บราเดอร์รุกตลาดอิงค์เจ็ท ฉีกกรอบเดิมๆ เผยโฉมอิงค์แท็งก์สุดคุ้ม 4 รุ่นใหม่ ดีไซน์เฉพาะจากบราเดอร์ ชูจุดขาย “Smarter Design Bigger Savings” สะดวกแบบสุดคุ้ม สะท้อนทุกความต้องการของผู้ใช้รวมไว้ในเครื่องเดียว
บราเดอร์เผยโฉมเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่ ระบบรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็ม (Refill Tank System) 4 รุ่น สู่มือผู้บริโภคชาวไทย อีกหนึ่งแฟลกชิปโมเดลตระกูลหนึ่งของบราเดอร์ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยในปีนี้ ฉีกกรอบเดิมๆด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง พร้อมมั่นใจด้วยคุณภาพและเน้นการพิมพ์ปริมาณมากในราคาหมึกที่ประหยัดยิ่งขึ้น โดยหมึกพิมพ์สีดำ 1 ขวดพิมพ์ได้สูงสุดถึง 6,000 แผ่น นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติที่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นรุ่นรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็มของบราเดอร์ครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถครองใจและได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี
นายโทโมยูกิ ฟูจิโมโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “บราเดอร์ ยึดถือในความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ดังปณิธานการดำเนินธุรกิจที่ว่า “Brother at your side” โดยเราได้นำหลักการ ดังกล่าวมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อนำเสนอสู่มือผู้บริโภคด้วย ทั้งนี้บราเดอร์ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา สินค้าที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค และจากการสำรวจพบว่าในอาเซียนมีผู้บริโภคกลุ่มหนึ่ง ที่นิยมนำเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมาติดตั้งหมึกพิมพ์ในรูปแบบของรีฟิลแท็งก์ แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเวลาเติมหมึกก็หกเลอะเทอะ จากการที่เราเข้าใจถึงความต้องการในการใช้งาน บราเดอร์จึงได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นระบบรีฟิล แท็งก์ขึ้นมา เพื่อเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ภายใต้แบรนด์มาตรฐานระดับโลกอย่างบราเดอร์ ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่คุ้มค่าและคงทนยิ่งกว่า ในครั้งนี้”
ด้านนายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นนั้นในตลาดของเครื่องพิมพ์นั้น มีอยู่ 2 ประเภท คือ 1. แบบตลับหมึก และ 2. แบบเติมหมึก ซึ่งที่ผ่านมาบราเดอร์จะผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องพิมพ์อิงค์เจทแบบตลับหมึกมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บราเดอร์เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่น แบบเติมหมึก ด้วยระบบรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็ม (Refill Tank System) ซึ่งบราเดอร์คาดว่าหลังจากผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกสู่ตลาดแล้ว จะทำให้บราเดอร์เป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่ครอบคลุมตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ทั้งแบบตลับหมึกและแบบเติมหมึก ซึ่งผู้บริโภคได้เลือกใช้งานได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลจาก GFK ประเทศไทย ในปี 2557 เปิดเผยว่า บราเดอร์มีส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่น อยู่ที่ 17.4% ในแง่ปริมาณ และ 21.7% ในแง่มูลค่า ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่นี้คาดว่าจะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของบราเดอร์ ในแง่ปริมาณและแง่ของมูลค่า เป็น 25% และ 30% ตามลำดับ ปัจจุบันเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติ-ฟังก์ชั่น แบบเติมหมึก ที่ผลิตจากเจ้าของแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์โดยตรงนั้น มีให้เลือกไม่มากนัก ด้วยเหตุดังกล่าวทีมงานวิจัยและพัฒนาของบราเดอร์จึงได้นำผลการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคมาเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีศักยภาพมากกว่าให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ภายใต้แนวคิด “Smarter Design Bigger Savings” ซึ่งผู้บริโภคมั่นใจว่าจะได้เครื่องที่มีคุณภาพจากฑรงงานพร้อมด้วยการรับประกันจากบราเดอร์โดยตรง สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะเน้นยังผู้บริโภคทั้งในส่วนของ กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก (Small Office Home Office: SOHO), เอสเอ็มอี(SME) รวมไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นปริมาณการพิมพ์ค่อนข้างเยอะ และกลุ่มนักเรียนนักศึกษา” นายธีรวุธ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่น รุ่นรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็ม ทั้ง 4 รุ่นใหม่นี้ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Smarter Design Bigger Savings” โดยในส่วน Smarter Design บราเดอร์ได้พัฒนาการออกแบบให้ง่ายและสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้น เพียงแค่ 3 ขั้นตอนในการเติมหมึก คือ 1. เปิดฝา 2.เติมน้ำหมึก และ 3.ปิดฝา นอกจากนี้ บราเดอร์ยังออกแบบให้สามารถเติมหมึกได้ด้วยการเอียงขวดที่ทำมุมเพียง 45 องศา เวลาเติมจะไม่หกเลอะเทอะ อีกทั้งที่ใส่ น้ำหมึกยังถูกออกแบบให้อยู่ภายในตัวเครื่องทำให้ดีไซน์มีความลงตัวและเหมาะสม ตลอดจนไม่เปลืองพื้นที่ ทำให้ง่ายต่อการหาพื้นที่จัดวาง และฝาปิดด้านหน้าเป็นแบบใสสังเกตุเห็นระดับน้ำหมึกได้อย่างชัดเจน รวมถึงยังสามารถรองรับการทำงานที่หลากหลาย คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์สีและขาวดำ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ รวมถึงรองรับเครื่องโทรสารได้อีกด้วย ด้านแนวคิด Bigger Savings นั้น บราเดอร์ได้พัฒนาให้มีต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ลดลง โดยหมึกสีดำ สามารถพิมพ์ได้ 6,000 แผ่นต่อ 1 ขวด (คิดเป็น 4 สตางค์ ต่อแผ่น) และหมึกสี สามารถพิมพ์ได้ 5,000 แผ่น ซึ่งลูกค้ามั่นใจได้ในคุณภาพหมึกพิมพ์เพราะเป็นน้ำหมึกแท้จากบราเดอร์ นอกจากนี้ ลูกค้ายังมั่นใจเรื่องของการรับประกันเครื่องพิมพ์ คือ ระยะเวลา 1 ปี หรือ 30,000 แผ่น ขึ้นอยู่กับว่าระยะใดถึงก่อน และหากลูกค้าเข้าไปลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ซื้อสินค้า ผ่านทาง www.brother.co.th จะได้ระยะการประกันเครื่องพิมพ์เพิ่มอีก 3 เดือน ทั้งนี้ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นรุ่นรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็ม ของบราเดอร์ทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ DCP-T300 ราคา 5,290 บาท, DCP-T500W ราคา 5,790 บาท, DCP-T700W ราคา 6,790 บาท และMFC-T800W แบบมีแฟกซ์ในตัว ราคา 7,490 บาท สำหรับราคาหมึกพิมพ์สีดำ ราคาขวดละ 260 บาท และ หมึกพิมพ์สี ขวดละ 220 บาท ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น บราเดอร์จะแถมน้ำหมึกทั้ง 4 สี สีละ 1 ขวด ให้อยู่ภายในกล่อง แต่ยกเว้น รุ่น DCP-T500W , DCP-T700W และ MFC-T800W จะมีหมึกสีดำให้ 2 ขวด
ทั้งนี้ ปัจจุบันศูนย์บริการบราเดอร์และศูนย์บริการแต่งตั้งของบราเดอร์ (Authorized Service Center) มีครอบคลุมครบทั้ง 77 จังหวัด รวม 139 แห่ง อีกทั้งยังมีศูนย์บริการบราเดอร์ประจำภูมิภาครวม 5 แห่ง ทั่วประเทศ ในปีที่ผ่านมา บราเดอร์ ยังสามารถนำเสนอบริการที่มากคุณภาพให้แก่ผู้บริโภคภายใต้ระดับ ความพึงพอใจสูงสุดที่มากกว่า 95% และสามารถพัฒนางานซ่อมของศูนย์บริการบราเดอร์ให้ลูกค้าสามารถรอรับเครื่องกลับได้เลย จากเดิมที่ใช้เวลา 1 วันทำการ ภายใต้โปรแกรมการซ่อมด่วน หรือ เรียกว่า Immediately Repair Program (IRP) ผู้สนใจข้อมูลของสินค้าทั้ง 4 รุ่นใหม่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Brother Contact Center โทร. 02-665-7777 หรือ www.brother.co.th หรือ http://www.facebook.com/BrotherCommercialThailand
บราเดอร์เผยโฉมเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่ ระบบรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็ม (Refill Tank System) 4 รุ่น สู่มือผู้บริโภคชาวไทย อีกหนึ่งแฟลกชิปโมเดลตระกูลหนึ่งของบราเดอร์ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยในปีนี้ ฉีกกรอบเดิมๆด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง พร้อมมั่นใจด้วยคุณภาพและเน้นการพิมพ์ปริมาณมากในราคาหมึกที่ประหยัดยิ่งขึ้น โดยหมึกพิมพ์สีดำ 1 ขวดพิมพ์ได้สูงสุดถึง 6,000 แผ่น นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติที่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นรุ่นรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็มของบราเดอร์ครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถครองใจและได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี
นายโทโมยูกิ ฟูจิโมโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “บราเดอร์ ยึดถือในความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ดังปณิธานการดำเนินธุรกิจที่ว่า “Brother at your side” โดยเราได้นำหลักการ ดังกล่าวมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อนำเสนอสู่มือผู้บริโภคด้วย ทั้งนี้บราเดอร์ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา สินค้าที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค และจากการสำรวจพบว่าในอาเซียนมีผู้บริโภคกลุ่มหนึ่ง ที่นิยมนำเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมาติดตั้งหมึกพิมพ์ในรูปแบบของรีฟิลแท็งก์ แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเวลาเติมหมึกก็หกเลอะเทอะ จากการที่เราเข้าใจถึงความต้องการในการใช้งาน บราเดอร์จึงได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นระบบรีฟิล แท็งก์ขึ้นมา เพื่อเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ภายใต้แบรนด์มาตรฐานระดับโลกอย่างบราเดอร์ ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่คุ้มค่าและคงทนยิ่งกว่า ในครั้งนี้”
ด้านนายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นนั้นในตลาดของเครื่องพิมพ์นั้น มีอยู่ 2 ประเภท คือ 1. แบบตลับหมึก และ 2. แบบเติมหมึก ซึ่งที่ผ่านมาบราเดอร์จะผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องพิมพ์อิงค์เจทแบบตลับหมึกมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บราเดอร์เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่น แบบเติมหมึก ด้วยระบบรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็ม (Refill Tank System) ซึ่งบราเดอร์คาดว่าหลังจากผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกสู่ตลาดแล้ว จะทำให้บราเดอร์เป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่ครอบคลุมตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ทั้งแบบตลับหมึกและแบบเติมหมึก ซึ่งผู้บริโภคได้เลือกใช้งานได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลจาก GFK ประเทศไทย ในปี 2557 เปิดเผยว่า บราเดอร์มีส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่น อยู่ที่ 17.4% ในแง่ปริมาณ และ 21.7% ในแง่มูลค่า ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่นี้คาดว่าจะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของบราเดอร์ ในแง่ปริมาณและแง่ของมูลค่า เป็น 25% และ 30% ตามลำดับ ปัจจุบันเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติ-ฟังก์ชั่น แบบเติมหมึก ที่ผลิตจากเจ้าของแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์โดยตรงนั้น มีให้เลือกไม่มากนัก ด้วยเหตุดังกล่าวทีมงานวิจัยและพัฒนาของบราเดอร์จึงได้นำผลการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคมาเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีศักยภาพมากกว่าให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ภายใต้แนวคิด “Smarter Design Bigger Savings” ซึ่งผู้บริโภคมั่นใจว่าจะได้เครื่องที่มีคุณภาพจากฑรงงานพร้อมด้วยการรับประกันจากบราเดอร์โดยตรง สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะเน้นยังผู้บริโภคทั้งในส่วนของ กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก (Small Office Home Office: SOHO), เอสเอ็มอี(SME) รวมไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นปริมาณการพิมพ์ค่อนข้างเยอะ และกลุ่มนักเรียนนักศึกษา” นายธีรวุธ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่น รุ่นรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็ม ทั้ง 4 รุ่นใหม่นี้ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Smarter Design Bigger Savings” โดยในส่วน Smarter Design บราเดอร์ได้พัฒนาการออกแบบให้ง่ายและสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้น เพียงแค่ 3 ขั้นตอนในการเติมหมึก คือ 1. เปิดฝา 2.เติมน้ำหมึก และ 3.ปิดฝา นอกจากนี้ บราเดอร์ยังออกแบบให้สามารถเติมหมึกได้ด้วยการเอียงขวดที่ทำมุมเพียง 45 องศา เวลาเติมจะไม่หกเลอะเทอะ อีกทั้งที่ใส่ น้ำหมึกยังถูกออกแบบให้อยู่ภายในตัวเครื่องทำให้ดีไซน์มีความลงตัวและเหมาะสม ตลอดจนไม่เปลืองพื้นที่ ทำให้ง่ายต่อการหาพื้นที่จัดวาง และฝาปิดด้านหน้าเป็นแบบใสสังเกตุเห็นระดับน้ำหมึกได้อย่างชัดเจน รวมถึงยังสามารถรองรับการทำงานที่หลากหลาย คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์สีและขาวดำ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ รวมถึงรองรับเครื่องโทรสารได้อีกด้วย ด้านแนวคิด Bigger Savings นั้น บราเดอร์ได้พัฒนาให้มีต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ลดลง โดยหมึกสีดำ สามารถพิมพ์ได้ 6,000 แผ่นต่อ 1 ขวด (คิดเป็น 4 สตางค์ ต่อแผ่น) และหมึกสี สามารถพิมพ์ได้ 5,000 แผ่น ซึ่งลูกค้ามั่นใจได้ในคุณภาพหมึกพิมพ์เพราะเป็นน้ำหมึกแท้จากบราเดอร์ นอกจากนี้ ลูกค้ายังมั่นใจเรื่องของการรับประกันเครื่องพิมพ์ คือ ระยะเวลา 1 ปี หรือ 30,000 แผ่น ขึ้นอยู่กับว่าระยะใดถึงก่อน และหากลูกค้าเข้าไปลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ซื้อสินค้า ผ่านทาง www.brother.co.th จะได้ระยะการประกันเครื่องพิมพ์เพิ่มอีก 3 เดือน ทั้งนี้ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นรุ่นรีฟิล แท็งก์ ซิสเต็ม ของบราเดอร์ทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ DCP-T300 ราคา 5,290 บาท, DCP-T500W ราคา 5,790 บาท, DCP-T700W ราคา 6,790 บาท และMFC-T800W แบบมีแฟกซ์ในตัว ราคา 7,490 บาท สำหรับราคาหมึกพิมพ์สีดำ ราคาขวดละ 260 บาท และ หมึกพิมพ์สี ขวดละ 220 บาท ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น บราเดอร์จะแถมน้ำหมึกทั้ง 4 สี สีละ 1 ขวด ให้อยู่ภายในกล่อง แต่ยกเว้น รุ่น DCP-T500W , DCP-T700W และ MFC-T800W จะมีหมึกสีดำให้ 2 ขวด
ทั้งนี้ ปัจจุบันศูนย์บริการบราเดอร์และศูนย์บริการแต่งตั้งของบราเดอร์ (Authorized Service Center) มีครอบคลุมครบทั้ง 77 จังหวัด รวม 139 แห่ง อีกทั้งยังมีศูนย์บริการบราเดอร์ประจำภูมิภาครวม 5 แห่ง ทั่วประเทศ ในปีที่ผ่านมา บราเดอร์ ยังสามารถนำเสนอบริการที่มากคุณภาพให้แก่ผู้บริโภคภายใต้ระดับ ความพึงพอใจสูงสุดที่มากกว่า 95% และสามารถพัฒนางานซ่อมของศูนย์บริการบราเดอร์ให้ลูกค้าสามารถรอรับเครื่องกลับได้เลย จากเดิมที่ใช้เวลา 1 วันทำการ ภายใต้โปรแกรมการซ่อมด่วน หรือ เรียกว่า Immediately Repair Program (IRP) ผู้สนใจข้อมูลของสินค้าทั้ง 4 รุ่นใหม่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Brother Contact Center โทร. 02-665-7777 หรือ www.brother.co.th หรือ http://www.facebook.com/BrotherCommercialThailand
CCET เปิดงบ Q1/68 รายได้ 34,596.83 ลบ. กำไรแตะ 591.83 ลบ. ความต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์-จัดเก็บข้อมูล- อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะเพิ่มขึ้น
บราเดอร์จัดโปรคุ้มสุโก้ย ครั้งที่ 5 'ซื้อ 1 แถม 1’ พร้อมข้อเสนอพิเศษสุดอีกมากมาย วันนี้ถึง 30 กันยายน 59