สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ลงพื้นที่ติดตามโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรฯ จังหวัดจันทบุรี ระบุ พื้นที่เป้าหมายแล้งซ้ำซาก อำเภอสอยดาว โครงการเดินหน้าแล้วใน 2 ตำบล เพื่อพัฒนาปรับปรุงแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตามความต้องการของชุมชน
นางบุบผา ภู่ละออ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) เปิดเผยถึงการติดตามการดำเนินงานโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง (1 ตำบล 1 ล้านบาท) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ดำเนินการช่วยเหลือเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชนเกษตรในพื้นที่แล้งซ้ำซาก โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตร และเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตรของชุมชน เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้งในระยะยาว โดยมีระยะเวลาดำเนินกิจกรรมระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – มิถุนายน 2558 และระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – กันยายน 2558 ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รับผิดชอบในการติดตามและประเมินผลโครงการในครั้งนี้
สำหรับพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งในส่วนพื้นที่รับผิดชอบของ สศท.6 มีพื้นที่เป้าหมายเพียงอำเภอเดียว คืออำเภอสอยดาว ซึ่งจากการลงพื้นที่ติดตาม พบว่า ความต้องการของเวทีประชาคมหมู่บ้าน ในการโครงการและขอรับการสนับสนุนงบประมาณผ่านศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล (ศบกต.) สู่การดำเนินงานในกิจกรรมต่าง ๆ เกิดประโยชน์ร่วมกันของชุมชน มีการดำเนินการ 2 ตำบล เสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ ตำบลทับช้าง ได้รับจัดสรรงบประมาณ 1 ล้านบาท ผ่านการพิจารณาดำเนินการ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการซ่อมแซมและขุดฝังท่อน้ำดิบบ้านคลองพอกและบ้านคลองกลาง จำนวน 1 แสนบาท เป็นการซ่อมแซมท่อน้ำดิบ 800 เมตรที่ส่งมาจากภูเขาเพื่อใช้ประโยชน์ในการอุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตร ของ 2 หมู่บ้าน คือ บ้านคลองพอกและบ้านคลองกลาง เนื่องจากประสบปัญหาท่อน้ำดิบแตกเสียหายอันเกิดจากช้างป่าเหยียบท่อแตก และต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับ และโครงการฝายดินเรียงหินยาแนว จำนวน 9 แสนบาท ดำเนินการใน 9 หมู่บ้าน ประมาณหมู่บ้านละ 1 แสนบาทต่อฝาย 1 ตัว เพื่อชะลอและกักเก็บน้ำในลำคลองสาธารณะในแต่ละหมู่บ้านเป็นการจัดการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรของชุมชน ทั้งนี้ จากการติดตามประเมินผลผู้นำชุมชนและเกษตรกรที่ร่วมโครงการตำบลทับช้างเป็นตำบลใหญ่มีหมู่บ้านเกือบ 20 หมู่บ้านยังคงต้องการโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาภัยแล้งเพื่อสร้างประโยชน์ให้ทั่วถึงทุกหมู่บ้าน
ตำบลทุ่งขนาน ดำเนินกิจกรรม 4 โครงการ คือ ประเภทโครงการจัดการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรของชุมชน ได้แก่ โครงการขุดลอกสระน้ำสาธารณะประโยชน์หมู่ที่ 12 และโครงการขุดสระน้ำสาธารณประโยชน์ หมู่ที่ 4 บนพื้นที่เกือบ 3 ไร่ ที่คนในชุมชนเสียสละพื้นที่สวนลำไยกว่า 200 ต้น ยกให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์เพื่อสร้างแหล่งกักเก็บน้ำให้ชุมชนมาใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร รวมทั้งเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรองของ อบต.ทุ่งขนาน ในการใช้ป้องกันอัคคีภัยและน้ำเพื่ออุปโภคให้กับหมู่บ้านอื่นในตำบล จากการลงทุนขุดสระเพียง 4 แสนบาทต่อโครงการ และประเภทโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ได้แก่ โครงการปรับปรุงอาคารสถานที่ของกลุ่มดอกไม้จันแบบครบวงจร และโครงการต่อเติมอาคารจักสานหญ้าแฝกเพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับสมาชิกในช่วงว่างงานในช่วงภัยแล้ง และมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายในตำบลและพื้นที่ใกล้เคียง งบประมาณ 1 แสนกว่าบาทต่อโครงการ ซึ่ง จากการติดตามผล พบว่าสมาชิกและผู้นำชุมชนใส่ใจดำเนินการเพื่อพัฒนาชุมชนสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมต่อยอดจากโครงการนี้ นับได้ว่า โครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง (1 ตำบล 1 ล้านบาท) เป็นการจุดประกายความคิดที่เกิดจากคนในชุมชนเพื่อชุมชนของเขาเอง
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีจำนวนตำบลที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการฯ ทั่วประเทศรวม 3,044 ตำบล จาก 3,051 ตำบล ใน 58 จังหวัด โดยประมาณการจำนวนครัวเรือนเกษตรกรที่ได้ประโยชน์คือ 2,660,201 ครัวเรือน คาดว่าจะมีเกษตรกรที่ใช้แรงงาน 360,659 ราย ซึ่งการดำเนินกิจกรรมจะมีลักษณะต่างๆ ตามความต้องการของชุมชน เช่น การจัดการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การผลิตทางการเกษตรและการแปรรูปผลผลิตเกษตรฯ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการจัดการเพื่อลดความสูญเสียผลผลิตเกษตร โดย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จะมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างถูกต้องและตรงตามความต้องการต่อไป
ของดีเมืองสงขลา 'ส้มโอหอมควนลัง' GI เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตส้มโอคุณภาพ ออกตลาด ต.ค. - พ.ย. นี้
'แปลงใหญ่ทั่วไป (ข้าว)' จ.สุพรรณบุรี ผลิตข้าว GAP คุณภาพ แหล่งให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่ สร้างรายได้ให้กลุ่ม 810,000 บาท/ปี
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
สศท.5 หนุน 'ผำ' อาหารแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง
ปีนี้ ไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ผลผลิตรวม 6.7 แสนตัน สศท.8 ชวนบริโภค 'ลองกอง' ในฤดู ก.ย. - ต.ค. นี้ ออกตลาด ร้อยละ 42
สศท.6 ชวนเช็คอิน 'สวนผลอำไพ' จ.ตราด แหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
สศท.2 เกาะติดสถานการณ์ผลิตทุเรียนภาคเหนือตอนล่าง ปี 68 รวม 6 จังหวัด แตะ 55,000 ตัน เพิ่มขึ้น 12.47%
ภาพรวม ลำไย 8 จังหวัด ภาคเหนือ ปี 68 ผลผลิตรวม 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% ลำไยในฤดูเริ่มออกตลาดแล้ว สศท.1 เชิญชวนบริโภคลำไยคุณภาพ
แปลงใหญ่ยางพารากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยา อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ยกระดับรายได้ด้วยมาตรฐาน EUDR