ประธานกรรมการ ธอส. ประกาศเดินหน้า 4 เรื่องด่วนสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ยืนยันพร้อมเพิ่มกรอบวงเงินมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนอีก 10,000 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศเดินหน้า 4 เรื่องเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล สร้างโอกาสให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ย้ำ ธอส. มีความแข็งแกร่งในทุกด้าน ยืนยันพร้อมขยายกรอบวงเงิน "มาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง" อีก 10,000 ล้านบาท หลังจากที่ล่าสุด ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2558 มีจำนวนผู้แสดงความประสงค์ยื่นคำขอกู้แล้วประมาณ 15,000 ล้านบาท ได้รับการอนุมัติแล้ว 5,270 ล้านบาท คาดว่ายอดอนุมัติจะถึง 10,000 ล้านบาทตามกรอบวงเงินระยะแรกของโครงการได้ภายในกลางเดือนธันวาคม 2558 และประกาศจัดงาน "ธอส. มหกรรมที่อยู่อาศัย-สินเชื่อเพื่อประชาชน" ในพื้นที่ 4 จังหวัด หวังเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงมาตรการสินเชื่อเพิ่มขึ้น
          นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ธอส.ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 จึงได้มอบนโยบายให้ฝ่ายบริหารทราบถึงสิ่งสำคัญที่ธนาคารต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้ ประกอบด้วย 4 เรื่องสำคัญคือ 1.การขับเคลื่อน "มาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง" ภายใต้กรอบวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลที่เริ่มเปิดรับยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558 และในปัจจุบันยังคงมีประชาชนให้ความสนใจติดต่อเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่าหากมียอดอนุมัติสินเชื่อตามมาตรการดังกล่าวใกล้ถึงกรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาทแล้ว คณะกรรมการธนาคารพร้อมประชุมในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ เพื่อพิจารณาปรับเพิ่มวงเงินของมาตรการอีก 10,000 ล้านบาทได้ทันที 2. โครงการบ้านประชารัฐ โดยการให้ ธอส. เข้าไปมีส่วนร่วมกับการเคหะแห่งชาติและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม 3.สนับสนุนการพัฒนาระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ(E-Payment) ซึ่งถือเป็นนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งบัตรเดบิตการ์ด เครดิตการ์ด โดยปัจจุบัน ธอส. อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการจัดทำบัตรเดบิต รวมถึงบัตรเครดิต ซึ่งอาจดำเนินการได้ผ่านการร่วมกับสถาบันการเงินแห่งอื่น และ 4.โครงการให้ความรู้กับประชาชนที่ต้องการมีบ้าน โดยการส่งเจ้าหน้าที่ของ ธอส. ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยและการออมไปเปิดคลินิกให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้ทราบถึงวิธีที่จะทำให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น และโครงการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ด้านที่อยู่อาศัยของธนาคารอีกด้วย 
          "ปัจจุบัน ธอส. ถือเป็นสถาบันการเงินที่มีความแข็งแกร่งมาก เห็นได้จากตัวเลขผลการดำเนินงานล่าสุดของธนาคาร ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2558 ธนาคารยังคงรักษาความสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ที่ทำได้ทั้งสิ้น 119,078 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของเป้าหมายในปีนี้ซึ่งกำหนดไว้ที่ 149,800 ล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 840,507 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งมากที่ 15.46% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และจากความแข็งแกร่งเหล่านี้ จึงเชื่อว่า ธอส. มีความพร้อมสูงในการดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมปิดช่องว่างของกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์ได้อย่างแน่นอน"นายสุรชัยกล่าว 
          ขณะที่นางไลวรรณ ปองเสงี่ยม รองกรรมการผู้จัดการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธอส. เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดทำ "มาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง" ว่าล่าสุด ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2558 มีจำนวนผู้แสดงความประสงค์ยื่นคำขอกู้เป็นจำนวนเงินประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลูกค้าที่ยื่นเอกสารครบถ้วนและเข้าสู่กระบวนการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารแล้วเป็นวงเงินกู้ถึง 9,971 ล้านบาท 6,741 ราย ได้รับการอนุมัติเงินกู้แล้ว 5,270 ล้านบาท 3,654 ราย และคาดว่าธนาคารจะสามารถอนุมัติเงินกู้ถึง 10,000 ล้านบาทตามกรอบวงเงินของโครงการระยะแรกได้ภายในกลางเดือนธันวาคม 2558 
          "หากธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ครบกรอบวงวงเงิน 10,000 ล้านบาทแล้ว แต่ ธอส.ยังคงเปิดรับคำขอกู้ตามโครงการดังกล่าวได้ต่อไป และพร้อมเสนอให้คณะกรรมการธนาคารพิจารณาขยายกรอบวงเงินของมาตรการเพิ่มอีก 10,000 ล้านบาททันที เนื่องจากยังมีผู้ประสงค์ยื่นคำขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะภายหลังจาก ครม. ได้มีมติให้ ธอส. จัดทำมาตรการสินเชื่อดังกล่าว พร้อมกับการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมการจดจำนอง รวมถึงมาตรการทางภาษี ได้ส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เกิดความคึกคัก บรรดาผู้ประกอบการต่างจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายมากมาย ซึ่งล้วนทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่มีวินัยการเงินดีต่างได้รับประโยชน์ เพราะสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมให้ดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลได้อีกด้วย"นางไลวรรณกล่าว
          นางไลวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า ธอส. ยังเตรียมร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ(เครดิตบูโร) จัดงาน "ธอส. มหกรรมที่อยู่อาศัย-สินเชื่อเพื่อประชาชน" ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น จังหวัดสงขลา จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดชลบุรี เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึง "มาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง" ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยผู้ที่เข้าร่วมงานสามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่ถูกใจ พร้อมติดต่อขอรับคำปรึกษาหรือยื่นคำขอกู้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่เชี่ยวชาญของธนาคารภายในงานได้ทันที โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ของการจัดงานในเร็วๆ นี้ สอบถามเพิ่มเติมหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
 

ข่าวธนาคารอาคารสงเคราะห์+สินเชื่อที่อยู่อาศัยวันนี้

ธอส. พร้อมดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง จัดทำสินเชื่อบ้าน Premier Home

หนุนกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัย กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวดีขึ้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการกระตุ้นภาค อสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวดีขึ้น ผ่านการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ด้วยการเตรียมกรอบวงเงิน 3,000 ล้านบาท จัดทำสินเชื่อบ้าน Premier Home อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 2.70% สำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA)

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สถาบันการเงิน... ธอส. จัดทำ 5 สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ ต้อนรับปีใหม่ 2568 เริ่มต้นเพียง 2.70% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,000 บาท เท่านั้น!! — ธนาคารอาคาร...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผย ทริสเรทติ... 5 ปี ติดต่อกัน! ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ธอส. ปี 2567 ในระดับ AAA และแนวโน้มอันดับเครดิตที่ระดับคงที่ ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่ง — ธนาคารอาคาร...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) ร่วมกับสมาคม... ธอส. ร่วมกับ สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย ลงนาม MOU โครงการ Life Begins with GHB จัดทำแพ็กเกจผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้น — ธนาคารอาคาร...

คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐ... โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน สปส.และ ธอส. — คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย คุณพิพัฒน์ รัชกิจป...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดรายละเอีย... โอกาสทองของคนอยากมีบ้านมาแล้ว!! ธอส. เปิดรายละเอียดคุณสมบัติและเงื่อนไขผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 เพื่อเข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 — ธนาคารอาคาร...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกับ สำนัก... ธอส. ร่วมกับ สำนักงานประกันสังคม ลงนาม MOU โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี ช่วยเหลือผู้ประกันตนมีบ้านเป็นของตนเอง — ธนาคารอาคาร...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เอาใจชาวภาคตะ... ธอส. ขนโปรโมชั่น สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรกเพียง 3% ต่อปี ร่วมงาน "Thailand Smart Money ระยอง ครั้งที่ 6" ระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย.2566 — ธนาคารอาคาร...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จา... ธอส. ขอขอบคุณผู้ประกันตน มาตรา 33 ตอบรับโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน หลังเต็มกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาทแล้ว — ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยความสำเร็จ... ตอบรับดี! ผู้ประกันตน มาตรา 33 ขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน เพียงไม่กี่ชั่วโมง มีผู้สนใจรับรหัสมากกว่า 18,552 รายแล้ว — ธนาคารอาคาร...