นายนาวินกล่าวต่อไปว่า "อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภายในประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุตราสาร เนื่องจากมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเป็นการเข้าซื้อในตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งนี้ปัจจัยหนุนเกิดจากกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากสหรัฐฯ จากกรณีที่ตลาดส่วนใหญ่มองว่า FED มีโอกาสเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปจนถึงปีหน้า ภายหลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกันยายนออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะต้องติดตามต่อไป คือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ต่อไป อาทิ การประกาศตัวเลขภาคการส่งออกของจีนในเดือนกันยายน และตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ตลาดเกิดความผันผวนขึ้นได้ในระยะสั้นจากความไม่แน่ชัดดังกล่าว บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อล็อกผลตอบแทนและรอดูจังหวะการลงทุนต่อไป"
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
นายนาวินกล่าวถึงรายละเอียดของกองทุนต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีแซท (KEFF6MBZ) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Bank of China, ตราสารหนี้ Agricultural Bank of China, ตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ Bank of East Asia Ltd. โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF6MBZ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.combegin_of_the_skype_highlightinend_of_the_skype_highlighting
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุน KEFF6MBZ ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน KEFF6MBZ มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ทั้งนี้กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
KTAM เอาใจสายลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี เปิด"KT-PRECIOUS RMF IPO 18-24 ธ.ค.นี้ เสริมพอร์ตด้วยสินทรัพย์ Real Value
บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุน "TWORLD" เป็น 8,000 ล้านบาท รับความต้องการลูกค้า - ใช้เป็นกองทุนหลักของพอร์ต ลงทุนหุ้นโลก
บลจ.จิตตะ เวลธ์ คว้ารางวัลจาก ก.ล.ต. ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ย้ำภารกิจสร้างความมั่งคั่งให้คนไทยด้วยความรู้และเทคโนโลยี
KTAM เตรียมจ่ายปันผลและลดทุน กลุ่มกองทุนอสังหาฯ-อินฟราฯ Q3 ปี 68 กว่า 1.1 พันล้านบาท ในวันที่ 15 ธ.ค. และ 25 ธ.ค. นี้
KTAM มองโอกาสจากตราสารหนี้ทั่วโลก เสนอขาย "KTWC-INCOME RMF" IPO 11-17 ธ.ค.นี้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
บลจ.ทิสโก้ ปลื้ม ! กองทุน TGSMART กระแสตอบรับดี ประกาศเพิ่มทุนเป็น 4,000 ล้านบาท
บลจ.ทิสโก้ ตัวจริงเรื่องทริกเกอร์ฟันด์ บริหาร กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ทริกเกอร์ 5M#1 ถึงเป้าหมายใน 25 วัน
ธปท.แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ ร่วมบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/25' วันที่ 3-8 ธ.ค. 2568