สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ เดือนมกราคม - เมษายน ทั้งสิ้น 172,552.22 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.89 โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 52,166.34 ล้านบาท อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 18.02 และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปจำนวน 120,385.87 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.09 โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 84
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ในการพิจารณาข้อมูลสถิติของธุรกิจประกันชีวิต สมาคมจะพิจารณาแยกเป็น 2 กรณี คือ ประการแรกจะพิจารณาถึงขนาดของบริษัท โดยจะพิจารณาถึงการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ซึ่งหมายถึงเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ (New Business Premium) รวมกับเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป (Renewal Premium) โดยจะมีการพิจารณาถึงอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตประกอบด้วย และประการที่สอง จะพิจารณาถึงการขยายงานของบริษัท จะพิจารณาจากการเติบโตเฉพาะเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่เพียงอย่างเดียว ซึ่งเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่หมายถึง เบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก (First Year Premium) รวมกับเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว (Single Premium)
สถิติเบี้ยประกันชีวิตรับสิ้นเดือนเมษายน ของปี 2558 ซึ่งสมาคมประกันชีวิตไทยได้รวบรวมจากบริษัทประกันชีวิตทุกบริษัท มีดังนี้
1. เบี้ยประกันชีวิตรับรวม ตั้งแต่มกราคม – เมษายน 2558 มีทั้งสิ้น 172,552.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 0.89 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุด หรือมีขนาดใหญ่สูงสุด 7 อันดับแรก คือ
อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 36,142.27 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 20.95
อันดับที่ 2 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 30,408.66 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 17.62
อันดับที่ 3 บมจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 19,967.35 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.57
อันดับที่ 4 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำนวน 18,893.44 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.95
อันดับที่ 5 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 18,355.86 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.64
อันดับที่ 6 บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำนวน 17,135.31 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.93
อันดับที่ 7 บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำนวน 8,762.56 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 5.08
รวม 7 อันดับแรก ครองสัดส่วนการตลาดร้อยละ 86.74 และอีก 17 บริษัทที่เหลือครองสัดส่วนการตลาด ร้อยละ 13.26
2. เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ ตั้งแต่มกราคม – เมษายน 2558 มีทั้งสิ้น 52,166.34 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 18.02 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่สูงสุด หรือมีการขยายงานสูงสุด 7 อันดับแรก คือ
อันดับที่ 1 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 13,153.03 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 25.21
อันดับที่ 2 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 8,169.49 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 15.66
อันดับที่ 3 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิตจำนวน 6,407.72 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 12.28
อันดับที่ 4 บมจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำนวน 6,251.56 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.98
อันดับที่ 5 บมจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 4,921.92 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.44
อันดับที่ 6 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 2,620.65 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 5.02
อันดับที่ 7 บมจ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำนวน 2,475.48 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 4.75
ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปที่มีจำนวน 120,385.87 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.09 โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 84 ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี แสดงถึงผู้เอาประกันชีวิตให้ความสำคัญของการประกันชีวิตมากขึ้นเป็นลำดับ อีกทั้งบริษัทประกันชีวิตแต่ละบริษัทได้มีการพัฒนาแบบของผลิตภัณฑ์ออกมาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด ส่งผลให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างมั่นคง สมาคมจึงขอให้ผู้เอาประกันชีวิตที่ถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่แล้ว ชำระเบี้ยประกันชีวิตตามกำหนดเวลาจนกระทั่งครบสัญญา อย่ายกเลิกการชำระเบี้ยประกันชีวิตก่อนเวลาที่สัญญากำหนด มิฉะนั้นจะทำให้เกิดผลเสีย คือ ผู้เอาประกันชีวิตจะได้รับเงินคืนน้อยกว่าเบี้ยประกันชีวิตที่ได้จ่ายไป และหากจะทำสัญญาประกันชีวิตฉบับใหม่จะต้องจ่ายเบี้ยประกันชีวิตแพงขึ้น เพราะการทำประกันชีวิตนั้น ถ้าผู้เอาประกันชีวิตมีอายุสูงขึ้นในวันทำสัญญาจะต้องจ่ายเบี้ยประกันชีวิตแพงขึ้นกว่าเดิม
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายข้อมูลเพื่อการพัฒนาธุรกิจ สมาคมประกันชีวิตไทย โทรศัพท์ 0-2679-8080 ต่อ 532 หรือ Download ข้อมูลสถิติได้จาก http://www.tlaa.org/2012/statistics.php