ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า เมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยน พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่ามีผู้ประกอบการบางส่วนที่สามารถปรับตัวได้แล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่ยังยึดติดกับการทำการตลาดเดิมๆอยู่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จึงผลักดันให้ผู้ประกอบการทุกรายหันมาปรับใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจสูงที่สุด ทั้งในแง่ของการทำการประชาสัมพันธ์ การทำการตลาด เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักให้กลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2559 ได้จัดทำกิจกรรมการส่งเสริม SMEs เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ด้วยโซเชียล มีเดีย(Social Media) ภายใต้แผนปฏิบัติการ "DigitalSMEsปี 2559 โดย กสอ." ภายใต้ "โครงการพัฒนาศักยภาพ SMEs ด้วยระบบดิจิทัล" เพื่อสร้างเรียนรู้การปรับใช้โซเชียลมีเดียในธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยตั้งเป้าให้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ไม่น้อยกว่า 100 ราย
นอกจากนี้ กสอ. ยังมีกิจกรรมการส่งเสริม SMEs ให้ทำธุรกิจในรูปแบบธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) ผ่านเว็บไซต์ Alibaba.comเพื่อการถ่ายถอดองค์ความรู้และการให้คำปรึกษาแนะนำความรู้ด้านธุรกิจการส่งออก การขนส่งสินค้าและภาษี เพิ่มช่องทางในการขายสินค้าออกไปในต่างประเทศโดยผ่านช่องทางอี-มาร์เก็ตเพลส(E-Marketplace)ของ Alibaba.com ซึ่งเป็นช่องทางการค้าส่งออนไลน์ อันดับหนึ่งของโลกที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดจากการเชื่อมต่อผู้ซื้อกับผู้ขายและผู้ผลิตทั่วโลก ตั้งเป้าพัฒนาผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 50 กิจการ
อย่างไรก็ตามนอกจากการนำเทคโนโลยีไปใช้ในการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดเพื่อการค้าแล้วการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในธุรกิจในด้านของเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการ ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งดังนั้น กสอ.จึงจัดกิจกรรมการส่งเสริม SMEsใช้ระบบ ERP by DIPและพัฒนาศักยภาพด้วยระบบรายงานผู้บริหาร (BI) กิจกรรมส่งเสริม SMEs ใช้ระบบ ERP ขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการธุรกิจ กิจกรรมส่งเสริม SMEsภาคการผลิต ใช้ระบบไอทีช่วยบริหารซัพพลายเซน เพื่อเพิ่มผลิตภาพ กิจกรรมส่งเสริม SMEsในส่วนภูมิภาคได้รับการพัฒนาใช้ระบบซอฟต์แวร์ช่วยบริการธุรกิจ กิจกรรมการยกระดับวิสาหกิจสู่การเป็น SMEs แห่งอนาคต (SMEs New Era) เป็นต้น โดยตั้งเป้าให้ SMEs สามารถเพิ่มผลิตภาพด้านการบริหารจัดการธุรกิจได้ไม่น้อยกว่า 440 กิจการ หรือ 400 คน ทั้งนี้สำหรับ งบประมาณปี 2558 ที่ผ่านมา กสอ.สามารถส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEsหันมาใช้ระบบไอทีเป็นเครื่องมือในการเพิ่มผลิตภาพ(Productivity) และการลดต้นทุน ได้กว่า 420 หรือ 840 คน และจำนวนเงินที่ SMEs สามารถประหยัดได้จากการไม่ต้องลงทุนระบบไอทีเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มผลิตภาพในกิจการกว่า 5.85 ล้านบาท อีกทั้งจำนวนเงินที่ SMEsได้จากการเพิ่มผลิตภาพไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนในการบริหารงานในกิจการและการมีรายได้เพิ่มขึ้น กว่า 1.19 ร้อยล้านบาท ดร.สมชาย กล่าว
นางสาวนงลักษณ์ ภมรวิริยะ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอแซด อินฟินิตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยวสุนัข ภายใต้แบรนด์เพ็ททูโก (PET2GO)และมันซ์นี่ (MUNZNIE)กล่าวว่า แบรนด์เพ็ททูโกPET2GOซึ่งมีผลิตภัณฑ์ขนมขัดฟัน (DailyDentalBone)ขนมขัดฟัน (Crocgy)ขนมฝึกสุนัข (TreatME) โดยช่วงแรกนั้นทำเองทุกอย่าง ทั้งออกแบบผลิตภัณฑ์ การตลาด บัญชี การเปิดตลาดและสำรวจตลาด ในปีถัดมาได้ออกผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่อีกหนึ่งแบรนด์ชื่อมันซ์นี่MUNZNIE เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากหนังวัว (Rawhide) ผลิตภัณฑ์สันในไก่อบแห้ง โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ ร้านขายผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง (PetShop) โรงพยาบาลสัตว์ คลินิกรักษาสัตว์ ห้างสรรพสินค้าประจำจังหวัด มากกว่า 400 ร้านค้า ทั่วประเทศ ซึ่งผลตอบรับดีมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์น่าสนใจ คุณภาพดี ราคาประหยัด มีการทำโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าและลูกค้าปลายทางอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้บริษัทยังได้มีโอกาสเข้าร่วม โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของSMEs ไทยด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (EnhancingSMEsCompetitivenessthroughIT: ECIT) ของ กสอ. ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมในแง่ของการทำการตลาดด้วยสื่อดิจิทัล หรือสังคมออนไลน์ จากนั้นบริษัทก็ทำตลาดอย่างต่อเนื่องบนสื่อออนไลน์ (Social media)อาทิ เฟซบุ๊กชมรมสุนัข เป็นต้น และได้รับเกียรติไปเป็นตัวอย่างผู้ประสบความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์ (Success Case of social media)ภายในงานสัมมนา "ECIT:SMEsSolutionDay2014"อีกด้วย ทั้งนี้สำหรับยอดการผลิตเพื่อจัดจำหน่ายภายในประเทศในปี 2557 ที่ผ่าน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านชิ้นต่อปี และสัดส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า มากกว่า 100,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะที่รายได้ช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-พฤษภาคม) ที่ผ่านมามีมากกว่า 6 ล้านบาทและตั้งเป้ารายได้ภายในสิ้นปี 2558 นี้ จะได้มากกว่า 20 ล้านบาท จากทั้งตลาดในประเทศและการส่งออก
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจโครงการต่างๆของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-18 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือwww.facebook.com/dip.pr
"พลอยลภัสร์" เปิดตัวภาพยนตร์ "สำรับ สลับศตวรรษ My Century" ผนึกพลังสร้างสรรค์ ถ่ายทอดเสน่ห์อาหารไทย ผ่านภาพยนตร์ก้าวไกลสู่เวทีสากล
"ดีพร้อม" โชว์ความสำเร็จสร้าง Hidden Gems ยกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนฯ ตอกย้ำเสน่ห์อาหารไทย รังสรรค์ 93 เมนู เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 140 ล้านบาท
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย และ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี
กระทรวงอุตฯ ชูผลสำเร็จ 1 ทศวรรษ "Angel Fund" ดีพร้อม-เดลต้า ปั้น "ผู้ประกอบการอัจฉริยะ" 237 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมรุก 3 กลยุทธ์ใหม่ ดันดีพเทคดาวรุ่งสู่ตลาดอุตสาหกรรม
"ธนกร" สั่งการ "ดีพร้อม" Quick Big Win อัดฉีดสินเชื่อ "เงินไว by DIPROM" ดอกเบี้ย 50 สตางค์ กระตุ้นสั้น โค้งสุดท้ายปลายปี ดีมานด์พุ่ง!! 30%
"ดีพร้อม" ปลุกพลังสร้างสุข ดัน SMEs เข้าร่วมกิจกรรม เลิกเหล้า-บุหรี่ ออมเงิน ได้ผลกว่า 17 ล้าน ขึ้นแท่น วิสาหกิจต้นแบบ SHAP ประจำปี 2567
"ดีพร้อม" เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยสายแฟชั่น ดึงซอฟต์พาวเวอร์ เสริมอัตลักษณ์ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมชี้ 3 เทรนด์ที่ต้องเร่งปรับตัวตาม
ดีพร้อมจัดใหญ่ 'มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM' โชว์ซอฟต์พาวเวอร์อาหารและแฟชั่นไทย สร้างอนาคตใหม่ให้ SMEs คาดดึงคน 30,000 รายเข้างาน กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับ วว. / THACCA เชิญชวนร่วมกิจกรรมการเชื่อมโยงสู่เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางการตลาด ฟรี!!