ไทย-เมียนมา ลงนามบันทึกความร่วมมือด้านพลังงาน มุ่งพัฒนาและเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน-ไฟฟ้าระหว่างประเทศ

15 Jun 2015
กระทรวงพลังงานไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านพลังงานกับ กระทรวงไฟฟ้าและกระทรวงพลังงานเมียนมา 2 ฉบับ มุ่งพัฒนาพลังงานและระบบไฟฟ้า อาทิ การพัฒนาท่อส่งก๊าซ การนำเข้า LNG การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า และชยายความร่วมมือผลิตไฟฟ้า เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานระหว่าง 2 ประเทศ

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้ (15 มิ.ย. 58) ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยเรื่องพลังงาน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไฟฟ้าเมียนมา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเมียนมา โดยมี มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อมูลด้านนโยบายพลังงานที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ และเพื่อเสริมสร้างความร่วมมืออันดีระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน

สำหรับการลงนาม MOU ครั้งนี้ ได้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจ จำนวน 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพลังงานไทยและกระทรวงพลังงานเมียนมาว่าด้วยเรื่องพลังงาน โดยขอบเขตความร่วมมือคือ ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันด้านปิโตรเลียมต้นน้ำและปลายน้ำ เช่น การพัฒนาท่อส่งก๊าซในประเทศและข้ามชายแดน การสำรวจและผลิต การพัฒนาขีดความสามารถในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) การปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมัน และการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าปิโตรเคมีที่มีความเป็นไปได้ร่วมกัน

สำหรับฉบับที่ 2 บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพลังงานไทยและกระทรวงไฟฟ้าเมียนมา ว่าด้วยเรื่องพลังงานไฟฟ้า โดยขอบเขตความร่วมมือคือ ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันด้านพลังงานไฟฟ้า เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยระบบการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนพลังน้ำและอื่นๆ ระบบส่งและระบบจ่ายไฟฟ้า และขยายความร่วมมือด้านการผลิตไฟฟ้าที่มีอยู่และความตกลงทวิภาคีที่ทำก่อนหน้านี้ โดยมุ่งสนับสนุนความต้องการไฟฟ้าภายในเมียนมาเป็นลำดับแรก รวมถึงการส่งเสริมการค้าและการเชื่อมโยงไฟฟ้าระหว่าง 2 ประเทศ

“ประเทศไทยและเมียนมา เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิด และมีความร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจและสังคมมากมาย ซึ่งในการร่วมมือด้านพลังงานและพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือ และความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการลงทุนด้านพลังงานระหว่างกันแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนไทยแสวงหาโอกาสลงทุนด้านพลังงานในเมียนมาเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและความมั่นคงด้านระบบไฟฟ้าให้กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศอีกทาง” นายสราวุธกล่าว