นายปีติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนา“ก้าวสู่ทศวรรษที่สองสร้างครูบัญชีต้นแบบสู่ความเป็นเลิศ” พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ครูบัญชีดีเด่น ปี ๒๕๕๘ และครูบัญชีดีเด่นระดับประเทศ ปี ๒๕๔๘-๒๕๕๗ เพื่อเป็นเกียรติประวัติของครอบครัวและชุมชน และสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ครูบัญชี ณ โรงแรมรอยัล ซิตี้ กรุงเทพฯ ว่าครูบัญชี ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญที่เป็นตัวแทนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการเข้าไปทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดทำบัญชี ให้แก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชน ได้รู้จักใช้ข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาวิเคราะห์วางแผนประกอบอาชีพ มีวินัยทางการเงิน และสามารถใช้วัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องการลดต้นทุนผลิตทางการเกษตร การเพิ่มรายได้ การปรับเปลี่ยนอาชีพและการวางแผนทางการตลาด รวมทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเกษตรกร ซึ่งเกิดจากผลงานของอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ที่ทำหน้าที่สอนแนะ กระตุ้นการเรียนรู้และติดตามผลการจัดทำบัญชีของเกษตรกร ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ยังมีแนวคิดในการนำข้อมูลต้นทุนการผลิตจากการทำบัญชีของเกษตรกรมากำหนดเป็นต้นทุนการผลิตกลางในพื้นที่จริง
“ภายในการสัมมนาครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ครูบัญชีดีเด่นระดับประเทศปี ๒๕๔๘ – ๒๕๕๗ รวมทั้งครูบัญชีดีเด่นในปีนี้ จะได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ และได้รับองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อนำไปใช้พัฒนาศักยภาพของตนเองซึ่งยังได้จัดให้มีการมอบรางวัลให้แก่ครูบัญชีดีเด่นที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ อย่างมานะ อุตสาหะ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของครูบัญชีทุกคน ได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเกษตรกรและบุคคลในชุมชนได้ต่อไป” นายปีติพงศ์ กล่าว
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้สร้างแกนนำเกษตรกรให้เป็นอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนของกรม ทำหน้าที่เป็นวิทยากรและวิทยากรผู้ช่วย ในการสอนแนะการจัดทำบัญชี กำกับแนะนำการทำบัญชีและติดตามเก็บข้อมูลการทำบัญชีของเกษตรกรเป้าหมาย ถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชีให้กับเกษตรกร เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัยทางการเงิน มีภูมิคุ้มกันด้วยบัญชี เพื่อพัฒนาตนเองได้อย่างมั่นคง ส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็ง โดยได้ทำการคัดเลือกจากครูบัญชีที่มีผลงานดีเด่นด้านการจัดทำบัญชี การเป็นวิทยากรในการสอนแนะ กระตุ้นการเรียนรู้และติดตามผลการจัดทำบัญชีของเกษตรกรที่มีความคิดริเริ่ม สามารถฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน มีความเสียสละเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวม มีความเป็นผู้นำอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเกษตรกรและบุคคลในชุมชนได้ ให้เป็นเกษตรกรดีเด่นสาขาบัญชีฟาร์ม ระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ มาเป็นเวลา 10 ปี จนมาถึงในปี 2558 นี้ ซึ่งก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่สองของการพัฒนาครูบัญชี นับเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการจัดทำบัญชีรายบุคคลของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้ขยายผลลงไปสู่พื้นที่ภาคเกษตรรองรับโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการสร้างความเข้มแข็งภาคเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกร