วธ. เปิดเวทีบรรณารักษ์-นักวิชาการ 25 ชาติ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ยกระดับระบบห้องสมุดแบบยั่งยืน

          นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.) กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสภาบรรณารักษ์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ ๑๖ “ความมุ่งหวังอาเซียน: ห้องสมุดเพื่อความก้าวหน้าที่ยั่งยืน”ระหว่างวันที่ ๑๐–๑๓ มิถุนายน ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งประเทศสมาชิก รวม ๑๐ ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม พม่า ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนามและประเทศสมาชิกสมทบ ได้แก่ ติมอร์-เลสเต ที่สำคัญมีผู้บริหาร บรรณารักษ์ นักสารสนเทศจากสมาคมห้องสมุด หอสมุดแห่งชาติ ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดสถาบันการศึกษาต่างๆ นักวิชาการด้านสารสนเทศ ในการประชุมครั้งนี้จึงมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมจำนวน 25 ประเทศ กว่า 951คน โดยการประชุมสภาบรรณารักษ์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ที่สำคัญมุ่งหวังที่จะเปิดโลกทัศน์ของวงการห้องสมุดของอาเซียน และเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะได้เห็นพัฒนาการของห้องสมุด ที่เป็นภาพความร่วมมือของห้องสมุดในภูมิภาคอาเซียนต่อไปอย่างยั่งยืนด้วย
          นายวีระ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญจะมีการนำผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 900 คน ไปศึกษาแหล่งภูมิปัญญาและวัฒนธรรม ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด อาทิ เส้นทางพระราชวังบางปะอิน และวังช้างอยุธยาแลเพนียด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เส้นทางตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เส้นทางตลาดน้ำอัมพวา อุทยาน ร.๒ จังหวัดสมุทรสงคราม เส้นทางย่านบางรัก เยาวราช ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา และห้องสมุดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เส้นทางพระบรมมหาราชวัง วัดโพธิ์ เสาชิงช้า และหอสมุดแห่งชาติ เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปวัฒนธรรมไทย ทั้งอาหาร ดนตรี และนาฏศิลป์ไทย เพื่อสื่อถึงความเป็นไทย ในฐานะประเทศเจ้าภาพ ให้ประจักษ์แก่แขกบ้านแขกเมืองทั่วทั้งอาเซียน
          รมว.วธ. กล่าวต่อว่า การประชุมสภาบรรณารักษ์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งนี้ยังถือว่าเป็น มติการทำงานที่สำคัญในการเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการบริหารจัดการห้องสมุดของประเทศต่างๆ ซึ่งในการปะชุมมีการเปิดโอกาสให้นักวิชาการ บรรณารักษ์ นักสารสนเทศ มานำเสนอผลงานการวิจัยและผลงานวิชาการในการพัฒนาระบบงานของห้องสมุด มองว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนงานของหอสมุดเป็นอย่างมาก