คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. ชูศักยภาพตลาดทุนไทยช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ช่วยสนับสนุนการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า และเป็นช่องทางให้ภาครัฐและภาคเอกชนใช้เป็นช่องทางระดมทุนนำไปใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการขนาดใหญ่เพื่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
          ดร.วรพล โสศติยานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติและคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. กล่าวปาฐกถาหัวข้อ 'ตลาดทุน…เครื่องยนต์ Hybrid พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย' ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)เนื่องในวาระครบรอบ 20 ปี หลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต (MPPM) คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยต่อจากนี้ ไม่สามารถพึ่งพาการส่งออกได้มากนัก เนื่องจากผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและยังมีอีกหลายปัจจัยที่เป็นตัวฉุดรั้งทำให้ไทยไม่สามารถก้าวข้ามวังวนเศรษฐกิจซบเซาและกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้
          ทั้งนี้ ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อความอยู่รอดเพื่อสร้างความเข้มแข็งและลดความอ่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ผ่านช่องทางตลาดทุนไทยที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญช่วยพลิกฟื้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้บรรลุผลดังกล่าวได้ เนื่องจากปัจจุบันตลาดทุนไทยมีความโดดเด่นในระดับภูมิภาคและสามารถเป็นเสาหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต โดยขนาดของการระดมทุนผ่านตลาดตราสารทุน (หุ้นสามัญ) และตลาดตราสารหนี้มีมูลค่ารวมใหญ่มากกว่า 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับสินเชื่อเงินกู้จากสถาบันการเงินและบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดทุนมีทุนรวมเป็นมูลค่า Market Capitalization มากกว่า GDP ของประเทศ
"ในปีที่ผ่านมามีหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่เข้าตลาดหลักทรัพย์จำนวน 45 หลักทรัพย์รวมมาร์เก็ตแคปหุ้นIPO สูงเกินระดับ 3 แสนล้านบาท สูงสุดในอาเซียนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันและมีมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 45,466.49 ล้านบาทต่อวัน สูงสุดในอาเซียนเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้แสดงให้เห็นความสามารถของตลาดทุนไทยที่มีศักยภาพนำมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยได้ และพร้อมเป็นพลังงานขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจเชิงคุณค่าเพื่อรับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในช่วงทศวรรษต่อไปได้เป็นอย่างดี" ดร.วรพล กล่าว
          เนื่องจากในขณะนี้ ประเทศไทยมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า หรือเศรษฐกิจคุณค่า โดยมุ่งเน้นด้านคุณค่าของสินค้าและบริการด้วยนวัตกรรมที่ดีกว่าและสร้างความพึ่งพอใจให้แก่ลูกค้ามากกว่าใช้ปัจจัยด้านราคาเป็นตัวกำหนด ซึ่งการทำให้สัมฤทธิ์ผลจำเป็นต้องอาศัยเศรษฐกิจ 4 ฐานได้แก่ เศรษฐกิจฐานความเชื่อมโยง ที่ใช้ความได้เปรียบของไทยมีที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางของภูมิภาคในการสร้างเศรษฐกิจคุณค่าจากการเป็นศูนย์กลางการคมนาคม การค้าและการลงทุน
          ส่วนเศรษฐกิจฐานดิจิทัลนั้น ประเทศไทยต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อเชื่อมต่อกับโครงข่ายสื่อสารทั่วโลกได้สะดวกและมีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมช่องทางการทำธุรกิจ และการระดมทุนผ่านระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่เศรษฐกิจฐานความรู้ ต้องใช้วิทยาการต่างๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม มาสร้างองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่ไทยมีศักยภาพเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีความได้เปรียบให้สามารถแข่งขันในระดับโลกและสุดท้ายเศรษฐกิจฐานความคิดสร้างสรรค์ ที่นำผลิตภัณฑ์จากการคิดสร้างสรรค์ทุกแขนงบนฐานศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีหรือภูมิปัญญาไทย เช่น ร้านอาหารไทยทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาไทย OTOP การสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่น ซึ่งเป็นความสามารถที่เป็นจุดเด่นของคนไทยมาทำให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น 
          อย่างไรก็ตาม ฐานเศรษฐกิจที่กล่าวมาจะขับเคลื่อนจุดแข็งของประเทศไทยให้โดดเด่นขึ้นนั้น จำเป็นต้องใช้งบประมาณและการลงทุนสูง งบประมาณภาครัฐและเพดานหนี้สาธารณะซึ่งมีอยู่จำกัด ดังนั้นตลาดทุนจึงเป็นเครื่องยนต์พลัง Hybrid ที่สามารถสลับเข้ามาทดแทนการใช้งบประมาณแผ่นดินและหนี้สาธารณะที่มีข้อจำกัดได้ โดยสามารถเร่งรัดขับเคลื่อนด้วยการระดมทุนเพื่อนำไปใช้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ ของประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
          "ตลาดทุนถือเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยและสามารถนำไทยสู่เศรษฐกิจคุณค่าและก้าวพ้นไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงได้ โดยทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากตลาดทุน เนื่องจากภาครัฐสามารถตั้งกองทุนพื้นฐานเพื่อระดมทุนมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ ขณะที่ภาคธุรกิจใช้เป็นแหล่งระดมทุนขยายกิจการเพื่อที่จะสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ และภาคประชาชนใช้เป็นแหล่งลงทุนเพื่ออนาคตที่จะสร้างความมั่นคงทางการเงินและความอยู่ดีมีสุขในวัยเกษียณได้" ดร.วรพล กล่าว
                    
                            
                            เด็กหัวเฉียวสุดปังคว้ารางวัลชนะเลิศเวทีนานาชาติ
                        
                            โทเคน เอกซ์ จับมือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โดย คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ ลงนาม MOU เสริมทักษะนักศึกษา เชื่อมเครือข่ายอุดมศึกษา-อุตสาหกรรม
                        
                            จากวิสัยทัศน์สู่การลงมือจริง ผู้บริหารบางจากฯ จุดประกายแนวคิด Feasibility Study แก่นักศึกษาปริญญาโทนิด้า
                        
                            NIDA จับมือรัฐ-เอกชน-ภาคการศึกษา เปิดหลักสูตร "Gen AI x Low-Carbon Tourism" เสริมศักยภาพท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำด้วย AI
                        
                            เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล ผนึก NIDA เปิดการอบรมหลักสูตร "ผู้บริหารระดับสูงด้านเศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม"
                        
                            กสิกรไทยร่วม COP29 ผลักดันความมุ่งมั่นด้านสภาพภูมิอากาศของไทย หนุนใช้นวัตกรรมการเงินและการจัดการคาร์บอน
                        
                            บางจากฯ แบ่งปันแนวคิดการจัดการงานสื่อสาร แนวคิดการบริหารธุรกิจอย่างมีสมดุล เพื่อความยั่งยืน
                        
                            สอวช. จับมือ NIDA ปลุกปั้น Festival ไทยให้รู้จักไปทั่วโลก ยกประเพณีสงกรานต์ 67 เป็นกรณีศึกษา หลังเงินสะพัด 1.4 แสนล้าน
                        
                            โบลท์ (Bolt) เผยสถิติ คนไทยมีแนวโน้มหันมาเลือกการเดินทางแบบปลอดมลพิษมากขึ้น