ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)กล่าวว่า เนื่องจาก วสท.ได้รับคำร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยในแฟลตเคหะชุมชนดินแดงที่มีความกังวล ต่อความมั่นคงของอาคารที่สร้างมานานและไม่ได้รองรับแรงแผ่นดินไหว วสท.ซึ่งเป็นองค์กรเสาหลักด้านวิศวกรรมของประเทศ จึงนำคณะผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่สำรวจสภาพอาคารแฟลตชุมชนดินแดง ซึ่งสร้างมาราว 52 ปี โดย กรมประชาสงเคราะห์ ได้จัดสร้างอาคารตึกแบบแฟลตแห่งแรกในประเทศไทยขึ้นเมื่อปี 2506 บริเวณถนนดินแดง ด้วยรูปแบบอาคารแฟลตสูง 5 ชั้น ใต้ถุนโล่ง จำนวน 64 หลัง 4,144 หน่วย ต่อมาการเคหะแห่งชาติได้รับโอนแฟลตดินแดงจากกรมประชาสงเคราะห์มาอยู่ในความดูแลในปี พ.ศ. 2516 จากนั้นได้พัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมอีก 5,098 หน่วย ได้แก่ โครงการแฟลตพิเศษอาคารพาณิชย์ดินแดงจำนวน 826 หน่วย (พ.1-พ.10) โครงการดินแดงใหม่ระยะที่ 1 จำนวน 308 หน่วย (ค.1-ค.2) โครงการดินแดงใหม่ ระยะที่ 2-3 จำนวน 2,322 หน่วย (ช.1-ช.11) โครงการดินแดงเช่าซื้อ 8 ชั้น จำนวน 1,020 หน่วย โครงการดินแดง 4 จำนวน 352 หน่วย และโครงการดินแดง 5 จำนวน 270 หน่วย จนถึงปัจจุบันชุมชนดินแดงเก่าและใหม่มีที่พักอาศัยรวมทั้งสิ้น 9,242 หน่วย ปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 30,000 คน วัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่สำรวจแฟลต 32 หลัง เพื่อให้ข้อมูลการวิเคราะห์แก่ชุมชนและผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ตามหลักวิชาการและวิศวกรรม เพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่ชุมชนและผู้อยู่อาศัยในการยกระดับคุณภาพชีวิต การสำรวจวันนี้เป็นการสำรวจเบื้องต้น จากการที่ได้เดินสำรวจเบื้องต้นพบว่าบางอาคารในโซน E มีการต่อเติมอาคารค่อนข้างมาก เพดาน ผนังและคานบางจุดเห็นเหล็กเส้นภายใน เนื้อคอนกรีตยุ่ย ทั้งนี้ทาง วสท.จะดำเนินการตรวจวิเคราะห์ทางวิศวกรรมอย่างละเอียดต่อไปโดยทีมผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมืออุปกรณ์โดยต้องใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ซึ่งเลขาธิการ วสท.จะดูแลดำเนินการจนเสร็จสิ้น
รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วสท.กล่าวถึง แผนและขั้นตอนการตรวจสภาพอาคารแฟลตเคหะชุมชนดินแดง โดยมีขอบเขตแบ่งเป็น 3 phase คือ phase 1 เป็นการตรวจสอบด้านกายภาพ ได้แก่ การตรวจพินิจ (Visual Inspection) และการตรวจสอบกำลังอัดคอนกรีตโดยใช้Schmidt Hammer เพื่อเป็นการแบ่งกลุ่มอาคารตามลำดับความบกพร่องและนำไปสู่ phase 2 คือ การตรวจเชิงลึก กลุ่มต่างๆที่เลือกไว้ใน phase 1 ก็จะทำการสุ่มในแต่ละกลุ่มเพื่อตรวจสอบกำลังอัดคอนกรีต, เหล็กเสริม, เสาเข็ม และการเสื่อมสภาพ เป็นต้น นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบความสามารถต่อการรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอีกด้วย และ phase 3 คือการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยเบื้องต้น และการจัดทำประชาพิจารณ์ ทั้งหมดนี้จะสรุปผลนำเสนอการเคหะเพื่อนำไปพิจารณาต่อไป
รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. กล่าวว่า "แม้การประเมินสภาพของอาคารแฟลตดินแดงได้ดำเนินการแล้วหลายครั้ง อาทิ การตรวจสอบโดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เมื่อปี พ.ศ. 2546 และเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2550 รวมทั้งวิศวกรรมสถาน ฯ เมื่อปี พ.ศ. 2547 แต่กฎกระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง เมื่อเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ได้กำหนดให้อาคารในกรุงเทพมหานครที่มีความสูงมากกว่า 15 เมตร ต้องได้รับการออกแบบให้มีความสามารถในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ประกอบกับ มยผ.1302 ได้กำหนดมาตรฐานใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2552 ทำให้แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวที่จะมีผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวระยะไกลกับอาคารในกรุงเทพมหานครมีความชัดเจน และพบว่ามีค่าสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงปี พ.ศ.2550 และปัจจุบันกรมโยธาธิการและผังเมืองยังได้ออกมาตรฐานใหม่ มยผ.1303-57 การประเมินและการเสริมกำลังความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคารในเขตที่อาจได้รับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และในครั้งนี้ วสท.จะได้ดำเนินการประเมินกำลังของอาคารในการต้านทานแรงแผ่นดินไหวเพื่อจัดทำความคุ้มค่า และมูลค่าของการเสริมกำลังอาคารที่อาจต้องเสริมสภาพ และให้มีความสามารถในการต้านทานแรงแผ่นดินไหวตามมาตรฐานดังกล่าว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความมั่นใจ"
SYNEX ได้รับประเมินหุ้นยั่งยืน (SET ESG Ratings) ในระดับ AA ติด 1 ใน 80 บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน สะท้อนการดำเนินธุรกิจยั่งยืน ด้วยธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง
The Thailanders Presents Top Business Organizations & People for Societies Awards 2025
AURA เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจทองคำบนหลัก ESG คว้า SET ESG Ratings ปี 68 ในระดับ AA และติด SETESG Index
TOA เปิดตัวเทรนด์สี 2026 'The Pigmentum' เมื่อสีสันคือพลังขับเคลื่อนชีวิต พร้อมเจาะลึก 4 กลุ่มสีสะท้อนตัวตน จาก 5 สถาปนิกนักออกแบบชั้นนำ
Bangchak Partners with Noovoleum to Launch Ucollect Box Pilot to Collect Used Cooking Oil for SAF Production
บางจากฯ ร่วมมือกับ Noovoleum เดินหน้าโครงการ Ucollect Box ตู้รับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วแบบอัตโนมัติ เพื่อผลิต SAF
ตอบแทนความผูกพัน "ยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน" ทรู คอร์ปอเรชั่น มอบของขวัญรับปีใหม่ เสิร์ฟสุขเลือกได้ ชวนอิ่มฟรีวันเดียว บาร์บีคิว พลาซ่า หรืออร่อยข้ามปีกับแบรนด์ดัง ห้ามพลาด! เช็กสิทธิ์ 18-22 ธ.ค. นี้
Central Pattana wins the Prime Minister Award 2025 for "Innovation for Sustainability," reinforcing its leadership as a Centre of Life and Thailand's No.1 real estate developer on the path toward Net Zero 2050
เซ็นทรัลพัฒนา คว้ารางวัล Prime Minister Award 2025 'Innovation for Sustainability' ตอกย้ำผู้พัฒนา Centre of Life และผู้นำการเติบโตอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมาย NET Zero 2050