ตามที่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การอนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2549 และที่แก้ไขเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศ หน่วยงานหรือองค์การของรัฐบาลต่างประเทศ สถาบันการเงินของรัฐบาลต่างประเทศที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น นิติบุคคลต่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของต่างประเทศ และนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ โดยมีผู้เสนอโครงการเป็นหน่วยงานหรือองค์การของรัฐบาลต่างประเทศหรือเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ สามารถออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย นั้น
กระทรวงการคลังขอเรียนว่า การพิจารณาอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศสามารถออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในแต่ละครั้ง กระทรวงการคลังได้พิจารณาถึงผลกระทบต่อการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนไทย โอกาสที่นักลงทุนในประเทศสามารถลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และโอกาสในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย ซึ่งนิติบุคคลต่างประเทศ จำนวน 4 ราย ได้รับอนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยได้ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2559 โดยกระทรวงการคลังได้กำหนดเงื่อนไขสำคัญเพิ่มเติมเพื่อให้การอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย จึงให้ผู้ขออนุญาตใช้เงินที่ได้รับจากการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยเป็นเงินบาทในประเทศไทย มีรายชื่อดังนี้
1. Central American Bank for Economic Integration (CABEI)
2. Australia and New Zealand Banking Group (ANZ)
3. National Bank of Abu Dhabi (NBAD)
4. Malayan Banking Berhad (Maybank)
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิในการระงับการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในกรณีที่สถานภาพ สถานะการเงิน หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องของผู้ได้รับอนุญาตมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินอย่างมีนัยสำคัญ และขอขอบคุณผู้ยื่นคำขออนุญาตทุกรายที่ให้ความสนใจในการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย
สำหรับผู้มีความประสงค์จะขออนุญาตในรอบถัดไป สามารถยื่นหนังสือแสดงความจำนงได้ ปีละ 3 ครั้ง ในเดือนมีนาคม กรกฎาคม และพฤศจิกายน ของทุกปี จึงขอเชิญชวนนิติบุคคลต่างประเทศที่สนใจจะออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทยื่นคำขออนุญาตภายในระยะเวลาที่กล่าวข้างต้น
สำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร. 0 2271 7999 ต่อ 5806 หรือ 5809
กระทรวงการคลังขอเรียนว่า การพิจารณาอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศสามารถออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในแต่ละครั้ง กระทรวงการคลังได้พิจารณาถึงผลกระทบต่อการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนไทย โอกาสที่นักลงทุนในประเทศสามารถลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และโอกาสในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย ซึ่งนิติบุคคลต่างประเทศ จำนวน 4 ราย ได้รับอนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยได้ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2559 โดยกระทรวงการคลังได้กำหนดเงื่อนไขสำคัญเพิ่มเติมเพื่อให้การอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย จึงให้ผู้ขออนุญาตใช้เงินที่ได้รับจากการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยเป็นเงินบาทในประเทศไทย มีรายชื่อดังนี้
1. Central American Bank for Economic Integration (CABEI)
2. Australia and New Zealand Banking Group (ANZ)
3. National Bank of Abu Dhabi (NBAD)
4. Malayan Banking Berhad (Maybank)
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิในการระงับการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในกรณีที่สถานภาพ สถานะการเงิน หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องของผู้ได้รับอนุญาตมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินอย่างมีนัยสำคัญ และขอขอบคุณผู้ยื่นคำขออนุญาตทุกรายที่ให้ความสนใจในการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย
สำหรับผู้มีความประสงค์จะขออนุญาตในรอบถัดไป สามารถยื่นหนังสือแสดงความจำนงได้ ปีละ 3 ครั้ง ในเดือนมีนาคม กรกฎาคม และพฤศจิกายน ของทุกปี จึงขอเชิญชวนนิติบุคคลต่างประเทศที่สนใจจะออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทยื่นคำขออนุญาตภายในระยะเวลาที่กล่าวข้างต้น
สำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร. 0 2271 7999 ต่อ 5806 หรือ 5809
บี.กริม มั่นใจลงทุนเวียดนาม เติบโตระยะยาว การเปลี่ยนผ่านนโยบายส่งผลกระทบน้อย
เอสซีบี อบาคัส เปิดมุมมองเทคโนโลยีที่พลิกโฉมโลกการเงินในอาเซียนต่อกลุ่มประเทศ G20 ณ การประชุมสมาชิกสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) 2019
ภาพข่าว: รมว.คลังร่วมประชุมหารือทวิภาคีกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศต่างๆ