หุ้นน้องใหม่ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท หรือ J ลงสนามเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรกสร้างผลงานประทับใจ เปิดการซื้อขาย 4.98 บาท จากราคาไอพีโอ 2.77 บาท สูงกว่าราคาจองเกือบ 80% สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ"นงลักษณ์ ลักษณะโภคิน" ซีอีโอหญิงเก่ง มั่นใจการบริหารพื้นที่เช่าอย่างมืออาชีพ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจต่อ เพื่อสร้างผลประกอบการที่ดี ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังแน่นอน
นางนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส อแสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยถึง ราคาหุ้นในการซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในวันนี้ว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างน่าประทับใจ โดยราคาหุ้นเปิดการซื้อขายที่ 4.98 บาท จากราคาไอพีโอที่ 2.77 บาท หรือสูงกว่าราคาจอง 79.78% เชื่อว่า เป็นผลจากนักลงทุนมั่นใจปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต และเชื่อว่า J จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสูง มีระบบการจัดการและการบริหารพื้นที่เช่าอย่างมืออาชีพ อีกทั้ง เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนการประกอบธุรกิจให้ครบวงจรและแข็ง แกร่ง นอกจากนี้ บริษัทยังมีผลตอบแทนที่ดี มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
โดย J เป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ากลุ่มโทรศัพท์เคลื่อน ที่ และสินค้าเทคโนโลยีเพื่อนำมาจัดสรร และให้เช่าต่อภายใต้ชื่อ "IT Junction" อีกทั้ง ยังเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่บริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า Big C ซึ่งยังมีโอกาสขยายธุรกิจในรูปแบบนี้ได้อีกมาก จากงวดครึ่งปีแรกของปี 2558 บริษัทฯ มี IT Junction จำนวนทั้งสิ้น 43 สาขา นอกจากนี้ บริษัทได้ต่อยอดธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในรูปแบบตลาดชุมชน "J Market" ซึ่งเปิดให้บริการแล้วจำนวน 4 แห่ง และศูนย์การค้าชุมชน (Community Mall) ภายใต้ชื่อ "The Jas" เปิดให้บริการแล้วจำนวน 2 แห่ง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทฯ จะนำไปใช้อย่างคุ้มค่า โดยนำไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจตามโครงการลงทุนในอนาคตจำนวน 233 ล้านบาท และนำไปชำระคืนเงินกู้จำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ลดลง และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
"ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ เปิดเหนือจองให้ผลตอบแทนนักลงทุนสูงเกือบ 80% จากราคาไอพีโอที่ 2.77บาท สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมั่นใจในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าของ J ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง มีโครงการในอนาคตที่มีศักยภาพในการเติบโตของรายได้และกำไร โดยหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายจะขยายพื้นที่เช่าทั้ง 3 รูปแบบ ให้มากกว่า 100 สาขา ภายในปี 2562 จากปัจจุบันที่มี 49 สาขา และในฐานะผู้บริหาร รวมทั้งพนักงานทุกคน ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความไว้วางใจ เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ J และในช่วงต่อจากนี้ เราพร้อมจะทำงานหนักเพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุนและทุกภาค ส่วนอย่างเท่าเทียมกัน" นางนงลักษณ์ กล่าว
ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ของบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 เปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 4.98 บาท ก่อนปรับขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 5.15 บาท และปิดที่ระดับราคา 3.88 บาท มูลค่าการซื้อขายประมาณ 1,625.74 ล้านบาท
นางนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส อแสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยถึง ราคาหุ้นในการซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในวันนี้ว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างน่าประทับใจ โดยราคาหุ้นเปิดการซื้อขายที่ 4.98 บาท จากราคาไอพีโอที่ 2.77 บาท หรือสูงกว่าราคาจอง 79.78% เชื่อว่า เป็นผลจากนักลงทุนมั่นใจปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต และเชื่อว่า J จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสูง มีระบบการจัดการและการบริหารพื้นที่เช่าอย่างมืออาชีพ อีกทั้ง เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนการประกอบธุรกิจให้ครบวงจรและแข็ง แกร่ง นอกจากนี้ บริษัทยังมีผลตอบแทนที่ดี มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
โดย J เป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ากลุ่มโทรศัพท์เคลื่อน ที่ และสินค้าเทคโนโลยีเพื่อนำมาจัดสรร และให้เช่าต่อภายใต้ชื่อ "IT Junction" อีกทั้ง ยังเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่บริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า Big C ซึ่งยังมีโอกาสขยายธุรกิจในรูปแบบนี้ได้อีกมาก จากงวดครึ่งปีแรกของปี 2558 บริษัทฯ มี IT Junction จำนวนทั้งสิ้น 43 สาขา นอกจากนี้ บริษัทได้ต่อยอดธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในรูปแบบตลาดชุมชน "J Market" ซึ่งเปิดให้บริการแล้วจำนวน 4 แห่ง และศูนย์การค้าชุมชน (Community Mall) ภายใต้ชื่อ "The Jas" เปิดให้บริการแล้วจำนวน 2 แห่ง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทฯ จะนำไปใช้อย่างคุ้มค่า โดยนำไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจตามโครงการลงทุนในอนาคตจำนวน 233 ล้านบาท และนำไปชำระคืนเงินกู้จำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ลดลง และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
"ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ เปิดเหนือจองให้ผลตอบแทนนักลงทุนสูงเกือบ 80% จากราคาไอพีโอที่ 2.77บาท สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมั่นใจในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าของ J ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง มีโครงการในอนาคตที่มีศักยภาพในการเติบโตของรายได้และกำไร โดยหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายจะขยายพื้นที่เช่าทั้ง 3 รูปแบบ ให้มากกว่า 100 สาขา ภายในปี 2562 จากปัจจุบันที่มี 49 สาขา และในฐานะผู้บริหาร รวมทั้งพนักงานทุกคน ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความไว้วางใจ เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ J และในช่วงต่อจากนี้ เราพร้อมจะทำงานหนักเพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุนและทุกภาค ส่วนอย่างเท่าเทียมกัน" นางนงลักษณ์ กล่าว
ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ของบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 เปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 4.98 บาท ก่อนปรับขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 5.15 บาท และปิดที่ระดับราคา 3.88 บาท มูลค่าการซื้อขายประมาณ 1,625.74 ล้านบาท
JAS ASSET โดย SENERA ลงนามความร่วมมือกับ คณะพยาบาลศาสตร์ RMUTT สนับสนุนบุคลากรมืออาชีพ รับสังคมสูงวัยในอนาคต
ภาพข่าว: SINGER ทำพิธีเบิกเนตรองค์พระครุฑพ่าห์จำลอง 120 องค์ พร้อมนำไปประดิษฐาน ณ สาขาใหม่ทั่วประเทศ
ภาพข่าว: JMART GROUP สตอรี่เด่น นักลงทุนให้ความสนใจล้นหลามในงาน Opp Day
ภาพข่าว: SINGER ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9
ภาพข่าว: SINGER จัดพิธีบวงสรวงตราตั้งพระราชทาน องค์พระครุฑพ่าห์
ภาพข่าว: SINGER เปิดศูนย์ฝึกอาชีพ “สัมมาชีพศิษย์พระดาบส”
ภาพข่าว: SINGER สานต่อโครงการ “กำลังใจ” จัดหลักสูตรซ่อมแซมเสื้อผ้า และทำดอกไม้จันทน์สอนผู้ต้องขังหญิง
ภาพข่าว: SINGER ร่วมเป็น “ครูต้นแบบ” ประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ถวายพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ
ภาพข่าว: SINGER เปิดตัวสินเชื่อเพื่อคนไทย “รถทำเงิน”