ขณะที่ราคาทองคำในประเทศนั้นปรับตัวลงน้อยกว่าราคาทองคำในตลาดโลกค่อนข้างมาก โดยอ่อนตัวลงเพียง 150 บาทต่อบาททองคำ หรือประมาณ 0.81% เนื่องจากค่าเงินบาทในปีนี้อ่อนค่าไปแล้วถึง 3.15บาทต่อดอลลาร์หรือ 9.57% เพราะการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ จากกระแสการเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงสถานการณ์ภายในประเทศเองไม่ว่าจะเป็นระเบิดที่แยกราชประสงค์ รวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจไทยซึ่งการส่งออกยังเป็นประเด็นที่น่ากังวล
นางสาวฐิภา กล่าวว่า สำหรับภาพรวมราคาทองคำในตลาดโลกปี 2559 หากราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่า 1,046ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวลงไปสู่บริเวณ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยวายแอลจีประเมินกรอบความเคลื่อนไหวราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 17,500 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 21,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนนั้น แนะนำให้นักลงทุนระยะกลางถึงยาวอาจเริ่มเข้าสะสมทองได้ตั้งแต่บริเวณ1,046 จนถึง 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนนักลงทุนระยะสั้นเก็งกำไรในกรอบแนวรับ-แนวต้าน โดยพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯรายวันประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามซึ่งจะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปี 2559 คือนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้เฟดยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.4% ในปี 2016, 2.2% ในปี 2017 และ 2.0% ในปี 2018 ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวขึ้นจาก 0.4% ในปี 2015 สู่ระดับ 1.6% ในปี 2016 และสู่ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด ในปี 2018 และเฟดระบุว่าอัตราว่างงานจะมีเสถียรภาพที่ระดับ 4.7% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยการคาดการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นจำนวน 4 ครั้งในปีหน้า, 4 ครั้งในปี 2017 และ 3-4 ครั้งในปี 2018
ส่วนราคาน้ำมัน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2557 เป็นต้นมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้ดิ่งลง 33.64% โดยดิ่งลง จากระดับ 55.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สู่ระดับ ราว 37.08 ดอลลาร์ในปัจจุบันการปรับตัวลงครั้งใหญ่นี้มีสาเหตุสำคัญมาจากสภาวะอุปทานล้นตลาด และการชะลอตัวลงของอุปสงค์จากจีนและตลาดเกิดใหม่นอกจากนี้การประชุมของโอเปคในวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาไม่สามารถตกลงกันได้ถึงเพดานการผลิต ยิ่งกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงไปต่อเนื่อง(ปัจจุบันโอเปคมีกำลังการผลิตประมาณ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน)
นอกจากนี้ในส่วนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มจะแข็งค่าแต่อาจไม่มากเท่าปี 2558 เนื่องจากตลาดได้ตอบรับประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปมากแล้ว ทั้งนี้ค่าเงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องในปี 2559 ซึ่งประเมินไว้ในบริเวณ 36.80-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้จะเห็นความผันผวนที่มากยิ่งขึ้นจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆของโลก
YLG รับรางวัลนักวิเคราะห์การลงทุนทองคำยอดเยี่ยม บนเวที IAA BEST ANALYST AWARDS 2022
YLG เสิร์ฟแอปฯ 'YLG Gold Investment' เทรดทองได้5สกุลเพิ่มโอกาสลงทุนทองช่วงบาทอ่อน เปิดทางพาคนไทยซื้อทองต้นทุนต่ำตามราคาตลาดโลก
YLG มองกนง.ขึ้นดอกเบี้ยกระทบทองไม่มาก ระยะยาวทองยังไปต่อเหตุเงินเฟ้อทั่วโลกยังพุ่ง
YLG คว้ารางวัลนักวิเคราะห์การลงทุนทองคำจากIAA2ปีซ้อน มองทิศทางทองคำระยะยาวยังแข็งแกร่ง แม้กลางปรับฐาน ชี้เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยบวก แม้เผชิญแรงกดดันจากเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
YLG แนะจับตาผลประชุมเฟดสัปดาห์นี้ หากส่งสัญญาณลด QE ราคาทองเสี่ยงลงต่อ
YLG เผยทองพุ่งรับผลถ้อยแถลงประธานเฟด แนะนำแบ่งทองขายทำกำไร แล้วรอซื้อเมื่ออ่อนตัว พร้อมจับการเปิดเผย NFP ศุกร์นี้
YLGชี้ทองคำกลับมาแข็งแกร่งทั้งระยะสั้น-ยาว รับปัจจัยหนุนเฟดย้ำชัดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย-ลดQE
YLG เผยทองลงหลังเฟดเริ่มส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย-ลดQE ชี้ทองมีสัญญาณรีบาวด์ระยะสั้น แนะขายเมื่อราคาดีด-รอเก็บต่ำกว่า $1,800
YLGเตือนทองคำยังปรับฐานต่อหลังหลุด1,700เหรียญ แต่หากยืนเหนือ1,776-1,760 เหรียญลุ้นเทรนด์ระยะสั้นพลิกสู่ขาขึ้น