อะโดบีครองตำแหน่ง “ผู้นำด้านการจัดการแคมเปญแบบหลายช่องทาง (Multi-Channel)” ครองอันดับสูงสุดในด้าน ‘วิสัยทัศน์’ และ ‘ความสามารถในการทำงาน’

          อะโดบี (Nasdaq:ADBE) เปิดเผยว่า การ์ทเนอร์ (Gartner) จัดอันดับให้อะโดบีอยู่ในกลุ่มผู้นำ (Leader) ตามรายงานวิจัย “เมจิกควอแดรนท์สำหรับการจัดการแคมเปญหลายช่องทาง (Magic Quadrant for Multichannel Campaign Management)”ประจำปี 2558 ทั้งนี้ นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่อะโดบีได้รับตำแหน่งสูงสุดในกลุ่มผู้นำในด้านความสมบูรณ์ของวิสัยทัศน์ และความสามารถในการทำงาน
          “ปัจจุบัน ลูกค้ามีการติดต่อสื่อสารกับแบรนด์ต่างๆ ผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งนับเป็นความท้าทายสำหรับนักการตลาดในการตรวจสอบ journey หรือพัฒนาการของลูกค้า” สเตฟาน ดีทริช รองประธานฝ่าย Adobe Campaign กล่าว “Adobe Campaign ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดการแคมเปญหลายช่องทางใน Adobe Marketing Cloud ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเพิ่มความคล่องตัว ผสานแคมเปญผ่านทุกช่องทาง และดึงดูดลูกค้าด้วยเนื้อหาคอนเทนต์ที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าในทุกช่องทางการติดต่อบนแพลตฟอร์มดิจิตอล”
          Adobe Campaign ช่วยให้นักการตลาดสามารถผสานรวมประสบการณ์ด้วยแคมเปญระดับชั้นนำ รวมไปถึงข้อเสนอ การปรับแต่ง และการจัดการข้อมูล กว่า 98 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าทั่วโลกของอะโดบี เช่นTime-Warner Cable, Sephora, The Cosmopolitan of Las Vegas, Renault, Mohegan Sun ฯลฯ เสริมประสิทธิภาพระบบอีเมลด้วยเทคโนโลยี Adobe Campaign ทั้งนี้ เพียงแค่เมื่อปีที่แล้ว Adobe Campaign รองรับอีเมลมากกว่า 60,000 ล้านฉบับ ซึ่งนับเป็นขุมพลังสำหรับแคมเปญที่ครอบคลุมหลากหลายช่องทาง โดยสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 39 ดอลลาร์ต่อเงินลงทุนทุกๆ 1 ดอลลาร์[1]
การ์ทเนอร์ระบุว่า “บริษัทที่จัดอยู่ในกลุ่ม Visionaries มีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งสำหรับตลาดการจัดการแคมเปญหลายช่องทาง หรือมีความเป็นเลิศในด้านใหม่ๆ เช่น การแบ่งเซ็กเมนต์แบบหลายมิติ การทำตลาดแบบดึงดูดลูกค้า การทำตลาดผ่านอุปกรณ์พกพา การสร้างความภักดีสำหรับอีคอมเมิร์ซ และการทำตลาดผ่านสื่อโซเชียล”
          เกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินความสมบูรณ์ของวิสัยทัศน์ ได้แก่ ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดและกลยุทธ์ กลยุทธ์ด้านการขาย กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ รูปแบบธุรกิจ กลยุทธ์สำหรับตลาดเฉพาะ กลุ่มอุตสาหกรรม และภูมิภาค ส่วนเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินความสามารถของบริษัทในการดำเนินการ ได้แก่ การประเมินผลิตภัณฑ์/บริการ ความสามารถในการตรวจสอบโดยรวม การดำเนินการด้านงานขายและราคา การตอบสนองต่อตลาด ประวัติการดำเนินงาน การดำเนินการด้านการตลาด ประสบการณ์ลูกค้า และการปฏิบัติงาน
การ์ทเนอร์ระบุเพิ่มเติมว่า “บริษัทที่จัดอยู่ในกลุ่ม Leaders มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในด้านการจัดการแคมเปญโดยรวม ทั้งในส่วนของแคมเปญพื้นฐานและแคมเปญที่ซับซ้อน และการผนวกรวมเข้ากับดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง บริษัทเหล่านี้มีความสามารถในการตรวจสอบตลาด สามารถเจาะเข้าสู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีสถานะที่แข็งแกร่งในตลาด และมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลสำหรับการขยายธุรกิจด้านการจัดการแคมเปญ”