สคร.10 อุบลฯ ลุยค้นหาและกำจัดปัญหาโรคเรื้อน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สคร.10 อุบลฯ มุ่งเป้ากำจัดปัญหาโรคเรื้อนให้หมดไป "สู่ความสำเร็จของการกำจัดปัญหาโรคเรื้อน สมดังพระราชปณิธาน" เชิญชวนสำรวจร่างกายตนเอง คนในครอบครัว หากมีอาการน่าสงสัยให้ รีบไปพบแพทย์
          สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ขอเชิญชวนประชาชนร่วมมือกันทำให้โรคเรื้อนหมดไปจากประเทศไทยโดยเฉพาะใน พื้นที่ภาคอีสาน มุ่งสู่ความสำเร็จ สมดังพระราชปณิธาน ด้วยการแนะนำให้ประชาชน ผู้สงสัยว่าจะป่วยโรคเรื้อน โดยที่ยังไม่รู้ตัวให้รีบไปรับการตรวจรักษา โดยให้ประชาชนสำรวจตรวจสอบตนเองและคนใกล้ชิดในครอบครัว หรือเพื่อนบ้านในชุมชน หากพบว่าใครมีอาการน่าสงสัยจะป่วยเป็นโรคเรื้อน ได้แก่ ผิวหนังเป็นวงด่าง สีขาวหรือสีแดง มีอาการชา เป็นผื่น ตุ่มนูนแดง ไม่คัน ไม่เจ็บ ใช้ยากินหรือยาทา 3 เดือนแล้วไม่หาย ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจ วินิจฉัย หากพบว่าเป็นโรคเรื้อน จะได้รับการรักษาฟรี มีเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือ รายละ 2000 บาท โดยเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ
          นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า กรมควบคุมโรค โดยสถาบันราชประชาสมาสัย ได้น้อมนำพระราชปณิธาน แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ฯ พระองค์ทรงเป็นเสมือนประทีปนำทางที่จะให้โรคเรื้อนหมดไปจากประเทศไทย ในปีนี้ (พ.ศ.2559) กรมควบคุมโรค โดยสถาบันราชประชาสมาสัย ร่วมกับมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดโครงการ "รณรงค์สัปดาห์ราชประชาสมาสัย 2559 " เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและแสดงถึงความจงรักภักดี จึงได้กำหนดจัดกิจกรรม เร่งรัดค้นหาผู้ป่วยที่ยังตกค้างอยู่ในชุมชน เพื่อกำจัดโรคเรื้อนโดยเฉพาะจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงยังคงพบผู้ป่วยรายใหม่ทั้งที่เป็นเด็กและผู้ใหญ่ในชุมชน เพื่อเป็นการค้นหา รักษา อย่างทันท่วงที ลดความพิการและการแพร่กระจายโรค ส่งผลให้ปัญหาโรคเรื้อนที่มาจากความพิการของโรคเรื้อนหมดไปอย่างสิ้นเชิง
          แม้ว่าในปัจจุบันผู้ป่วยโรคเรื้อน หรือโรคผิวหนังเนื้อชา สามารถพบได้น้อยลงกว่าในอดีต ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักอาการเริ่มแรกของโรค ผู้ที่เป็นโรคนี้จึงไม่ทราบว่าตนเองมีอาการที่อาจนำไปสู่ความพิการได้ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ดังนั้น ทุกคนจึงควรช่วยกันรณรงค์ กระตุ้นเตือนให้ผู้มีอาการน่าสงสัยเป็นโรคเรื้อน ผิวหนังเป็นวงด่างสีขาว มีอาการชา หรือผิวหนังเป็นผื่น ตุ่ม ไม่เจ็บ ไม่คัน หรือมือเท้าลีบ อ่อนกำลัง ให้รีบไปรับการตรวจรักษา เพื่อที่โรคเรื้อนจะได้ถูกกำจัดไปอย่างยั่งยืน ขอย้ำว่า โรคเรื้อน สามารถรักษาให้หายได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน – 2 ปี และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติทุกสัญชาติ โดย หากตรวจพบจะให้การรักษาฟรี กลุ่มที่เน้นเป็นพิเศษได้แก่ แรงงานข้ามชาติ พื้นที่ชายแดน แรงงานย้ายถิ่น และเรือนจำ โดยสนับสนุนค่าตอบแทนในการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่รายละ 2000 บาท หากมีข้อสงสัย โปรดติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ หรือที่ สถาบันราชประชาสมาสัย นพ.ศรายุธ กล่าว
สคร.10 อุบลฯ ลุยค้นหาและกำจัดปัญหาโรคเรื้อน
สคร.10 อุบลฯ ลุยค้นหาและกำจัดปัญหาโรคเรื้อน

สคร.10 อุบลฯ ลุยค้นหาและกำจัดปัญหาโรคเรื้อน
 

ข่าวสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่+สำนักงานป้องกันควบคุมโรควันนี้

สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ระวังป่วยด้วยโรคเมลิออยโดสิส (Melioidosis) เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต แนะเลี่ยงสัมผัสดินและน้ำ เมื่อมีบาดแผล ไม่เดินเท้าเปล่า ใส่บูทยาวเมื่อต้องลุยน้ำ และดื่มน้ำจากแหล่งที่สะอาดหรือน้ำต้มสุก หากมีอาการไข้ร่วมกับประวัติสัมผัสดินหรือแหล่งน้ำธรรมชาติโดยไม่ป้องกัน ให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติเสี่ยง นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลากล่าวว่า โรคเมลิออยโดสิส