เฉิงเล่าให้นักข่าวฟังว่า "ผมคิดว่าแม่ยอมรับเพศสภาพของผมนะครับ แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับแม่พอดู ที่จะยอมเปิดเผยเรื่องนี้กับเพื่อนๆ ของแม่ อันที่จริงในกลุ่มนักกิจกรรมเกย์ เราก็มีการคุยประเด็นนี้นะ เวลาคุณ come out (คัมเอาท์ คือการเปิดเผยตัวเองต่อคนรอบข้างว่าเป็นเกย์) คุณอาจจะโล่งนะ แต่พ่อแม่ของคุณนะสิ พวกเขาต้อง come out เรื่องของลูกกับเพื่อนๆ ของตัวเองได้ไหม"
เฉิงเล่าเรื่องเหล่านี้ให้กับนักข่าวสิงคโปร์ฟัง ตอนที่หนังเรื่อง Baby Steps ไปฉายใน เทศกาลหนังเกย์ครั้งที่ 7 ในสิงคโปร์ (ในฐานะหนังเปิดเทศกาล) ที่นั่นหนังออกฉายด้วยเรท R21 และถูกจำกัดโรงฉายแค่ 1 โรงเท่านั้น ... ความสัมพันธ์หลักในหนังเรื่องนี้ คือความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายเกย์กับผู้เป็นแม่ การที่เฉิงได้นักแสดงรุ่นใหญ่ชาวไต้หวันอย่าง กัวอ่าเหล มารับบทแม่ ทำให้เฉิงต้องแก้บทระหว่างถ่ายทำพอสมควร จากที่ตอนแรก หนังจะโฟกัสไปที่ แดนนี่ และ เทท (คู่รักชาวอเมริกัน) แต่เนื่องจาก กัวอ่าเหล เล่นดีมากจนเฉิงเพิ่มบทให้แม่มีพื้นที่ในหนังมากขึ้นกว่าเดิม
เฉิงเล่าว่า "เธอสร้างแรงบันดาลใจให้ผมอย่างมาก ทำให้ผมเกิดอยากพัฒนาคาแรคเตอร์นี้ให้มากขึ้น คนดูจะได้เห็นเรื่องราวของคนเป็นแม่ ที่ค่อยๆ เติบโต กล้าหาญ และเปิดใจยอมรับลูกชายของเธอ ... การกระทบกระทั่งของแม่ลูกในหนังค่อนข้างสมจริงพอสมควร เพราะเฉิงนำมาจากประสบการจริงของตนเอง แต่เฉิงก็ออกตัวกับคนดูไว้ก่อนว่า "หนังเรื่องนี้ไม่ใช่ประวัติชีวิตของผมนะครับ ตอนนี้ผมยังโสด และยังไม่มีลูก"
แต่เฉิงบอกว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องของเพื่อนสนิท ที่เป็นเกย์ และตอนนี้ก็มีลูกแล้วจากวิธีอุ้มบุญ ... นักวิจารณ์และสื่อหลายสำนักพูดถึง Baby Steps ว่าเป็นเหมือนภาคต่อของหนังคลาสสิกของผู้กำกับ อังลี เรื่อง The Wedding Banquet (1993) ซึ่งเล่าเรื่องของเกย์หนุ่มชาวไต้หวันที่ต้องหาสาวมาแต่งงานเพื่อตบตาพ่อแม่ของตนเอง และก็ไม่ต้องประหลาดใจถ้าหนังทั้งสองเรื่องจะเกี่ยวข้องกัน เพราะ Baby Steps นั้นโปรดิวซ์โดย สูหลี่กง โปรดิวเซอร์ของอังลีนั่นเอง
เฉิงอธิบายว่า "เราคุยกันตั้งแต่แรกเลยครับ ว่าหนังทั้งสองเรื่องอาจจะคล้ายกัน แต่มันพูดกันคนละเรื่องเลย มันเป็นประเด็นคนละยุคคนละสมัยกัน อย่างใน Wedding Banquet นั้นพูดถึงลูกชายที่ต้อง come out กับพ่อแม่ของเขา แต่หนังของผมเลยจุดนั้นมาแล้ว มันพูดถึงคนเป็นแม่ที่ต้องเรียนรู้ที่จะเปิดใจยอมรับ ครอบครัวของลูกชาย ซึ่งเป็นครอบครัวที่เกิดขึ้นโดยไม่เป็นไปตามครรลองที่คนทำๆ กันมา ผมว่าประเด็นเกย์มันค่อยๆ พัฒนาไปพอสมควรนะ"
ด้วยความที่เป็นคนเอเชีย พอมาเป็นผู้กำกับ บาร์นี่ย์ เฉิง เลยให้ความสำคัญกับเชื้อชาติของนักแสดงพอสมควรว่าต้องถูกต้องตามความเป็นจริง มันต้องสะท้อนความหลากหลายทางเชื้อชาติที่มีอยู่ในลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นฉากหลังของเรื่อง "ในลอสแองเจลิส มีทั้งคนผิวดำ คนละตินอเมริกา อินเดีย จีนอเมริกัน ทุกสีผิวเลยครับ หลากหลายมาก สำหรับผมหนังต้องสมจริงก่อนเลย ถ้าคุณดูหนังฮอลลีวู้ดนะ แอลเอจะมีแต่คนขาว ผมดูแล้วโคตรหงุดหงิด มันไม่สมจริงเอาเสียเลย" และด้วยทัศนคติที่นิยมความหลากหลายและเท่าเทียม บทบาทของผู้หญิงในหนังเรื่อง Baby Steps ก็จะเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นเบี้ยล่างผู้ชาย ตรงกันข้าม ผู้หญิงในหนังเรื่องนี้มีอาชีพการงานที่ดี เฉิงยังเล่าด้วยว่า หนังเรื่องต่อไปของเขาก็จะยังให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ เขาเล่าคร่าวๆ ว่ามันจะเป็นเรื่องของผู้หญิงผิวขาวตกหลุมรักชายหนุ่มชาวจีน
BABY STEPS ... ผิดตรงไหนที่คนที่รักกันจะอยากมีลูก : 3 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์