เมอร์ซี คอร์ปส์ จับมือ มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ เปิดตัว เครือข่ายระดับภูมิภาคของเอเชียเพื่อสร้างเมืองที่สามารถรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ในการประชุมระดับเอเชีย-แปซิฟิกเรื่องความสามารถในการรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 1 ซึ่งได้จัดขึ้นในสัปดาห์นี้ที่กรุงเทพมหานคร กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องเมือง ทั้งระดับท้องถิ่นและภูมิภาคได้รับการเชิญชวนให้เข้าร่วมกับเครือข่ายการรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
โดย โครงการเครือข่ายเมืองในเอเชียเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Asian Cities Climate Change Resilience Network: ACCCRN) ได้มีการเปิดตัวเครือข่าย ACCCRN ในระดับภูมิภาค นำโดย เมอร์ซี คอร์ปส์ หน่วยงานที่ทำงานด้านมนุษยธรรมระดับโลก สืบเนื่องจากผลสำเร็จของโครงการ ACCCRN ผลักดันให้ เมอร์ซี คอร์ปส์ มีความตั้งใจที่จะขยายความร่วมมือให้กว้างขึ้น โดยมุ่งมั่นที่จะรวบรวมผู้ปฏิบัติงานและหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากระดับชาติ ภูมิภาคและท้องถิ่น มาทำงานร่วมกันในการช่วยให้เมืองต่างๆ สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและสามารถฟื้นตัวจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกอาศัยอยู่ในเขตเมือง และมีแนวโน้มการย้ายเข้ามาสู่สังคมเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้สภาพเมืองเกิดความเปราะบาง และก่อให้เกิดสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
นายจิม จาร์วีย์ ผู้อำนวยการของเมอร์ซี คอร์ปส์และเครือข่าย ACCCRN กล่าวว่า “เรากำลังเผชิญกับความถี่และความรุนแรงของพายุที่เพิ่มมากขึ้น ความคลาดเคลื่อนของฤดูเพาะปลูกที่ยากต่อการคาดการณ์ รวมถึงปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งกลายเป็นปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศของหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก”
นอกจากนี้ เมื่อกระบวนการกลายเป็นเมืองเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มคนยากจนและผู้อพยพจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุด ซึ่งการช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ให้สามารถดำรงชีวิต มีที่อยู่อาศัย และคงไว้ซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีได้นั้นจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการในการระดมความคิด เพื่อแสวงหาแนวทางการจัดการกับการบริหารเมืองแบบใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาและทำให้ชุมชนมีความสามารถในการรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น นายจิม จาร์วีย์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ. 2552 เมอร์ซี คอร์ปส์ ได้นำร่อง โครงการ ACCCRN ในเมืองบันดาร์ ลัมปุง และเมืองเซมารัง ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสองเมืองที่มีความเสี่ยงต่อการเผชิญกับอุทกภัยและความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอยู่ในขณะนั้น โดย เมอร์ซี คอร์ปส์ได้เชิญรัฐบาลและผู้นำชุมชนมาร่วมหารือเพื่อเสริมสร้างความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินและเตรียมแผนการรับมือกับอุทกภัย แผ่นดินถล่ม และภัยพิบัติอื่นๆ รวมถึงผลกระทบระยะยาวจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ด้าน นายแอชวิน ดายัล ผู้ช่วยรองประธานมูลนิธิและผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชีย มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ กล่าวว่า “นับเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเปิดตัวเครือข่าย ACCCRN และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ในการนำความคิดเรื่องการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศไปปฏิบัติจริง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณากระบวนการกลายเป็นเมือง เราเห็นความเปราะบางของชุมชนต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น เครือข่ายระดับภูมิภาคจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่มาทำความรู้จักกัน ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ และผลักดันวาระเรื่องการรับมือต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยให้เมืองต่างๆ สามารถรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น และสามารถเตรียมความพร้อมที่จะจัดการกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ทำให้ชุมชนมีศักยภาพในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ด้วยตนเอง”
โครงการ ACCCRN เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2551 จากการริเริ่มของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ โดยมีจุดมุ่งหมายในการเสริมสร้างศักยภาพให้กับเมืองที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในประเทศบังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิลปปินส์ ไทย และเวียดนาม เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในทุกขณะและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่เริ่มต้น
ปัจจุบัน มีเมืองจำนวนกว่า 50 เมืองเข้าร่วมกับโครงการ ACCCRN แล้ว โดยการขยายตัวของเครือข่าย ACCCRN จะมีลักษณะเป็นการเปิดรับสมาชิกจากทุกกลุ่มที่มุ่งมั่นในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ สำหรับกลุ่มคนทำงานและสถาบันต่างๆ ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมเครือข่าย ACCCRN ได้โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.acccrn.net
โดย โครงการเครือข่ายเมืองในเอเชียเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Asian Cities Climate Change Resilience Network: ACCCRN) ได้มีการเปิดตัวเครือข่าย ACCCRN ในระดับภูมิภาค นำโดย เมอร์ซี คอร์ปส์ หน่วยงานที่ทำงานด้านมนุษยธรรมระดับโลก สืบเนื่องจากผลสำเร็จของโครงการ ACCCRN ผลักดันให้ เมอร์ซี คอร์ปส์ มีความตั้งใจที่จะขยายความร่วมมือให้กว้างขึ้น โดยมุ่งมั่นที่จะรวบรวมผู้ปฏิบัติงานและหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากระดับชาติ ภูมิภาคและท้องถิ่น มาทำงานร่วมกันในการช่วยให้เมืองต่างๆ สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและสามารถฟื้นตัวจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกอาศัยอยู่ในเขตเมือง และมีแนวโน้มการย้ายเข้ามาสู่สังคมเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้สภาพเมืองเกิดความเปราะบาง และก่อให้เกิดสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
นายจิม จาร์วีย์ ผู้อำนวยการของเมอร์ซี คอร์ปส์และเครือข่าย ACCCRN กล่าวว่า “เรากำลังเผชิญกับความถี่และความรุนแรงของพายุที่เพิ่มมากขึ้น ความคลาดเคลื่อนของฤดูเพาะปลูกที่ยากต่อการคาดการณ์ รวมถึงปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งกลายเป็นปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศของหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก”
นอกจากนี้ เมื่อกระบวนการกลายเป็นเมืองเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มคนยากจนและผู้อพยพจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุด ซึ่งการช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ให้สามารถดำรงชีวิต มีที่อยู่อาศัย และคงไว้ซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีได้นั้นจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการในการระดมความคิด เพื่อแสวงหาแนวทางการจัดการกับการบริหารเมืองแบบใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาและทำให้ชุมชนมีความสามารถในการรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น นายจิม จาร์วีย์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ. 2552 เมอร์ซี คอร์ปส์ ได้นำร่อง โครงการ ACCCRN ในเมืองบันดาร์ ลัมปุง และเมืองเซมารัง ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสองเมืองที่มีความเสี่ยงต่อการเผชิญกับอุทกภัยและความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอยู่ในขณะนั้น โดย เมอร์ซี คอร์ปส์ได้เชิญรัฐบาลและผู้นำชุมชนมาร่วมหารือเพื่อเสริมสร้างความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินและเตรียมแผนการรับมือกับอุทกภัย แผ่นดินถล่ม และภัยพิบัติอื่นๆ รวมถึงผลกระทบระยะยาวจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ด้าน นายแอชวิน ดายัล ผู้ช่วยรองประธานมูลนิธิและผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชีย มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ กล่าวว่า “นับเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเปิดตัวเครือข่าย ACCCRN และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ในการนำความคิดเรื่องการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศไปปฏิบัติจริง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณากระบวนการกลายเป็นเมือง เราเห็นความเปราะบางของชุมชนต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น เครือข่ายระดับภูมิภาคจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่มาทำความรู้จักกัน ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ และผลักดันวาระเรื่องการรับมือต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยให้เมืองต่างๆ สามารถรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น และสามารถเตรียมความพร้อมที่จะจัดการกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ทำให้ชุมชนมีศักยภาพในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ด้วยตนเอง”
โครงการ ACCCRN เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2551 จากการริเริ่มของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ โดยมีจุดมุ่งหมายในการเสริมสร้างศักยภาพให้กับเมืองที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในประเทศบังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิลปปินส์ ไทย และเวียดนาม เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในทุกขณะและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่เริ่มต้น
ปัจจุบัน มีเมืองจำนวนกว่า 50 เมืองเข้าร่วมกับโครงการ ACCCRN แล้ว โดยการขยายตัวของเครือข่าย ACCCRN จะมีลักษณะเป็นการเปิดรับสมาชิกจากทุกกลุ่มที่มุ่งมั่นในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ สำหรับกลุ่มคนทำงานและสถาบันต่างๆ ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมเครือข่าย ACCCRN ได้โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.acccrn.net
ข่าวมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์+กรุงเทพมหานครวันนี้
ม.มหิดลชูแนวคิดเกษตรยั่งยืน 'Resilience Agriculture’ สร้าง 'เศรษฐกิจชุมชน’ ก่อนก้าวสู่ 'เศรษฐกิจโลก’
แม้ไทยจะได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ (Rockefeller Foundation) มานานนับศตวรรษ โดยเริ่มต้นที่ด้านสาธารณสุข แต่ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง (Climate Change) ทำให้โลกในยุคปัจจุบันได้ขยายขอบเขตสู่ “การเกษตรและสิ่งแวดล้อม” ที่จะทำให้โลกยั่งยืนได้ต่อไปอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด “Resilience Agriculture” รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา ผู้ช่วยคณบดีด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) และประธานสาขาการจัดการที่ยั่งยืน (Managing for Sustainability) วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU
มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์และสถาบันเดอะนัดจ์ เผยรายงานผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อเกษตรกรรายย่อยในอินเดีย ปูทางสู่การแก้ปัญหาอย่างแข็งแกร่ง
เกษตรกรรายย่อยราว 70% สูญเสียผลผลิตถึง 50% ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาจากปัญหาสภาพภูมิอากาศ มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ (The Rockefeller Foundation) และสถาบัน...
ม.มหิดลสร้างความมั่นคงอาหารโลกผ่านงานวิจัยใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ
—
"อาหาร" นอกจากให้ "พลังงานชีวิต" ยังนับเป็นหนึ่งในความมั่นคงสำคัญของโลก ที่ผ่...
มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์และมหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนด้านการแพทย์
—
จากคำแนะนำและการสนับสนุนของกรมค...