นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางส่งเสริมความรู้ด้านการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณ เพื่อสร้างสังคมไทยที่มีความมั่นคงทางการเงินอย่างยั่งยืน ซึ่งมีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของประชากรทั้งหมด ปัจจุบัน ประชากรวัยทำงานในประเทศ 43 ล้านคน มีเพียง 10 ล้านคนที่อยู่ในระบบประกันสังคมซึ่งเป็นการออมภาคบังคับ และเพียง 2.7 ล้านคนที่อยู่ในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยมีเงินสะสมเฉลี่ยเพียง 325,000 บาทต่อคน ดังนั้น การพัฒนาช่องทางการออมเพื่อตอบสนองต่อการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ รวมทั้งการสนับสนุนบริษัทต่างๆ ให้มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จึงเป็นเรื่องที่ทั้งภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องให้ความสำคัญ
“ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งพัฒนาเครื่องมือทางการเงินเพื่อเป็นแหล่งเงินออมสำหรับการวางแผนเกษียณอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้มีนโยบายเลือกลงทุน (Employee’s Choice) สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ผลักดันให้เกิดกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนวางแผนเพื่อการเกษียณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นทางออกให้กับผู้ที่ระบบการออมต่างๆ ยังไม่รองรับอีกด้วย
ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้จัด “โครงการเงินทองต้องวางแผน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยจับมือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทจดทะเบียน รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน ร่วมกันสร้าง “วินัยการออมเพื่อการเกษียณ” ให้แก่ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานหรือมนุษย์เงินเดือนในทุกระดับ โดยตั้งเป้าหมายสร้างการรับรู้ในวงกว้างผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ วิทยุ สื่อออนไลน์ สู่ประชาชนทั่วประเทศกว่า 2 ล้านคน รวมทั้งกิจกรรม roadshow ไปยังอาคารสำนักงานต่างๆ และยังจับมือพันธมิตรเพื่อนำความรู้เข้าไปยังองค์กรต่างๆ ครอบคลุมพนักงานกว่า 100,000 คน เพื่อให้เกิดการปฏิบัติจริง” นางเกศรากล่าว
ปัจจุบันมีองค์กรพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการจัดอบรมความรู้การวางแผนทางการเงินให้กับพนักงาน อาทิ บมจ. เอสซีจี บมจ. ปตท. เครือสหพัฒน์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บ. ฮีโน่มอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) การไฟฟ้านครหลวง กรมชลประทาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โรงงานยาสูบ บ.เอสบี เฟอร์นิเจอร์ บ.มารีนโกลด์โปรดักส์ เป็นต้น ซึ่งองค์กรต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญและผลักดันให้ความรู้ต่างๆ ไปสู่พนักงานของตนเองอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสุดท้ายแล้วจะทำให้พนักงานในองค์กรมีความสุขทางการเงิน เพิ่มผลิตผลใน การทำงาน และเป็นการสร้างความผูกพันระหว่างองค์กรและพนักงานอีกด้วย ทั้งนี้ องค์กรที่สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่ SET Contact Center 0 2229 2222 หรือwww.set.or.th/Education
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลได้ที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร ดาราวรรณ มาลีสี 0 2229 2798 / อารดา กุลตวนิช 0 2229 2796 / กนกวรรณ เข็มมาลัย 0 2229 2048
เอ็ม บี เค คว้าคะแนนการประเมิน CGR ระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องปีที่ 10
กลุ่มบริษัท "เสนา" ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน "SET ESG Ratings ระดับ A"
"โนเบิล" คว้าเรตติ้งสูงสุด AAA ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จาก SET ESG Ratings 2025
TASCO คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ "AA"
JMART - JMT ยืน SET100 ครึ่งแรกปี 2569 พร้อมตอกย้ำศักยภาพ ESG กลุ่มเจมาร์ทยกระดับคะแนนความยั่งยืน
MSC ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ประจำปี 2568
WINMED ลุย! ให้บริการนวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อคนไทย
SO คว้า SET ESG Ratings ปี 68 ระดับ "BBB" พร้อมมุ่งมั่นสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน
TBN เดินหน้าธุรกิจตามหลัก ESG คว้า SET ESG Ratings ระดับ "A" ประจำปี 2568 ตอกย้ำผู้นำดิจิทัลโซลูชันที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน