แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความคาดหวังว่าธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจบริการนอกชายฝั่งจะสามารถรองรับความผันผวนของอุตสาหกรรมได้ในระยะปานกลาง ผลการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอ่อนแอลงในปี 2559 ก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและเมื่อบริษัทสามารถหาสัญญาจ้างสำหรับเรือวิศวกรรมใต้ทะเลและเรือขุดเจาะได้
โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทนั้นค่อนข้างจำกัดจากมุมมองต่ออนาคตของอุตสาหกรรมเรือขนส่งสินค้าและการให้บริการนอกชายฝั่งที่ยังคงอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นได้หากผลประกอบการของบริษัทดีกว่าที่ประมาณการเป็นระยะเวลานาน
อันดับเครดิตของบริษัทหรือแนวโน้มอาจได้รับการปรับลดลงหากผลประกอบการของบริษัทหรือกระแสเงินสดถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวอาจเกิดได้จากสภาวะอุตสาหกรรมของเรือขนส่งสินค้าและการให้บริการนอกชายฝั่งที่อ่อนแอเป็นระยะเวลานาน หรือการรับเรือวิศวกรรมใต้ทะเลและเรือขุดเจาะในขณะที่ยังไม่มีสัญญาจ้าง และอัตราค่าจ้างเรือหรืออัตราการใช้งานของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งที่แย่กว่าที่ประมาณการไว้
บริษัทโทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ ก่อตั้งในปี 2525 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2538 ณ เดือนกันยายน 2558 ตระกูลมหากิจศิริมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทคิดเป็นประมาณ 28% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ เป็นบริษัทลงทุนในธุรกิจหลัก 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง ธุรกิจวิศวกรรมใต้ทะเลและขุดเจาะนอกชายฝั่งสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายปุ๋ยในประเทศเวียดนาม และธุรกิจซื้อขายถ่านหิน โดยบริษัทมีรายได้เต็มปี ณ สิ้นปีบัญชีเดือนกันยายน 2558 อยู่ที่ประมาณ 21,400 ล้านบาท และมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 2,200 ล้านบาท ธุรกิจบริการนอกชายฝั่งทะเลมีสัดส่วนคิดเป็น 60% ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในขณะที่ธุรกิจเรือขนส่งสินค้ามีสัดส่วนคิดเป็น 30% โดยส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจค้าปุ๋ยและลงทุนต่าง ๆ
สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ยาวนานในธุรกิจเรือขนส่งสินค้าและธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง โดย ณ เดือนกันยายน 2558 บริษัทมีเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองจำนวน 38 ลำ ในจำนวนนี้ 24 ลำเป็นเรือที่บริษัทเป็นเจ้าของ และอีก 14 ลำเป็นเรือที่บริษัทเช่าใช้งาน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ค่อนข้างผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงของค่าระวางเรือเป็นสำคัญ ภาวะชะลอตัวของการค้าในตลาดโลกและอุปทานส่วนเกินของเรือขนส่งสินค้าส่งผลให้ค่าระวางเรือลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยเฉพาะเรือที่บริษัทเป็นเจ้าของนั้นลดลง 26% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งอยู่ที่ 6,752 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสดคิดเป็นประมาณ 5,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าค่าระวางเรือจะค่อย ๆ ฟื้นตัวในปี 2560 เนื่องจากสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในธุรกิจเรือขนส่งสินค้าที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีอัตรากำไร (จากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ของธุรกิจเรือขนส่งสินค้าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดลงประมาณ 10% จาก 16% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนธุรกิจให้บริการวิศวกรรมนอกชายฝั่งของบริษัทนั้นดำเนินการโดย บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสิงค์โปร์ โดย ณ เดือนกันยายน 2558 บริษัทถือหุ้นในบริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ คิดเป็นสัดส่วน 58.2% บริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ เป็นเจ้าของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลจำนวน 7 ลำและเรือขุดเจาะแบบ Tender จำนวน 2 ลำ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 บริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ มีปริมาณงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) ในธุรกิจให้บริการวิศวกรรมใต้ทะเลประมาณ 256 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในระหว่างปี 2558-2560 นอกจากนี้ บริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ ยังมีบริษัทร่วมที่เป็นเจ้าของเรือขุดเจาะแบบ Jack-up อีกจำนวน 3 ลำ โดยเรือขุดเจาะทั้ง 3 ลำนั้นทำสัญญาจ้างงานกับ Saudi Aramco Oil Company และสามารถสร้างส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีในช่วงระหว่างปี 2556-2559 พร้อมทั้งมีทางเลือกในการต่อสัญญาอีกด้วย ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในช่วงการขยายกองเรือโดยได้สั่งต่อเรือขุดเจาะแบบ Tender ลำใหม่จำนวน 2 ลำซึ่งคาดว่าจะได้รับการส่งมอบในปี 2559 อย่างไรก็ตาม เรือขุดเจาะดังกล่าวยังไม่มีสัญญาจ้างงานแต่อย่างใด
จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ ณ ปัจจุบัน บริษัทขุดเจาะน้ำมันและก๊าซหลายแห่งได้เริ่มตัดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขุดเจาะนอกชายฝั่งลงพร้อมทั้งเริ่มเจรจากับผู้ให้บริการเพื่อขอลดอัตราค่าบริการ หากราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปเป็นระยะเวลานาน บริษัทเมอร์เมด มาริไทม์จะเผชิญกับความยากลำบากในการหาสัญญาจ้างงานเพื่อชดเชยกับปริมาณงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบที่ลดลง และการหางานสำหรับเรือขุดเจาะลำใหม่ สถานะทางเครดิตของบริษัทจะได้รับผลกระทบในทางลบหากบริษัทเมอร์เมด มาริไทม์รับมอบเรือวิศวกรรมใต้ทะเลและเรือขุดเจาะลำใหม่โดยที่ยังไม่มีสัญญาจ้างงาน ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ นำส่งกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายในสัดส่วนที่มากที่สุดแก่บริษัท
ความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของบริษัทเป็นปัจจัยบวกที่จะปกป้องบริษัทจากวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ โครงสร้างเงินทุนของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นหลังจากการเพิ่มทุนจำนวนประมาณ 7,300 ล้านบาทในช่วงต้นปี 2558 บริษัทยังมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นรวมประมาณ 14,000 ล้านบาทด้วย ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณเงินกู้รวมของบริษัทที่ 14,600 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายส่วนทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาทในปี 2559 เพื่อใช้ซื้อเรือวิศวกรรมใต้ทะเล 1 ลำและเรือขุดเจาะ 2 ลำที่สร้างใหม่ โดยบริษัทวางแผนจะใช้เงินกู้ในการจ่ายชำระค่าเรือดังกล่าว
สมมติฐานกรณีฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าอุตสาหกรรมเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและการให้บริการนอกชายฝั่งน่าจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2560 โดยสถานะการเงินที่แข็งแรงของบริษัทน่าจะช่วยรองรับผลกระทบและทำให้บริษัทผ่านพ้นช่วงขาลงของอุตสาหกรรมไปได้ อัตรากำไรของบริษัทคาดว่าจะอ่อนแอลงในปี 2559 ก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้นเป็น 11%-13% ภายใต้สมมติฐานว่าบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ ได้รับสัญญาจ้างงานสำหรับเรือวิศวกรรมใต้ทะเลและเรือขุดเจาะลำใหม่ได้ในปี 2560 ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานอย่างน้อย 2,000 ล้านบาทต่อปีโดยเฉลี่ย ในระหว่างปี 2559-2560 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 35%-38% หลังจากบริษัทซื้อเรือขุดเจาะแล้ว อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะอยู่ในระดับเกินกว่า 4 เท่า และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมคาดว่าจะอยู่สูงกว่า 10% โดยเฉลี่ย
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TTA176A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB
TTA187A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
TRIS คงอันดับเครดิต TTA อยู่ที่ BBB+/Stable สะท้อนความแข็งแกร่งของ 2 ธุรกิจหลัก
ทีเอ็นพี เซอร์ติฟายด์ เปิดตัวโชว์รูม King Long BANGKOK อย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าเพิ่มโชว์รูมเสริมแกร่งเครือข่าย King Long กระบะไฟฟ้า EV 100%
พิซซ่า ฮัท ฉลองครบรอบ 1 ปี 'พิซซ่านาโปลี' จับมือพันธมิตรระดับโลก ทรานส์ฟอร์มเมนูไอคอนิกสู่พรีเมียมไลฟ์สไตล์แบรนด์ พร้อมเปิดตัว 3 หน้าใหม่ "The Taste of Capri"
TTA ผนึกกำลัง SCGP คืนคุณค่ากระดาษเก่าสู่สังคม ผ่านโครงการ 'แยก เปลี่ยน โลก'
ทีทีเอ มารีเนอร์ เริ่มทดสอบเดินเรือแท็กซี่ไฟฟ้า (EV Taxi Boat) เตรียมเปิดให้บริการประชาชน ก.ย. 68 นี้
พิซซ่า ฮัท จับมือ พี80 โก King Long เปิดตัว "THE HUT TRUCK" รถฟู้ดทรัคพลังงานสะอาด พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเคลื่อนที่ สู่ทุกงานอีเวนต์
บาคองโค ขึ้นแท่นแบรนด์ปุ๋ยชั้นนำในเวียดนาม จากผลสำรวจความพึงพอใจผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วประเทศ
TTA ประสบความสำเร็จอีกครั้ง ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
โทรีเซน ชิปปิ้ง ครองอันดับ 2 ผู้ให้บริการขนส่งทางเรือที่มีอัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยเทียบเท่าดีที่สุดในโลก ประจำปี 2568 และเป็นบริษัทเดียวที่ติด 1 ใน 5 ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน