นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี (สคร.7) เปิดเผยว่า การกินอาหารรสเค็มจัด กินผักผลไม้น้อย ขาดการออกกำลังกาย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มีภาวะเครียด และอายุที่เพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง จะมีระดับความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท โดยมีสัญญาณอาการเตือน เช่น ปวดมึนที่บริเวณท้ายทอย วิงเวียน ปวดศีรษะตุบตุบ หากเป็นมานานหรือระดับความดันสูงมากๆ จะมีเลือดกำเดาไหล ตามัว หรือมองเห็นภาพซ้อน มือสั่น หรือมือเท้าชา เมื่อปล่อยนานไปโดยไม่ได้รับการดูแลรักษา แรงดันในหลอดเลือดที่สูง จะไปทำลายผนังหลอดเลือดและอวัยวะที่สำคัญทั่วร่างกาย เป็นสาเหตุให้เกิดหัวใจล้มเหลว หลอดเลือดสมองแตก/ตีบโรคเบาหวาน และมีแนวโน้มของการเพิ่มการเป็นโรคไตวายระยะสุดท้าย ตามมาได้
นพ.ศรายุธ กล่าวต่อว่า สิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคของการควบคุมความดันโลหิตคือ ประชาชนไม่รู้ว่าความดันโลหิตของตัวเองมีระดับสูงกว่าค่าปกติ จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บ ปีพ.ศ. 2553 โดยการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างอายุตั้งแต่ 15 – 74 ปี ของกรมควบคุมโรค พบว่า 1 ใน 5 ของประชากรอายุ 35 – 74 ปี ไม่ได้รับการตรวจความดันโลหิตจากแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา สมาพันธ์ความดันโลหิตสูงโลกจึงได้มีการกำหนดวันความดันโลหิตสูงโลก เป็น วันที่ 17 พฤษภาคม ของทุกปี โดยมีคำขวัญเพื่อการรณรงค์ว่า “ท่านทราบระดับความดันโลหิตของท่านหรือไม่” “Know Your Blood Pressure”เพื่อสร้างความตระหนักต่อโรคความดันโลหิตสูง
ทั้งนี่ การปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงโรคความดันโลหิตสูง คือ การกินอาหารที่มีเกลือโซเดียมให้ลดลง หรือน้อยที่สุด เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ที่มีรสหวานน้อย มีกิจกรรมทางกายหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จำกัดการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม หรือไม่ดื่ม งดสูบบุหรี่รวมถึงหลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่ ประชาชนควรตรวจวัดความดันโลหิตของตนเองอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และต้องรู้ค่าความดันโลหิต ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สำคัญเพื่อที่จะรู้ภาวะตนเอง และการปฏิบัติตัวได้ถูกต้องเพื่อป้องกันควบคุมโรคความดันโลหิตสูง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงสามารถสอบถามได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค นพ.ศรายุธ กล่าวปิดท้าย.
สคร.12 สงขลา ผนึกกำลังเครือข่ายสาธารณสุข ลงพื้นที่เฝ้าระวังเชิงรุกและป้องกัน ควบคุมโรคเลปโตสไปโรสิส หลังน้ำลดในพื้นที่ประสบอุทกภัย จังหวัดสงขลา
ฝนตกหนัก สคร.12 สงขลา เตือน โรคและภัยสุขภาพ ที่มากับน้ำท่วม พร้อมแนะวิธีการป้องกัน
สคร.12 สงขลา เตือน ปชช. เตรียมความพร้อมรับมือ หากเกิดน้ำท่วม (อุทกภัย) เน้นย้ำ ติดตามข้อมูลข่าวสารสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง
สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก 2568 "สุขภาพดี เริ่มจากที่ทำงาน"
สคร.12 สงขลา แนะ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมเน้นย้ำ "หยุด วงจร ไข้หวัดใหญ่ด้วย DMH"
ระวังบุตรหลานจมน้ำ ช่วงหน้าฝนและช่วงปิดเทอม สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด
สคร.12 สงขลา เตือน โรคพิษสุนัขบ้า ติดเชื้อถึงตาย แนะ หากถูกสุนัขกัดให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
สคร.12 สงขลา ชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องในวันหัวใจโลก 2568
สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)