รัฐยันเรือที่มีใบอนุญาต เครื่องมือและแรงงานถูกกฎหมาย ทำการประมงได้ปกติ ย้ำทุกฝ่ายต้องร่วมมือแก้ไอยูยู ก่อนอียูประเมินผลในเดือนต.ค.นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู ว่า มาตรการหลักขณะนี้มีความคืบหน้าในหลายๆ ส่วนทั้งเรื่องการออกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาไอยูยู และแผนการจัดทำแผนแก้ไขปัญหาประมงไอยูยูระดับชาติ ขณะนี้ก็จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็ต้องเจรจาร่วมกับทางอียูว่ายังมีส่วนใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหรือมีเงื่อนไขใดที่ทำได้หรือไม่ได้อย่างไร แต่ขณะนี้มาตรการเร่งด่วนที่ไทยต้องเร่งรัดดำเนินการให้เคร่งครัดและเข้มงวด คือ การควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าไทยมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาไอยูยู ซึ่งคาดว่าในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ทางอียูจะเริ่มส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บข้อมูล ก่อนจะมีการประเมินผลการแก้ไขปัญหาไอยูยูของไทยประมาณเดือนตุลาคมนี้
          ดังนั้น จึงขอความร่วมมือชาวประมง ผู้ประกอบการประมงให้มาแจ้งขึ้นทะเบียนเรือ ขออนุญาตการทำประมงโดยใช้เครื่องมือทำประมงที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงมีคนเรือที่มีใบอนุญาตแรงงานอย่างถูกต้อง ซึ่งหากมีครบทั้งสามส่วนนี้แล้วก็สามารถออกไปทำการประมงได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่ยังไม่มาขึ้นทะเบียนก็สามารถไปยังให้บริการแบบ one stop service ได้ถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ หลังจากนี้ก็ยังสามารถติดต่อกับกรมเจ้าท่าและกรมประมงได้ถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้
          "รัฐบาลไม่มีความตั้งใจจะทำร้ายใคร รัฐบาลก็อยากให้ขายของให้ได้ แต่ขอใช้โอกาสนี้ปรับระบบการทำประมงของประเทศ ให้สัดส่วนการจับและทรัพยากรสัตว์น้ำเกิดความสมดุล วันนี้เราต้องมาดูต้องทำอย่างไรต่อไป ดูว่าเรือที่ถูกกฎหมายมีเท่าไหร่และไม่ถูกกฎหมายมมีอยู่เท่าไหร่ให้เกิดความชัดเจนให้ได้ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการเจรจาแก้ไขปัญหา รวมถึงวางมาตรการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบได้" นายปีติพงศ์กล่าว
          นายปีติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของผลกระทบที่เรือประมงที่ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีใบอาชญาบัตรและแรงงานไม่ถูกต้อง ซึ่งจะไม่สามารถออกไปทำการประมงได้นั้น กระทรวงเกษตรฯ จะมีการติดตามประเมินผลกระทบที่ชัดเจน แต่ในเบื้องต้นส่วนของอาหารทะเลหรือสัตว์น้ำในการบริโภคบางประเภท เช่น กุ้ง ปู ปลากะพง จะไม่กระทบมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการเพาะเลี้ยงไม่ได้มาจากทะเล แต่ส่วนที่จะส่งผลกระทบจริงๆ มี 3 ส่วน คือ 1.แพปลา 2. โรงน้ำแข็ง และ 3. โรงงานอาหารสัตว์ ซึ่งวัตถุดิบจะเป็นปลาตัวเล็ก แต่ขณะนี้ทางผู้ปรำกอบการก็พยายามปรับตัวหันไปนำเข้าปลาจากแหล่งอื่นทดแทน


ข่าวการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

"รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ

แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,400 บาท พร้อมเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยไคร้ สานฝันเกษตรกรมีน้ำใช้อย่างยั่งยืน นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพะเยาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ วัดศรีไฮคำ ต.เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา และองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา เพื่อรับฟังปัญหาจากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดจำนวนมากส่งผล

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกร... กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" — นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ค...

กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล"... กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล" — กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล" ในบ่อกุ้งร้าง หวังฟื้นแหล่งผล...