สหภาพดนตรีรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนชื่อเป็น “มิวสิค มูฟ เอ็นเทอร์เทนเมนท์” ประกาศพร้อมลุยตลาดเอ็นเทอร์เทนเมนท์เต็มรูปแบบ

09 Dec 2015
นายวุฒินันต์ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการรีแบรนด์และเปลี่ยนชื่อบริษัท จากเดิมที่ใช้อยู่ 2 ชื่อ คือ สหภาพดนตรี และ Music Union มาใช้แค่ชื่อเดียวคือ Music Move Entertainment ซึ่งเป็นชื่อที่มีความหมายดี สามารถเข้าใจได้ในระดับสากล โดยวัตถุประสงค์หลักของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เพื่อกำหนดทิศทางและตัวตนที่ชัดเจนของบริษัท รวมถึงเตรียมพร้อมที่จะรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยหลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จกับการดำเนินธุรกิจด้านเพลงมาเป็นเวลา 4 ปี ประกอบกับความพร้อมในด้านต่างๆ ทำให้ทางคณะกรรมการ
สหภาพดนตรีรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนชื่อเป็น “มิวสิค มูฟ เอ็นเทอร์เทนเมนท์” ประกาศพร้อมลุยตลาดเอ็นเทอร์เทนเมนท์เต็มรูปแบบ

บริษัทฯตัดสินใจว่า ถึงเวลาแล้วที่จะขยายธุรกิจไปเป็นบริษัทเอ็นเทอร์เทนเมนท์แบบครบวงจร ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกด้าน ทั้งธุรกิจเพลง รายการโทรทัศน์ การจัดคอนเสิร์ต และ Merchandising โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับวงการเพลงและเอ็นเทอร์เทนเมนท์ในเมืองไทยให้มีคุณภาพเทียบเท่าสากล เพื่อผลักดันศิลปินออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยตั้งเป้าไปที่การเข้าตลาด AEC เป็นอันดับแรก

"สำหรับคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ Music Move Entertainment เราจะไม่ใช่แค่บริษัทเพลงหรือเอ็นเทอร์เทนเมนท์ทั่วๆ ไป แต่มุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดพลังของดนตรี เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมในวงการเอ็นเทอร์เทนเมนท์ให้เกิดพลังใหม่ๆ หรือที่เราเรียกว่า "Energizing Entertainment" ที่มีการผสมผสานพลังของดนตรีเข้าไปสู่ทุกรูปแบบของความบันเทิงภายใต้การผลิตของเรา เราจะเป็นเสียงเพลงที่ขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา มุ่งตรงไปข้างหน้า ไม่มีวันหยุดนิ่ง และไม่มีคำว่าน่าเบื่อ เหมือนคติประจำบริษัทของเรา "Never Be Boring" ซึ่งก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พลังของเสียงเพลงจากเรา จะสามารถขับเคลื่อนผู้ชม ผู้ฟัง สร้างแรงบันดาลใจและเติมเต็มทุกพลังแห่งความสร้างสรรค์ ให้ทุกจังหวะพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งเช่นกัน" นายวุฒินันต์ กล่าว

การดำเนินธุรกิจในช่วงแรกนี้ Music Move Entertainment ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจเพลง อันจะเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับธุรกิจอื่นๆ ต่อไป โดยได้มีการปรับให้เข้ากับ Micro Segment Trend ในปัจจุบัน แบ่งศิลปินออกเป็น 4 ค่าย ได้แก่

1. Music Move Records รับผิดชอบโดยวุฒินันต์ ภิรมย์ภักดี จะเป็นค่ายที่ศิลปินเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว โดยเฉพาะศิลปินรุ่นใหญ่ที่มีสไตล์และตัวตนชัดเจน สามารถสร้างบริษัทในภาพรวมให้แข็งแรง รวมถึงศิลปินรุ่นใหม่ๆ ที่มีความสามารถ พร้อมเติบโตเป็นศิลปินคุณภาพในอนาคต อาทิ อัสนี วสันต์, โอม ชาตรี, แบล็คเฮด, แมว จิรศักดิ์, นิโคล เทริโอ, แหนม รณเดช, เหวยเหวย ฮัน, อี๊ฟ ศิระฉายา, บอย พิษณุ, เต็น ธีรภัค, ถังเบียร์, ต้อง&เจนนี่

2. Me Records รับผิดชอบโดย ฟองเบียร์ ปฎิเวธ อุทัยเฉลิม ค่ายเพลงที่รวบรวมความหลากหลาย ของแนวเพลง และศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่เนื้อหาเข้าใจง่าย สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ฟังได้ทุกกลุ่ม อาทิ Season Five, Playground, Silly Fools, Hugo, Pause

3. Boxx Music รับผิดชอบโดย พล คชภัค และ วุฒินันต์ ภิรมย์ภักดี ค่ายที่สร้างศิลปินจากตัวตน มีสไตล์เป็นของตัวเอง ให้พื้นที่อิสระในการทำงาน และเต็มไปด้วยความสนุก สร้างสรรค์ และทันสมัย แนวเพลงอินดี้, Modern Pop, Modern Rock อาทิ The Kastle, Portrait, อิงค์ วรันทร, นัน สุนันทา

4. Chaophraya Records (เจ้าพระยา เรคคอร์ด) รับผิดชอบโดยคุณยีนส์ ศิลาแลง อาจสาลี ค่ายเพลงลูกทุ่งทันสมัย สอดแทรกวัฒนธรรม นำเสนอผ่านศิลปินลูกทุ่ง/เพื่อชีวิตคุณภาพ ที่มีแนวทางการร้อง การเล่น รวมทั้งการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ อาทิ กล้วย คลองหอยโข่ง, วงเป็นตา, แคนดี้ รากแก่น

นอกจากธุรกิจเพลงแล้ว Music Move Entertainment ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการศิลปิน (Artist Management) เพื่อให้ศิลปินในสังกัดมีงานอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯกำลังจะจับมือกับ Search Entertainment ผลิตรายการโทรทัศน์ในลักษณะของคอนเสิร์ต เพื่อเพิ่มช่องทางให้ศิลปินได้มีพื้นที่ในการแสดง โดยนอกจากศิลปินในสังกัดของ Music Move Entertainment แล้ว ก็ยังมีศิลปินยอดนิยมจากค่ายพันธมิตร และนักแสดงแถวหน้าจากช่อง 3 มาร่วมแสดงในคอนเสิร์ตด้วย โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตของบริษัทสำหรับปี 2016 ไว้ที่ 15% ซึ่งจะเป็นรายได้หลักจาก Digital Music, การบริหารจัดการศิลปิน (Artist Management), Show biz และ รายการโทรทัศน์ เป็นต้น