นายสมิทธ์กล่าวว่า กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส นับเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้นับเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 4 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 0.80 บาทต่อหน่วย มีนโยบายที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวคือ SPDR S&P 500 ETF Trust ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ New York (NYSE ARCA) ทั้งยังลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี ขณะที่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นตลาดเกิดใหม่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ได้แก่ กองทุน Robeco Active Quant Emerging Markets Equities ชนิดหน่วยลงทุน "D share class” สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีในระยะยาวหรือบริษัทที่มีบทบาททางด้านเศรษฐกิจหรือประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในดัชนีมาตรฐานของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (MSCI Emerging Markets Standard Index) อาทิ จีน ไต้หวัน เกาหลี บราซิล อินเดีย แอฟริกา รัสเซีย เม็กซิโก โปแลนด์ อินโดนีเซีย เป็นต้น
ทั้งนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ยังคงมีมุมมองเชิงบวกสำหรับการลงทุนทั้ง 2 ตลาดอยู่ โดยมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่งถึงแม้ตลาดหุ้นสหรัฐจะได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ต่ำกว่าคาด เป็นผลมาจากปัจจัยระยะสั้นที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงความกังวลจากนักลงทุนต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะทยอยปรับตัวดีขึ้นซึ่งเอื้อให้บริษัทจดทะเบียนสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นในอนาคต
“สำหรับเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงตามราคาน้ำมันโลกซึ่งทำให้หลายประเทศสามารถปรับลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ การเปิดเสรีตลาดทุนของจีน และการคาดการว่า MSCI จะทยอยเพิ่มน้ำหนักหุ้น A-Share เข้าไปคำนวณในดัชนี นอกจากนี้มูลค่าของตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วจึงคาดว่าจะมีเงินทุนเคลื่อนย้ายมาลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง “ นายสมิทธ์กล่าว
BBLAM เสนอขาย IPO 'BP21/25(AI)' วันที่ 6-10 พ.ย. 2568
3BBIF เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 36 ในอัตรา 0.137224 บาทต่อหน่วย วันที่ 22 ธ.ค. นี้
บลจ.อีสท์สปริง มองโอกาสลงทุนหุ้นอินเดียระยะยาว เปิดตัวกองทุน RMF น้องใหม่ "ES-INDAERMF" เสนอขาย 4-10 พ.ย. 68 นี้
บลจ.ทิสโก้เปิด "ทริกเกอร์ทองคำ" คาดราคาทองโลกขึ้นจาก 4 ปัจจัยหนุน
บลจ. ไทยพาณิชย์ จัดเต็มแคมเปญพิชิตภารกิจลงทุนช่วงปลายปี คัดกองทุนลดหย่อนภาษีเด่นทั้ง RMF และ Thai ESG
BBLAM เสนอขาย IPO 'BP20/25(AI)' วันที่ 31 ต.ค. - 4 พ.ย. 2568
KTAM เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนกับ 2 กองทุน RMF "KT-Technology RMF และ KT-GESG RMF" IPO 28 ต.ค.-5 พ.ย. นี้
บลจ. ทิสโก้ จัดสัมมนา "ชีวิตดี๊ดี Happy 55+" หนุนสมาชิก PVD มีชีวิตหลังเกษียณมั่นคงและมีความสุข
โค้งสุดท้ายลดหย่อนภาษีปีนี้ BBLAM ชวนคนไทยเลือกลงทุนใน RMF และ Thai ESG ให้เท่าทันสถานการณ์โลก