TLUXE ไฟเขียวลงทุนพลังงานความร้อนใต้พิภพในญี่ปุ่น กำลัง การผลิต 500 KW เงินลงทุน 400 ล้านบาท

22 Dec 2015
บอร์ด TLUXE เปิดฉากลุยธุรกิจพลังงานไฟฟ้า พลังงานความร้อนใต้พิภพ ขนาดกำลังการผลิต 500 กิโลวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่น ใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท "กิติพัฒน์ ชลวุฒิ" ซีอีโอ เชื่อการลงทุนช่วยสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยงในธุรกิจ คาดเห็นรายได้ประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี ส่วนเงินลงทุนไร้กังวลเหตุมีเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้สถาบันการเงินรองรับ สำหรับการลงทุน
TLUXE ไฟเขียวลงทุนพลังงานความร้อนใต้พิภพในญี่ปุ่น กำลัง การผลิต 500 KW เงินลงทุน 400 ล้านบาท

นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2558 มีมติสำคัญในการเข้าลงทุนในกิจการด้านพลังงานโดยลงทุนเข้าซื้อหุ้นของบริษัท PPSN จากประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นพลังงานไฟฟ้าจากใต้พื้นพิภพ (GEOTHERMAL) 4 ยูนิต ขนาดกำลังการผลิตรวม 125 กิโลวัตต์ต่อยูนิต รวมเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 500 กิโลวัตต์ (125 กิโลวัตต์ เทียบเท่า 1 เมกกะวัตต์ ในพลังงานแสงอาทิตย์) ซึ่งสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 100 คิดเป็นมูลค่าลงทุน 400 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนมาจากเงินกู้สถาบันการเงินและเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี ซึ่งการลงทุนด้านพลังงานในประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีมากในการ ลงทุนด้านพลังงานทดแทนรูปแบบใหม่ที่มีการเติบโตสูงใน อนาคต โดยได้รับการสนับสนุนดีมากจากรัฐบาลญี่ปุ่น

สำหรับเงินทุนในการลงทุนครั้งนี้จำนวน 400 ล้านบาท จะมาจากเงินกู้สถาบันการเงินและเงินทุนหมุนเวียนสาเหตุหลักในการลงทุนเพื่อ เป็นช่องทางในการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าใต้พิภพ (GEOTHERMAL) นับเป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่เข้าไปลงทุนพลังงานประเภทนี้ในประเทศญี่ปุ่นซึ่ง ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพเพราะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ สูง ซึ่งโครงการผลิตไฟฟ้าใต้พิภพ (GEOTHERMAL) ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างดีเยี่ยม โดยคาดว่าให้ผลตอบแทน (IRR) ร้อยละ 7.8 จากโครงการดังกล่าว ซึ่งการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจพลังงานเพื่อเพิ่มรายได้และ กระจายความเสี่ยงของรายได้ ประกอบกับธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้ามีรายได้สม่ำเสมอมั่นคงและมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ระยะยาว 15 ปี

"TLUXE เป็นผู้ประกอบการไทยรายแรกที่ลงทุนในธุรกิจพลังงานประเภทพลังงานจากใต้พื้น พิภพ(GEOTHERMAL) เราคาดว่าจะต่อยอดในธุรกิจ สร้างรายได้อย่างมั่นคงและสม่ำเสมอ ประเมินรายได้ปีละ 50 ล้านบาท และเงินลงทุน 400 ล้านบาท เรามีเพียงพอ และ พร้อมสำหรับการลงทุนครั้งนี้" นายกิติพัฒน์กล่าว