,000 ตร.ม. เชื่อมต่อภูมิภาคต่างๆ ทั่วไทย ลงทุนระบบต่างๆ ประกอบด้วย AS-RS (Automated Storage and Retrieval System) ระบบจัดเก็บและหยิบสินค้าอัตโนมัติบนชั้นวางสูง 13 ชั้น จัดเก็บและหยิบสินค้าได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้า ชั้นวางสินค้าแบบ Selective Rack สูง 6 ชั้น พร้อมรถยกสินค้าแนวสูง และระบบจัดการคลังสินค้า SAP – EWM เวอร์ชั่นล่าสุดควบคุมการเก็บ/จ่ายสินค้าและจัดการทรัพยากรภายในคลัง” นายสยามรัฐ กล่าว
นอกจากนี้ ยังผลักดันกลยุทธ์การสร้างมาตรฐานและความยั่งยืนในธุรกิจโลจิสติกส์ โดยดำเนินโครงการถนนสร้างสุข ที่มุ่งมั่นลดอุบัติเหตุและสร้างถนนปลอดภัยให้กับสังคม โดยมีการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเส้นทางที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อประสานงานกับภาครัฐในการปรับปรุงให้ปลอดภัยต่อไป เริ่มต้นจากพื้นที่ที่เอสซีจีมีโรงงาน และมีรถขนส่งของเอสซีจี โลจิสติกส์วิ่งผ่านจำนวนมาก อีกทั้งยังยกระดับมาตรฐานธุรกิจโลจิสติกส์ โดยฝึกทักษะและสร้างจิตสำนึกขับขี่ปลอดภัยให้กับพนักงานขับรถของบริษัทฯ ด้วยการจัดอบรมและกิจกรรมต่างๆ อาทิ สร้างศูนย์ฝึกอบรมทักษะการขับขี่ที่ม่วงน้อย พัฒนาความสามารถของพนักงานขับรถด้วยการอบรมจากครูฝึกมืออาชีพ กิจกรรมสุภาพบุรุษนักขับ แข่งขันทักษะการขับขี่ประจำปี เสริมสร้างพนักงานขับรถให้มีทักษะการขับขี่ที่ชำนาญและปลอดภัย
“เอสซีจี โลจิสติกส์ เชื่อมั่นว่าการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้ลูกค้า ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี โลจิสติกส์ ให้เติบโตขึ้นตามแผน โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 17,300 ล้านบาท ภายในปีนี้ ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโตที่เพิ่มขึ้น 12% ” นายสยามรัฐ กล่าวในตอนท้าย
เอสซีจี โลจิสติกส์ ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง นำเสนอบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยมุ่งเน้นการเป็นคู่ค้าทางธุรกิจในระยาว เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ETL ไฮซีซั่นธุรกิจ รับดีมานด์ขนส่งแน่น เตรียมเพิ่มเส้นทาง จีน-เวียดนาม และ เอเชียกลาง ตั้งเป้า Gross Margin 12%
นักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายหุ้นไอพีโอ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์ ธุรกิจลานตู้ 8.00 - 9.50 บาท ชี้เป็นหุ้นเติบโต
J&T Express จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ตอกย้ำก้าวสำคัญสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับโลก
5 ผลงานศิลปะหลักล้าน สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในงาน 'COLOR UP' แรงสวนกระแสเศรษฐกิจ TAAC ปิดยอดประมูลสูงกว่า 30 ล้านบาท!
ทีทีบี สนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้กลุ่มบริษัท คาทูน นาที ผู้นำด้านโลจิสติกส์ ขยายธุรกิจบริการคลังสินค้า รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
ผู้บริหาร JWD เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามร่วมทุนระหว่าง SCGL และ Royal Cargo ฟิลิปินส์
SCG Logistics และ Royal Cargo Inc. ลงนามจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อยกระดับบริการและขยายตลาดโลจิสติกส์ในฟิลิปปินส์ ตั้งเป้ารายได้ 154 ล้านบาท ในปี 2570
ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จัดแสดงโครงการและการลงทุนสีเขียวเพื่อความยั่งยืน ในงานประชุมเอเปค 2022 ขานรับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล