ซีคอน โฮม ชี้ธุรกิจรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังแข่งดุ งัดกลยุทธ์ใหม่ชิงแชร์ทุกระดับราคา ระดมอัดโปรโมชั่นโอกาสทองผู้บริโภค เผยราคาวัสดุแนวโน้มยังนิ่ง

10 Jul 2015
ซีคอน โฮม ชี้ธุรกิจรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังแข่งดุ งัดกลยุทธ์ใหม่ชิงแชร์ทุกระดับราคา ระดมอัดโปรโมชั่นโอกาสทองผู้บริโภค เผยราคาวัสดุแนวโน้มยังนิ่ง คาดปิดฉากปี 58 กวาดยอดขายทะลุพันล้าน
ซีคอน โฮม ชี้ธุรกิจรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังแข่งดุ งัดกลยุทธ์ใหม่ชิงแชร์ทุกระดับราคา ระดมอัดโปรโมชั่นโอกาสทองผู้บริโภค เผยราคาวัสดุแนวโน้มยังนิ่ง

นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยในครึ่งปีแรก 2558 ยังคงทรงตัวและบางตลาดอาจจะมีอัตราเติบโตที่ลดลง แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านก็ยังเดินหน้าอัดงบการตลาดเพื่อกระตุ้นและสร้างให้เกิดกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มสีสันทางการตลาดให้แก่ธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยในครึ่งปีแรกอย่างมาก และถือเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่จะสร้างบ้านได้ในราคาคุ้มสุดคุ้ม

"ปัจจุบันธุรกิจรับสร้างบ้านต้องปรับตัวอย่างมาก ไม่สามารถใช้แผนการขายในรูปแบบเดิมๆ ได้อีก โดยรูปแบบใหม่ที่ถูกนำมาใช้ในปัจจุบันเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค อาทิ การเพิ่มบริการ one stop service, การขยายตลาดไปยังต่างจังหวัดหรือประเทศเพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งการขยับการให้บริการออกไปในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ประเภทโฮมออฟฟิตหรือมินิคอนโด ตลอดจนการปรับเพิ่มหรือลดระดับราคาบ้านที่ตนเองเคยถนัดก็มีให้เห็นในยุคนี้" นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กล่าว

หากวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มบ้านในแต่ละระดับราคา ณ ปัจจุบันแล้ว นางสาวศุภิชชาแสดงความเห็นว่า "ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาบ้านอย่างเห็นได้ชัดและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสภาพตลาดรับสร้างบ้านเป็นอย่างมาก โดยกลุ่มบ้านที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น คือ กลุ่มบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท และ 2.5 – 4 ล้านบาท สะท้อนถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นกลุ่ม first home อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ใช้สินเชื่อธนาคารมากถึง 80% ส่วนกลุ่มที่มีการเติบโตขึ้นอีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นตลาดที่มีผลกระทบน้อยมากจากภาวะเศรษฐกิจ และมีการขยายตัวในทางบวกเสมอมา แม้ว่าช่วงไตรมาสแรกจะชะลอตัวเล็กน้อยในระยะเวลาอันสั้น สืบเนื่องจากการผลักดันกฏหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่เมื่อรัฐบาลยกเลิกการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและคงจัดเก็บภาษีที่ดินเท่านั้น ทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ"

"ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มตลาด ณ ปัจจุบันนั้น จะเห็นได้ว่า กลุ่มบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้าน จะเป็นกลุ่มที่ชัดเจนในงบประมาณ ดังนั้นเรื่องของ function การใช้สอยและ specification จะอยู่ในความพอเพียงตามงบประมาณที่มีอยู่ ในขณะที่ กลุ่มบ้านระดับราคา 2.5 – 4 ล้าน จะเป็นกลุ่มกลางๆ ที่พอจะขยับขยายเรื่องงบประมาณเพิ่มขึ้นได้บ้าง มีกำลังซื้อพอสมควร รูปแบบบ้านและ function การใช้สอย รวมทั้ง specification ของวัสดุจะมีการปรับเปลี่ยนได้มากขึ้น

ตามความต้องการของสมาชิกในครอบครัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ส่วนกลุ่มบ้านระดับราคา 5 – 10 ล้าน และ 10 – 20 ล้าน ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง จึงมีความพิถีพิถันมากในทุกๆเรื่องตั้งแต่ความสวยงามของแบบบ้าน , ความลงตัวของ function การใช้สอย ที่อาจต้องมีความต้องการพิเศษ รวมไปถึงการเลือกวัสดุใน specification สูง และการออกแบบตกแต่งภายในที่มีความซับซ้อมมากยิ่งขึ้น และสุดท้าย กลุ่มบ้านระดับราคา 20 ล้านขึ้นไป เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการพิเศษ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยอมจ่ายเงินในสิ่งที่ตนต้องการในทุกๆ เรื่อง ณ ปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านไม่ใช่แค่เรื่องราคาเท่านั้น แต่ผู้บริโภคในปัจจุบัน มององค์ประกอบอื่นๆ เป็นเครื่องช่วยในการตัดสินใจด้วยเช่นกัน อาทิ การพัฒนาแบบบ้านใหม่ๆ ให้เหมาะกับยุคสมัยและไลฟ์สไตล์อย่างสอดคล้อง การออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของครอบครัวนั้นๆ ให้กลายเป็นส่วนที่สะท้อนบุคลิกส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นธุรกิจที่ผสานตรรกะแห่งความจริง สุนทรียด้านดีไซน์ และความเชี่ยวชาญเป็นสำคัญ" นางสาวศุภิชชา กล่าวเสริม

ทั้งนี้ ต่อคำถามเกี่ยวกับมุมมองของซีคอนโฮมต่อภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังนั้น นางสาวศุภิชชา กล่าวเสริมว่า "ภาพรวมจะใกล้เคียงกับในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดรับสร้างบ้านในระดับราคา 3-6 ล้านจะยังครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด แต่ละบริษัทก็ยังต้องจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกันแบบแข่งดุต่อไป ซึ่งช่วงที่น่าจับตาอีกครั้งน่าจะเป็นช่วงสิงหาคมและธันวาคมของปีนี้ เพราะจะมีการจัดงานใหญ่ทั้งในส่วนของสมาคมและในส่วนของซีคอนโฮมเอง มองว่า ในอนาคตธุรกิจรับสร้างบ้านจะเหลือผู้เล่นในตลาดน้อยรายลง ผู้ที่อยู่ได้นอกจากจะมีสายป่านทางการเงินที่มั่นคงแล้ว เทคโนโลยีประสบการณ์ และการพัฒนาแรงงานระดับแรงงานฝีมือก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมากเช่นกัน ทำอย่างไรที่เราจะสามารถเติบโตขึ้นท่ามกลางปัจจัยรอบตัวที่ทำให้ต้องคิดเยอะขึ้นอันนี้เป็นเรื่องที่ธุรกิจรับสร้างบ้านต้องปรับตัวเช่นกัน ในขณะที่การขยับขึ้นราคาน่าจะเป็นเรื่องยากในยุคปัจจุบัน"

ทั้งนี้ในปี 2558 กลุ่มบริษัทซีคอนโฮมวางเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 1,100 ล้านบาท โดยปิดฉากครึ่งปีแรกสามารถกวาดยอดขายไปได้แล้ว 520 ล้านบาทซึ่งมาจากกลุ่มบ้านของซีคอนโฮมระดับราคา 5 – 20 ล้านบาทรวม 240 ล้านและกลุ่มบ้านของคอมแพค โฮมและบัดเจ็ท โฮม รวม 280 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนของทั้ง 2 กลุ่มค่อนข้างใกล้เคียงกันในสัดส่วน 46:54 ตามลำดับ