“สำหรับนกแต้วแล้วท้องดำนั้นเป็นนกประจำถิ่นโดยในโลกนี้พบเพียง 2 ประเทศเท่านั้นคือประเทศไทยและพม่า โดยในประเทศไทยนั้นจะพบที่อำเภอคลองถม จังหวัดกระบี่ นกแต้วแล้วท้องดำนั้นถือว่าเป็นนกที่สวยงามมากจนได้ชื่อว่า อัญมณีกลางพื้นป่า เพราะในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้และมีแสงส่องลงมาน้อยมากแต่เมื่อได้เจอนกแต้วแล้วท้องดำเดินอยู่มันจึงเป็นสิ่งที่สวยงามมาก สำหรับจำนนวนนกแต้วแล้วท้องดำในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2529 เท่าที่นักสำรวจจดบันทึกไว้นั้นมี 50 ตัว จนมาถึงปี 2546 ลดเหลือจำนวน 30 ตัว จนกระทั่งปี 2556 เหลือเพียง 1 ตัว ซึ่งจากวันนั้นถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าเหลืออีกหรือเปล่าหรือว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว”
“นกแต้วแล้วในประเทศไทยมีทั้งหมด 10 ชนิดอาทิ แต้วแล้วธรรมดา,แต้วแล้วอกเขียว,แต้วแล้วท้องดำ ฯลฯแต่ที่เรากำลังเป็นห่วงตอนนี้คือแต้วแล้วท้องดำที่ตอนนี้ต้องบอกว่าเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แต่ชนิดอื่นก็ไม่ใช่ว่าจะมีจำนวนเยอะก็มีปริมาณจำนวนลดน้อยลงไปพอสมควร โดยสาเหตุสำคัญของการเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์คือพื้นที่ถูกทำลาย นกแต้วแล้วบางชนิดมาเพียงแค่วางไข่แล้วก็บินกลับหรือว่าหายไป แต่นกแต้วแล้วท้องดำเป็นนกประจำถิ่นที่อยู่ในระดับน้ำทะเล 100-200 เมตรซึ่งในระดับนี้มันใช่มีแค่นกแต้วแล้วท้องดำเท่านั้นยังมีสัตว์ประเภทอื่นอีกอย่าง ไก่ฟ้า,สมเสร็จ ฯลฯถ้าเราทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ที่อยู่อาศัยของนกแต้วแล้วท้องดำไว้ได้ก็สามารถที่จะช่วยรักษาสัตว์ชนิดอื่นๆให้อยู่ได้เหมือนกัน”
น.สพ.เกษตร กล่าวต่อว่า “การถูกทำลายของป่าซึ่งเป็นที่วางไข่ของนกแต้วแล้วนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นกเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ส่วนเรื่องที่มีคนถามว่าทำไมไม่นำเอามาเพาะพันธุ์ต้องบอกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วสามารถที่จะทำได้แต่ปัจจุบันนี้บอกเลยว่ายากมากเพราะตอนนี้แม้แต่ได้ยินเสียงร้องยังแทบจะหาไม่ได้เลย ตอนนี้บอกเลยว่ามันช้าเกินไปแล้วตอนนี้ต้องช่วยกันป้องกันพื้นที่ของป่าเพื่อที่จะให้นกที่แอบซ้อนได้มีโอกาสกลับมาเจอกันหรือว่ากลับมาสืบสายพันธุ์กันเหมือนเดิมเพราะที่ผ่านมาแหล่งวางไข่ของนกถูกทำลายแต่ถ้าเราช่วยกันป้องกันและช่วยกันฟื้นฟูอาจจะทำให้นกแต้วแล้วท้องดำที่แอบหรือหลบซ่อนอยู่กลับมาที่เดิม”
“ตอนนี้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชร่วมกับสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทยได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจและค้นหาตั้งแต่ต้นปีแต่ก็ได้เจอเพียงแค่เสียงยังไม่เจอตัวเหมือนกัน ความจริงแล้วแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนรู้จักคือถ้ำมรกตที่นักท่องเที่ยวทุกคนรู้จักดีนั้นเป็นแหล่งวางไข่ของนกแต้วแล้วท้องดำแต่การที่นักท่องเที่ยวเข้าไปในนั้นถือว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ของเขา ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปในถ้ำมรกตเป็นแสนคนซึ่งการเข้าไปแบบนั้นก็จะเป็นการเข้าไปรบกวนแหล่งที่อยู่อาศัยของเขาก็เลยจะส่งผลกระทบพอสมควร ดังนั้นตอนนี้อยากกจะขอร้องให้ทุกคนช่วยกันทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อช่วยกันอนุรักษ์นกแต้วแล้วท้องดำไม่ให้สูญพันธุ์ โดยฉพาะคนที่จังหวัดกระบี่ต้องภาคภูมิใจที่นกชนิดนี้เป็นสิ่งที่อยู่ที่นี้ ดังนั้นต้องช่วยกันและดูแลกันประชาชนต้องเข้ามาช่วยกันดูแลเพราะถ้าไม่ช่วยกันก็อาจจะหมดไป เลยอยากจะขอร้องให้ช่วยเหลือกันหรือถ้านักท่องเที่ยวหรือคนพื้นที่พบเจอนกชนิดนี้สามารถโทรมาบอกได้ที่ สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย โทร. 02-588-2277,086-376-6824 ถ้าทุกคนช่วยกันจะได้มีไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู”
บางจากฯ หนุนทางรอดทะเลไทยในภาวะโลกร้อน ส่งมอบห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหญ้าทะเลแห่งแรกของโลก แก่คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
บางจากฯ เปิด "ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน" โดยภาคเอกชนและพันธมิตร แห่งแรกของประเทศไทย ที่หมู่เกาะหมาก
สวทช. ชู ศูนย์ชีววัสดุประเทศไทย (TBRC) ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (NBT) กลไกขับเคลื่อนการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ใช้ประโยชน์ พื้นที่ "ผาแดง" ในงาน IBD2025
STI ยืนยันความเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คว้างานควบคุมการก่อสร้าง "อาคารเรียนและปฏิบัติการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" มูลค่างานก่อสร้างกว่า 440 ล้านบาท
มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ร่วมกับ ม.เกษตรศาสตร์ ศรีราชา จัด "Ultimate Marketing Plan Contest 2025" สร้างนักการตลาดรุ่นใหม่
โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย จับมือ ม.เกษตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ปั้นแรงงานคุณภาพด้านอาหาร สอดรับความต้องการตลาดแรงงาน
ธ.ทิสโก้ร่วมมือสมาคมนักวางแผนการเงินไทย หนุนเจ้าหน้าที่เป็น "ผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงินหลังเกษียณ"
วช. จุฬา ม.เกษตร และกรมอุตุนิยมวิทยา ร่วมแถลงข่าวแนวโน้มสถานการณ์อากาศและน้ำท่วมในภาคกลาง จากชุดข้อมูล เทคโนโลยี จากงานวิจัยและนวัตกรรม เตรียมรับมือและเฝ้าระวังภัยภัยจากพายุ
งานสัมมนา "ใครเล่า? แบรนด์เล่า" : เมื่อเรื่องเล่าคืออาวุธลับของแบรนด์ในยุค Collaboration