ปูพรมพื้นที่บุณฑริก สศท.11 ศึกษาข้อมูล เนื้อที่-ต้นทุน-รายได้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 แจงผลศึกษาข้อมูลบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจสินค้าเกษตรที่สำคัญ อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ระบุพื้นที่เหมาะสม-ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว เผยต้นทุนการผลิตและรายได้ของเกษตรกร แนะบริหารจัดการปรับปรุงบำรุงดิน และพัฒนาพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมสู่การลดต้นทุน 
          นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 จังหวัดอุบลราชธานี (สศท.11) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการศึกษาข้อมูล "การศึกษาการบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจสินค้าเกษตรที่สำคัญ อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี" โดยวิเคราะห์ศักยภาพทางกายภาพและเศรษฐกิจ ความเหมาะสมของดินสำหรับการปลูกข้าว ปี 2558 เพื่อเป็นฐานข้อมูลแนวทางในการวางนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจการเกษตรในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน 
          ผลการศึกษา พบว่า อำเภอบุณฑริก มีเนื้อที่ความเหมาะสมของดินสำหรับปลูกข้าว รวมทั้งสิ้น 283,285 ไร่ โดยแยกเป็นดินสำหรับการปลูกข้าวที่มีความเหมาะสมมาก (S1) จำนวน 1,588 ไร่ เหมาะสมปานกลาง (S2) จำนวน 30,209 ไร่ เหมาะสมน้อย (S3) จำนวน 195,716 ไร่ ไม่เหมาะสม (N) จำนวน 55,772 ไร่ 
          เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตข้าวนาปีในพื้นที่เหมาะสมมากและปานกลาง รวม 3,200 บาท/ไร่ จำแนกเป็นต้นทุนผันแปร 2,196 บาท/ไร่ ต้นทุนคงที่ 1,004 บาท/ไร่ ปริมาณผลผลิตที่เกษตรกรผลิตได้เฉลี่ย 332 กิโลกรัม/ไร่ ส่วนราคาที่เกษตรกรจำหน่ายได้เฉลี่ย 12.2 บาท/กิโลกรัม ทำให้เกษตรกรมีรายได้หรือผลตอบแทนจากการผลิต 4,053 บาท/ไร่ ซึ่งเมื่อหักต้นทุนการผลิตแล้วจะได้ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย 852 บาท/ไร่ 
          สำหรับพื้นที่เหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสม เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตข้าวนาปี รวม 2,631 บาท/ไร่ จำแนกเป็นต้นทุนผันแปร 1,627 บาท/ไร่ และเป็นต้นทุนคงที่ 1,004 บาท/ไร่ มีปริมาณผลผลิตที่เกษตรกรผลิตได้เฉลี่ย 289 กิโลกรัม/ไร่ ด้านราคาที่เกษตรกรจำหน่ายได้เฉลี่ย 11.78 บาท/กิโลกรัม เกษตรกรมีรายได้หรือผลตอบแทนจากการผลิต 3,409 บาท/ไร่ และเมื่อหักต้นทุนการผลิตแล้วได้ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย 778 บาท/ไร่ 
          ทั้งนี้ เขตอำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่สูง ที่ดอน การบริหารจัดการน้ำยังมีประสิทธิภาพไม่ทั่วถึง และพื้นที่ทำการเกษตรอยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ ส่งผลให้ทำนาได้ 1 ครั้ง/ปี ซึ่งแนวทางพัฒนา คือ บริหารจัดการปรับปรุงบำรุงดินเพิ่มสารอินทรีย์วัตถุใส่ปุ๋ยตามผลการวิเคราะห์ดิน วิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุน โดยวางแผนการผลิตให้เหมาะสมกับพื้นที่การปลูกพืช เช่น ยางพารา และมันสำปะหลัง อีกทั้งหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยชีวภาพ เนื่องจากเป็นอินทรีย์วัตถุที่ช่วยปรับโครงสร้างดิน ตลอดจนจัดถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและกระบวนการผลิตที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและ ลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งท่านที่สนใจผลการศึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สศท.11 โทร. 045 344 654 หรืออีเมล [email protected]


ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่+สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรวันนี้

ของดีเมืองสงขลา 'ส้มโอหอมควนลัง' GI เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตส้มโอคุณภาพ ออกตลาด ต.ค. - พ.ย. นี้

นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา (สศท.9) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิต "ส้มโอหอมควนลัง" จังหวัดสงขลา นับเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดมายาวนาน แหล่งปลูกส่วนใหญ่อยู่ที่ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ โดยในปี 2568 (ข้อมูลของสำนักงานเกษตรอำเภอหาดใหญ่ ณ เดือนสิงหาคม 2568) คาดว่า มีเนื้อที่ยืนต้นอยู่ที่ 98 ไร่ จากพื้นที่รวมทั้งหมดในอำเภอหาดใหญ่ 138 ไร่ ผลผลิตรวม 215.60 ตัน ซึ่งส้มโอหอมควนลังปลูกอยู่บริ

นายชายศักดิ์ วุฒิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักง... สศท.5 หนุน 'ผำ' อาหารแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง — นายชายศักดิ์ วุฒิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชส...

นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำ... สศท.2 เกาะติดสถานการณ์ผลิตทุเรียนภาคเหนือตอนล่าง ปี 68 รวม 6 จังหวัด แตะ 55,000 ตัน เพิ่มขึ้น 12.47% — นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษ...