สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 04 ธันวาคม 2558 โดย YLG

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           สภาวะตลาดวันที่ 04 ธันวาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,064.80-1,058.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 17,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,100 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 140 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 17,960 บาท
          (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.34 น.ของวันที่ 04/12/15)

          แนวโน้มวันที่ 08 ธันวาคม 2558

          นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนเพิ่มเติม แต่มาตรการดังกล่าวไม่มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งอีซีบีเพียงแค่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.10% สู่ -0.30% ซึ่งน้อยกว่าที่นักลงทุนคาดไว้ว่าจะปรับลดลงที่ระดับ 0.15-0.20% ประกอบกับอีซีบีไม่ได้เพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพียงแต่ขยายระยะเวลาของโครงการออกไปเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ประเด็นดังกล่าวดันสกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีในอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี และหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การขยับขึ้นของราคาทองคำยังคงถูกกดดันจาก นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรส โดยแสดงความเห็นในทางบวกเป็นส่วนใหญ่และบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐสามารถบรรลุเงื่อนไขส่วนใหญ่ที่เฟดตั้งไว้สำหรับการเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องสร้างงานใหม่ใกล้ระดับ 100,000 ตำแหน่งต่อเดือน เพื่อครอบคลุมจำนวนสมาชิกใหม่ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกำลังแรงงาน และ ย้ำว่าสหรัฐอาจจะอยู่ใกล้จุดที่เราควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยตั้งข้อสังเกตว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เฟดไม่ควรเลื่อนเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป เพราะว่าการเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเชื่องช้าจะส่งผลให้เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในจังหวะเวลาที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในช่วงต่อมา ซึ่งทำให้นักลงทุนจับตาทิศทางตลาดแรงงานรวมทั้งสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งจะถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) จะนำมาใช้พิจารณาก่อนการประชุมในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้หรือไม่ สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,077-1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร

          กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,050-1,046 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,077-1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

          ทองคำแท่ง (96.50%) 
          แนวรับ 1,046 (17,710บาท) 1,040 (17,620บาท) 1,030 (17,440บาท)
          แนวต้าน 1,080 (18,300บาท) 1,087 (18,410บาท) 1,094 (18,530บาท)

          GOLD FUTURES (GFZ15)
          แนวรับ 1,046 (17,840บาท) 1,040 (17,740บาท) 1,030 (17,570บาท)
          แนวต้าน 1,080 (18,420บาท) 1,087 (18,540บาท) 1,094 (18,660บาท)

          หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 
          สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148


ข่าวธนาคารกลางยุโรป+โกลด์ฟิวเจอร์สวันนี้

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 10 สิงหาคม 2561

สภาวะตลาดวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,205.50-1,213.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,100บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,130 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,160 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.27 น. ของวันที่ 10/08/61) แนวโน้มวันที่ 14 สิงหาคม 2561 ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวทาง

กรุงศรีคาดสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 36.50-36.95 ลุ้นประชุมเฟด, จีดีพีสหรัฐฯ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50-36.95 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิด อ่อนค่าที่ 36.72 บาท...

เงินบาทอ่อนสุดรอบ 16 ปี กรุงศรีคาดสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 36.45-36.95 จับตาประชุม ธนาคารกลางยุโรป

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.45-36.95 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ...

กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 34.50-34.95 รอผลประชุมเฟด

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.95 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิด อ่อนค่าที่ 34.76 บาท/ดอลลาร์...

กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 32.50-32.95 ลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.95 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 32.64 บาท/ดอลลาร์...

กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 32.30-32.80 ติดตามท่าทีธนาคารกลางยุโรป

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.80 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าเพียงเล็กน้อยที่ 32...

Fideuram - Intesa Sanpaolo Private Banking และ REYL & Cie บรรลุข้อตกลงหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์หลังได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ FINMA อนุมัติความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง Fideuram Intesa Sanpaolo Private Banking กับ REYL & Cie - ในฐานะส่วนหนึ่งของธุรกรรม Fideuram ISPB...

กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 30.00-30.30 มองดอลลาร์ทรงตัว จับตามาตรการ ธปท.

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00-30.30 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.15 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้...