สคร.10 อุบลฯ รณรงค์วันเอดส์โลก 1 ธันวาคม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.10) กล่าวว่า โรคเอดส์เป็นโรคที่มีความรุนแรง มีผลกระทบต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคมและต่อประเทศชาติ ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงกำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก ให้ทุกประเทศทั่วโลกร่วมกันรณรงค์สร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ จากรายงานของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) พบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเอชไอวี/เอดส์ ในปี 2557 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกสะสม 36.9 ล้านคน ซึ่งในปี 2557 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคเอดส์ 1.2 ล้านคน ส่วนในประเทศไทย จากการคาดประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จนถึงปี 2558 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์เป็นผู้ใหญ่สะสมแล้วทั้งสิ้นประมาณ 1,201,839 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 775,136 คน ยังมีชีวิตอยู่ 426,707 คน และในปี 2558 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 7,324 คน
          นพ.ศรายุธ กล่าวอีกว่า การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ประเทศไทย ปัจจุบันได้ยกระดับก้าวสู่เป้าหมายการยุติปัญหาเอดส์ (Ending AIDS) ภายในปี 2573 กล่าวคือ ประเทศไทยจะไม่มีเด็กที่คลอดมาแล้วติดเชื้อเอชไอวี ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ มีไม่เกิน 1,000 ราย/ปี ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการการรักษาด้วยยาต้านไวรัส และไม่มีการตีตราและเลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากสถานการณ์ติดเชื้อ
          มาตรการสำคัญที่จะนำไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ จะมุ่งเน้นการพัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบบริการสุขภาพ และระบบชุมชน การผสมผสาน บูรณาการ ระหว่างงานด้านการป้องกันและการรักษาตามแนวคิด คือ ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ สร้างทัศคติเชิงบวก ในเรื่องโรคเอดส์ เพื่อลดการรังเกียจและเลือกปฏิบัติในทุกระดับของสังคม ทำให้เอดส์เป็นเรื่องปกติ ให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการ โดยส่งเสริมให้ทุกคนรู้สถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวี ควบคู่ไปกับการเริ่มรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวีให้กับผู้ติดเชื้อในทุกระดับซีดี 4 ไม่ว่าผู้ติดเชื้อจะมีระดับเม็ดเลือดขาวเท่าใดก็ตาม และสนับสนุนให้คงอยู่ในระบบบริการต่อเนื่องและกินยาสม่ำเสมอตลอดชีวิต สิ่งสำคัญผู้ติดเชื้อต้องมีความพร้อมในการรักษาโดยสมัครใจ ตระหนักในการดูแลสุขภาพของตนเองและร่วมมือในการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
          จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีพฤติกรรมเสี่ยงทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น ผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย สามารถเข้ามารับบริการให้คำปรึกษา และตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ได้ที่งาน หรือโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง การทราบผลการตรวจเลือดจะช่วยให้ผู้ที่ไม่ติดเชื้อเกิดความตระหนักในการ ป้องกันตนเอง ส่วนผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ก็จะป้องกันไม่ถ่ายทอดเชื้อไปให้ผู้อื่น ขณะเดียวกันจะได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดการป่วยจากโรคฉวยโอกาส เช่น วัณโรค และลดการเสียชีวิต หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422" นพ.ศรายุธ กล่าวปิดท้าย
          ที่มาภาพข่าว : อินเตอร์เนต

สคร.10 อุบลฯ รณรงค์วันเอดส์โลก 1 ธันวาคม
 

ข่าวสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่+สำนักงานป้องกันควบคุมโรควันนี้

ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชน ระวัง โรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขัง หลังน้ำลด ไม่ควรเดินลุยน้ำ ย่ำดินโคลน พื้นที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แนะสวมรองเท้าบูททุกครั้ง หากมีไข้เฉียบพลันหลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ มีอาการปวดศีรษะ ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขา อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "เลปโตสไปร่า" (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรค มือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กเล็ก — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนระวังเด็กเล็กป่วยโรคมือ เท...

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้...