ปอร์เช่ 911 คว้ารางวัลชนะเลิศ J.D. Power Award ถึง 4 ปีซ้อน จากการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า ลูกค้าในสหรัฐอเมริกายกย่องให้ปอร์เช่เป็นรถคุณภาพระดับพรีเมี่ยม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ผู้ขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ในสหรัฐอเมริกาพึงพอใจต่อรถสปอร์ตจาก Zuffenhausen และ Leipzig เป็นอย่างมาก และนี่เป็นชัยชนะครั้งที่ 3 ที่โรงงานผลิตรถสปอร์ตที่สตุ้ดการ์ทสามารถคว้าอันดับ 1 มาครอง ตั้งแต่ปี 2013, 2014 และ 2015 ปีนี้ ซึ่งเป็นรางวัล "Initial Quality Study" ที่ทำการสำรวจโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาชื่อดัง J.D. Power ในสหรัฐอเมริกา
          "ความสำเร็จของรถยนต์ปอร์เช่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกค้าของพวกเรา" กล่าวโดย Matthias Müller, ประธานกรรมการและบอร์ดบริหารของปอร์เช่ "พวกเรามองว่ารางวัลนี้ คือสิ่งที่ยืนยันว่ากลยุทธ์สำหรับการนำเสนอสินค้าระดับมาตรฐานดีเยี่ยม พร้อมการออกแบบที่มีคุณภาพ การพัฒนาและผลิตด้วยเทคโนโลยีคุณภาพสูงนั้นเป็นที่ยอมรับ และเราจะยังคงนำเสนอประสบการณ์การซื้อและการเป็นเจ้าของที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าแบบนี้ไปอย่างต่อเนื่อง" 
          ปอร์เช่ 911 ได้รับรางวัลที่หนึ่ง จากการสำรวจลูกค้าในสหรัฐอเมริกา และถือว่าคว้ารางวัลที่หนึ่งนี้มาได้ถึง 4 ปีซ้อนจาก J.D. Power Award เป็นรถที่ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุดสำหรับคลาส "รถสปอร์ตระดับพรีเมี่ยมขนาดกลาง" ส่วนบ็อกซเตอร์ (Boxster) คือ อีกหนึ่งการการันตีถึงความสำเร็จของรถยนต์ปอร์เช่ด้วยเช่นกัน โดยคว้าอันดับหนึ่งในกลุ่ม "Compact Premium Sporty" หรือกลุ่มตลาดรถสปอร์ตพรีเมี่ยมขนาด Compact มาครอง 3 ปีซ้อนเช่นกัน ส่วนเคย์แมน (Cayman) รถคูเป้เครื่องยนต์วางกลางได้อันดับสองตามมา 
          ปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในการสำรวจปีที่แล้วเพราะเพิ่งเปิดตัวสู่ตลาด แต่ปีนี้ได้เข้าร่วมและคว้ารางวัลชนะเลิศในกลุ่ม "Highest Initial Quality - Compact Premium SUV" ไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนคาเยนน์ (Cayenne) รถสปอร์ตแบบออฟโร้ด และพานาเมร่า (Panamera) รถแกรน ทัวริสโม่ ได้รับรางวัลเช่นกัน โดยได้รับรางวัลที่สาม สำหรับคลาสรถ "Midsize Premium SUV" และ "Large Premium Car" ผลลัพธ์คือ ปอร์เช่ทั้ง 5 รุ่นต่างพากันรับรางวัลโดยถ้วนหน้าเลยทีเดียว 
          นักวิจัยการตลาดในสหรัฐอเมริกายังได้ทำการสำรวจเรื่องของโรงงานผลิตรถยนต์ด้วยเช่นกัน โดยให้คะแนนโรงงานผลิตรถยนต์ในยุโรปและแอฟริกาและโรงงานผลิตของปอร์เช่ที่บ้านเกิดใน Stuttgart-Zuffenhausen โดยได้รับรางวัลเหรียญทองแดงไปครองสำหรับรางวัล "U.S. Initial Quality Study – Plant Quality Award 2015" หรือรางวัลคุณภาพของโรงงานประจำปี 2015
          การศึกษาเกี่ยวกับคุณภาพ "Initial Quality Study" โดยสถาบันวิจัย J.D. Power and Associates ได้ทำการสำรวจและทำแบบสอบถามแด่ลูกค้าที่เพิ่งออกรถใหม่ หลังจากรับรถไปในระยะเวลา 90 วัน ซึ่งในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ 29 แล้วที่สถาบันได้ทำการวิจัยเรื่องนี้ เจ้าของรถใหม่ในสหรัฐอเมริกาจะถูกถามเกี่ยวกับคุณภาพของรถใหม่ของพวกเขาในหัวข้อที่หลากหลายถึง 233 คำถาม โดยเจ้าของรถจะได้รับคำถามที่เกี่ยวกับ "ประสบการณ์การขับขี่" และ "เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง" เป็นต้น 
          ปอร์เช่ 911: อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 12.7–8.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.87–2.19 กิโลเมตร/ลิตร);
อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 296–191 กรัม/กิโลเมตร 
          ปอร์เช่บ็อกซเตอร์ (Boxster): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 9.0–7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (11.11–12.66 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 211–183 กรัม/กิโลเมตร
          ปอร์เช่เคย์แมน (Cayman): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 10.3–7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (9.71-12.66 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 238–183 กรัม/กิโลเมตร
          ปอร์เช่คาเยนน์ (Cayenne): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 11.5–6.6 ลิตร/100 กิโลเมตร (8.69-15.15 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 267–173 กรัม/กิโลเมตร
          ปอร์เช่คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 3.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (29.41 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการบริโภคพลังงานแบบเฉลี่ย 20.8 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 79 กรัม/กิโลเมตร
          ปอร์เช่พานาเมร่า (Panamera): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 10.5–6.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (9.52 – 15.62 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 245–169 กรัม/กิโลเมตร
          ปอร์เช่ พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 3.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (32.26 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการบริโภคพลังงานแบบเฉลี่ย 16.2 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 71 กรัม/กิโลเมตร
          ปอร์เช่มาคันน์ (Macan): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 9.2–6.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.87-16.39 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 216 –159 กรัม/กิโลเมตร
          ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ย 3.1–3.0 ลิตร/100 กิโลเมตร (32.26-33.33 กิโลเมตร/ลิตร), อัตราการบริโภคพลังงานแบบเฉลี่ย 12.7 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 72–70 กรัม/กิโลเมตร 
          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ" หรือ "AAS Looking after YOU and your CAR" สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่www.porsche.co.th

Porsche Centre Bangkok PR
Public Relations and Media
ปวราภา ดุพัสกูล
Phone: +66 2 522 6655 ext. 448

ข่าวรถยนต์ปอร์เช่+สหรัฐอเมริกาวันนี้

75 ปีแห่งการผลิตรถยนต์ปอร์เช่ที่ซุฟเฟนเฮาเซน (Zuffenhausen)

ปอร์เช่รุ่น 356 คันแรกที่ผลิตในเยอรมนี เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 6 เมษายน 1950 นับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซุฟเฟนเฮาเซนกลายเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถสปอร์ตของปอร์เช่ ที่นี่ไม่เพียงแต่ผลิตเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการผลิตรถที่มีการปรับแต่งเฉพาะตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย การผลิต ปอร์เช่ 356 เริ่มต้นขึ้นที่เมืองสตุ๊ทการ์ทเมื่อ 75 ปีที่แล้ว รถคันแรกของสายการผลิตใหม่นี้เสร็จสมบูรณ์ที่เมืองซุฟเฟนเฮาเซน (Zuffenhausen)

ONNEX SOLAR by SCG Smart Living ในเอสซีจี... Porsche Centre Bangna มั่นใจมาตรฐาน ONNEX SOLAR by SCG ติดตั้งระบบโซลาร์เซลส์ในโชว์รูมเต็มรูปแบบ — ONNEX SOLAR by SCG Smart Living ในเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง ...

DAS TREFFEN 9 งานรวมพลคนรักปอร์เช่ ครั้งใ... DAS TREFFEN 9 รวมพลคนรักปอร์เช่ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ — DAS TREFFEN 9 งานรวมพลคนรักปอร์เช่ ครั้งใหญ่ประจำปี 2567 แห่งภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้...

เปิดตัวฟิกเกอร์ชุดไทยครั้งแรกในโลก พร้อมส... Playmobil จัดใหญ่ฉลอง 50 ปี ชวนตื่นตากับอาณาจักร Playmobil สุดอลังการ — เปิดตัวฟิกเกอร์ชุดไทยครั้งแรกในโลก พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมไทย 4 ภาคในงาน "Playmobil 50...

กลุ่มดุสิตธานีจับมือ ปอร์เช่ ประเทศไทย พร... กลุ่มดุสิตธานีจับมือ ปอร์เช่ ประเทศไทย พร้อมผนึกกำลังจากบริษัท เอเอเอส ออโต้ เร้นท์ทอล จำกัด ภายใต้ เอเอเอส กรุ๊ป สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกในไทย ชวนลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ซูเปอร์ลักซูรี — กลุ่มดุสิตธ...

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้า... ไอคอนสยาม จับมือ Playmobil ฉลอง 50 ปี เพลย์โมบิล ชวนท่องโลกแห่งจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด ในงาน "Playmobil 50th Anniversary at ICONSIAM" ตั้งแต่วันที่ 19-25 กันยายน 2567 ณ เจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม — ไอคอนสยาม แ...

ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) และ H2 Green St... ปอร์เช่ (Porsche) วางแผนพัฒนาการผลิตด้วยเหล็กคุณภาพสูงลดมลพิษลดสำหรับรถสปอร์ตตั้งแต่ปี 2026 — ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) และ H2 Green Steel บริษัทสตาร์ทอัพ...

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป ผู้นำ... อีกหนึ่งก้าวความสำเร็จ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป คว้ารางวัล CEO of the Year 2023 ในหมวดหมู่ Value Luxury Car Distribution — ปอร์เช่ ประเทศไทย โด...

ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) และ H2 Green St... ปอร์เช่ (Porsche) ผสานความร่วมมือกับหน่วยงาน H2 Green Steel เพื่อการพัฒนาเหล็กมลพิษต่ำสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต — ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) และ H2 Green St...

ทีทีบีไดรฟ์ โดยทีเอ็มบีธนชาต ร่วมกับ ปอร์... ทีทีบีไดรฟ์ ร่วมกับ ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการจองรถยนต์ออนไลน์ — ทีทีบีไดรฟ์ โดยทีเอ็มบีธนชาต ร่วมกับ ปอร์เช่ ประเทศไทย นำเสนอแพลต...