สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ร่วมบูรณาการโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรแปลงใหญ่จังหวัดชัยนาท ชู 3 จุดพื้นที่คัดเลือก คือ ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านวัดพระแก้ว ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหางแขยง และกลุ่มเกษตรกร ต.หนองแซง หวังเกิดการรวมกลุ่มอย่างเข้มแข็ง สู่การสามารถบริหารจัดการการผลิตและการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
นางอัญชนา ตราโช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศก.7) เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรแปลงใหญ่ โดยให้เกษตรกรรวมกลุ่มและรวมพื้นที่การผลิตเป็นแปลงใหญ่ ประมาณ 5,000 ไร่ เพื่อช่วยให้เกษตรกรรายย่อยเข้าถึงข้อมูลแหล่งเงินทุน ทรัพยากรและการตลาด มีอำนาจต่อรองในการหาปัจจัยการผลิตและการจำหน่ายผลผลิตนั้น
ในการนี้ จังหวัดชัยนาท ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัด เพื่อร่วมบูรณาการคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมและ มีศักยภาพ กลุ่มเกษตรกรร่วมมือกันผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งมีเกษตรอำเภอทำหน้าที่ผู้จัดการโครงการ ดูแลตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาคัดเลือก 3 จุด ได้แก่
จุดที่ 1 ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านวัดพระแก้ว ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี พื้นที่ 5,000 ไร่ ได้รับงบประมาณจากกรมการข้าว 1,787,000 บาท สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวปทุมธานี 1 โดยใช้เครื่องโรยเมล็ดพันธุ์แทนการหว่าน ซึ่งจะใช้เมล็ดพันธุ์เพียงไร่ละไม่ถึง 10 กก. ในขณะที่นาหว่านจะใช้เมล็ดพันธุ์ 10 – 20 กก./ไร่ เพื่อไม่ให้ต้นข้าวแน่นเกินไป การดูแลโรคแมลงง่าย มีการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ รวมทั้งใช้สมุนไพรไล่แมลงแทนสารเคมี โดยเริ่มดำเนินการในวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 หลังจากได้รับน้ำชลประทาน
จุดที่ 2 ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหางแขยง ต.หางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ พื้นที่ 5,200 ไร่ ขอรับงบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 71,142,100 บาท สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวปทุมธานี 1 เช่นเดียวกัน
จุดที่ 3 กลุ่มเกษตรกร ต.หนองแซง อ.หันคา พื้นที่ 13,300 ไร่ ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเงินกู้จากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร 63,682,600 บาท โดยการส่งเสริมการปลูกข้าว อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพ และการเลี้ยงโคเนื้อ สุกร
ทั้งนี้ คาดว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มอย่างเข้มแข็ง พร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในการผลิตข้าว และเปลี่ยนมาใช้เมล็ดข้าวพันธุ์ดี เพื่อให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ตลอดจนสามารถบริหารจัดการการผลิตและการตลาดร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย สศก.7 จะได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานให้ทราบเป็นต่อไป
นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ภาคใต้เป็นแหล่งเพาะปลูกสินค้าเกษตรหลายชนิดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะมังคุด เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการส่งออกและสร้างรายได้ให้ประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก โดยสถานการณ์มังคุดของ 14 จังหวัดภาคใต้ ปี 2568 (ข้อมูลจากคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคใต้ ครั้งที่ 2/2568 ณ พฤษภาคม 2568) คาดว่าจะมีเนื้อที่ให้ผล 224,806 ไร่ ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มี 226,931 ไร่
กองทุน FTA อนุมัติงบ 24.98 ล้านบาท หนุนโครงการนำร่องถั่วเหลืองอินทรีย์-แฟร์เทรด ยกระดับต้นแบบการผลิต เพิ่มขีดแข่งขันภาคเกษตรไทย
—
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เล...
สศท.3 หนุนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 'สับปะรดท่าอุเทน' GI ขึ้นแท่นผลไม้เศรษฐกิจเด่น จ.นครพนม
—
นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่...
'กระท้อนนาปริก' จ.สตูล สินค้า GI มุ่งยกระดับคุณภาพ พัฒนาตลาด สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
—
นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา...
สศท.10 เกาะติดสถานการณ์มะพร้าวผลแก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปีนี้ ผลผลิตรวม 252 ล้านผล
—
เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลง เฝ้าระวังโรคแมลง นายกิจษารธ อ้นเงินทยากร ผู้อำ...
'แปลงใหญ่มะม่วงส่งออกหนองแซง' จ.กาฬสินธุ์ ส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองคุณภาพสร้างรายได้กลุ่มปีละ 4 ล้านบาท
—
นายนพดล ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจกา...
กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง จ.พิษณุโลก สินค้าเกษตรที่มีศักยภาพ ทดแทนการผลิตข้าวนาปีในพื้นที่ไม่เหมาะสม สร้างรายได้เกษตรกร
—
นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยกา...
สศท. 7 เผยผลศึกษาการบริหารจัดการ "ฟางข้าว" ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคกลาง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
—
นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ช...
'ปลานิล' สินค้าเกษตรทางเลือก จ.นครราชสีมา เสริมรายได้เกษตรกร แนะแปรรูปเพิ่มมูลค่า
—
นางสุจารีย์ พิชา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา (...