โรงแรมทาวน์อินทาวน์สัญญาไม่กีดกันผู้ติดเชื้อเอชไอวีอีกต่อไป

12 Feb 2015
หลังจากที่มีการรณรงค์ผ่าน Change.org/townintown เรียกร้องให้โรงแรมทาวน์อินทาวน์เลิกปฏิเสธการให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยมีผู้ลงชื่อสนับสนุนทั้งจากประเทศไทย สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส กว่า 15,000 เสียง ล่าสุด ตัวแทนจากโรงแรมฯ สัญญาว่าจะไม่ปฏิเสธผู้ติดเชื้อเอชไอวีอีกต่อไป

คณะอนุกรรมการด้านสิทธิผู้สูงอายุ ผู้พิการ บุคคลหลากหลายทางเพศ และการสาธารณสุข คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เชิญตัวแทนจากเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้บริหารโรงแรมทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพฯ จากกรณีที่โรงแรมฯ ปฏิเสธให้บริการองค์กรที่ทำงานด้านเอดส์

นายปัญญา สุวรรณไพรพัฒนะ ประธานกรรมการบริหารโรงแรมทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพฯ แจ้งว่า โรงแรมไม่มีนโยบายกีดกันการเข้าใช้บริการของกลุ่มหรือองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือกลุ่มใดๆ และยินดีให้บริการทุกกลุ่มเหมือนกัน ทั้งนี้ จะกลับไปทำความเข้าใจให้กับพนักงานทุกคนทราบ และจะไม่ให้มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก

ด้านนายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้บริหารโรงแรมฯ ที่มาพูดคุยและทำความเข้าใจกัน เพื่อจะได้สร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์ เพื่อให้ผู้ติดเชื้อฯ มีที่ยืนในสังคม และมีความเสมอภาคเท่าเทียมกับคนอื่น

ทั้งนี้ การรณรงค์ครั้งนี้เริ่มขึ้นผ่าน Change.org เนื่องจากเจ้าของการรณรงค์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย โดนโรงแรมฯ ปฏิเสธการให้บริการ เนื่องจากเป็นผู้ติดเชื้อฯ และทำงานกับองค์กรที่ทำงานเรื่องผู้ติดเชื้อฯ โดยกล่าวว่า

“ผมเป็นคนหนึ่งที่มีเชื้อเอชไอวี และตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้ใช้บริการโรงแรมทาวน์อินทาวน์เป็นสถานที่จัดงานให้ความรู้เพื่อให้เราทุกคนอยู่ร่วมกันได้ การที่โรงแรมไม่อนุญาตให้ผู้ติดเชื้อฯ และองค์กรที่ทำงานด้านเอดส์ใช้บริการของโรงแรมเป็นการกีดกันสองต่อ ทั้งในฐานะที่พวกเราบางคนมีเชื้อเอชไอวี และในด้านการดำเนินงานเพื่อให้ความรู้เรื่องเอชไอวีแก่สังคม การออกนโยบายไม่รับผู้ติดเชื้อฯ ให้ใช้บริการ โดยอ้างว่าลูกค้าคนอื่นกังวลใจที่จะใช้ห้องพัก ห้องอาหารร่วมกันนั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น

ผมอยากให้ผู้บริหารของโรงแรมทาวน์อินทาวน์ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการขอโทษต่อสังคม ต่อผู้ติดเชื้อฯ และเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ที่ไม่รังเกียจ กีดกันผู้ติดเชื้อฯ”

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า เขายังคงพบการเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อฯ จากการสมัครงาน หรือเข้าเรียนหนังสืออยู่บ่อยครั้ง แม้บริษัทหลายแห่งที่เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจจะยอมแก้ไขและยกเลิกระเบียบปฏิบัติ แต่คณะทำงานไม่สามารถไล่พูดคุยกับทุกบริษัทได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันทำความเข้าใจว่าเชื้อเอชไอวีไม่ได้ติดต่อจากการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน