รองศาสตราจารย์ ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม รองอธิการบดี จุฬาฯ กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 10 ปีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เริ่มนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวและมีวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยที่ยั่งยืน โดยจุฬาฯได้จัดทำโครงการผังแม่บทจุฬาฯ 100 ปี เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียว พื้นที่ซึมน้ำ เพิ่มความร่มรื่นให้มหาวิทยาลัย โครงการภายใต้นโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวโครงการหนึ่งที่เป็นรูปธรรม คือ การริเริ่มโครงการรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยและพัฒนาของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมมือกับภาคเอกชน โดยใช้องค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์แขนงต่างๆ ในการวิจัยและพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะที่ใช้งานได้จริง มีระบบการบริหารจัดการที่ใช้ต้นทุนต่ำ โดยได้ทดลองให้บริการจริงภายในมหาวิทยาลัยมาแล้วกว่า 9 ปี ต่อมาได้พัฒนาเทคโนโลยี GPS applications ที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน ซึ่งนับเป็นแอพพลิเคชั่นตรวจสอบตำแหน่งรถโดยสารไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศไทย
"จากผลการสำรวจการใช้บริการรถโดยสารไฟฟ้าพบว่ามีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2557 ที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการรถโดยสารไฟฟ้าทั้งสิ้น 3,385,081 คน ปัจจุบันมีเส้นทางเดินรถ 5 เส้นทาง และเพิ่มจำนวนรถโดยสารไฟฟ้าให้บริการทั้งสิ้น 25 คัน นอกจากนั้นยังช่วยลดต้นทุนในการให้บริการรถโดยสารได้ 1,900,000 บาทต่อปี และยังพบว่าสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในมหาวิทยาลัยได้ 480 ตันต่อปีอีกด้วย" รองศาสตราจารย์ ดร.บุญไชย กล่าว
ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า "การพัฒนารถโดยสารไฟฟ้านี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของคณะวิศวกรรมศาสตร์ในการพัฒนานวัตกรรมให้แก่สังคมและประเทศ โดยร่วมมือกับบริษัท พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด นำความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ในหลายรูปแบบ ทั้งความรู้ด้านระบบการควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน การบริหารจัดการแบตเตอรี่ รวมทั้งแก้ปัญหาด้านเทคนิค การดำเนินงานและการปฎิบัติ รวมถึงศึกษาเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการจริงมาพัฒนาโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถพัฒนาและออกแบบรถโดยสารไฟฟ้าที่ให้บริการในปัจจุบันแทนรถโดยสารระบบเก่าที่ใช้เชื้อเพลิง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถือว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการส่งเสริมการใช้บริการขนส่งสาธารณะ เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวภายในมหาวิทยาลัย ช่วยลดปริมาณการจราจรและการปล่อยมลพิษ โดยรถโดยสารที่จุฬาฯเลือกใช้ในโครงการนี้เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า สำหรับเส้นทางสั้นๆ ภายในมหาวิทยาลัย และรถไฮบริดสำหรับเส้นทางที่ไกลออกไปที่ต้องวนออกไปภายนอก เพื่อรับคนจากสถานีรถไฟฟ้า และตามคณะหรือหน่วยงานรอบนอกที่อาจจะต้องประสบกับการจราจรที่หนาแน่นในถนนรอบนอกจุฬาฯ โดยรถทั้งสองประเภทล้วนมีอัตราการปล่อยมลพิษต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้านนายต่อศักดิ์ โชติมงคล กรรมการผู้จัดการบริษัท พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด กล่าวว่า "ขอขอบคุณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่สนับสนุนและให้โอกาสผู้ประกอบการไทยเข้ามาพัฒนาโครงการรถโดยสารไฟฟ้าจนเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าแก่หน่วยงานอื่นที่สนใจนำไปพัฒนาต่อยอดในอนาคต โดยบริษัท พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด ซึ่งมีเทคโนโลยีจากบริษัท สิขร จำกัด ได้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีรถโดยสารไฟฟ้าจากระบบพื้นฐาน มาเป็นระบบแบตเตอรี่ทั้งหมด ซึ่งระบบนี้ต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแบตเตอรี่ (Battery Management) เป็นสำคัญ ต้องรู้ว่าควรชาร์ตไฟเมื่อใด อย่างไร เพื่อรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เพราะต้นทุนของแบตเตอรี่เป็นต้นทุนหลัก นอกจากนั้นเรายังมีโรงงานประกอบรถที่มีมาตรฐานและถูกต้อง จนเป็นรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะที่มีมาตรฐานและได้จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก เป็นที่แรกและ ที่เดียวในประเทศ"
นายเขมทัต สุคนธสิงห์ ผู้ดำเนินการจัดการบริษัท พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด และบริษัท สิขร จำกัด กล่าวว่า "การผลิตรถโดยสารไฟฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้จุฬาฯโมเดล สามารถเป็นต้นแบบของรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะ คือ องค์ความรู้ด้านการพัฒนาแบตเตอรี่และการบริหารจัดการด้วยต้นทุนต่ำ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีวิสัยทัศน์ที่ดีที่ให้โอกาสภาคเอกชนเข้ามาพัฒนาเทคโนโลยี แม้ว่าที่ผ่านมาการบริหารจัดการประสบปัญหาด้านเทคนิคบ้าง แต่ก็สามารถแก้ปัญหาทั้งทางวิชาการ และการปฎิบัติ โดยเป็นรถโดยสารไฟฟ้าที่วิ่งให้บริการผู้โดยสารไปแล้วประมาณ 16.81ล้านคน นับจากสถิติการออกบัตรโดยสาร และมีสมรรถนะที่สามารถแข่งขันกับรถโดยสารไฟฟ้าที่ผลิตจากประเทศจีนได้แน่นอน"
PwC ประเทศไทย ลงนามความร่วมมือกับจุฬาฯ เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ ESG และพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
efin Group ผนึกจุฬาฯ เสริมทักษะฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ ปั้นกำลังคนยุค AI
เข็มเหล็ก จับมือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีฐานรากเสาเข็มเหล็ก หนุนอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยก้าวสู่สากล
Net Zero ไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่คือโอกาส ผู้บริหารบางจากฯ/กรรมการสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ชี้ทางรอด SME ไทย สู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ บนเวที EARTH JUMP 2025
เปิดโลกอุตสาหกรรมสีเขียว! ดั๊บเบิ้ล เอ ต้อนรับนิสิตวิศวฯ จุฬาฯ เยี่ยมชมโรงงานผลิตกระดาษ
รู้เท่าทันก๊าซเรดอน ภายหลังเหตุแผ่นดินไหว อาจารย์วิศวฯ นิวเคลียร์ จุฬาฯ แนะตรวจปริมาณเรดอนที่อาจแทรกผ่านรอยแยกอาคารได้
NT ร่วมกับ จุฬาฯ เปิดตัวแพลตฟอร์มศูนย์บริการ NT Metaverse
"วีบียอนด์" ร่วมกับมหาลัยวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศ สร้างความยั่งยืนให้องค์กร
Intania Expo 2025 งานเปิดบ้านครั้งยิ่งใหญ่ โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย