สศท.10 ชู ราชบุรี สุดยอดแหล่งเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม มูลค่าผลิตขยายอย่างต่อเนื่อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สศก. เผย ราชบุรี แหล่งเพาะเลี้ยงปลาสวยงามมากที่สุดของประเทศ ปัจจุบัน มีฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาสวยงามที่ขึ้นทะเบียนกับกรมประมงแล้ว 159 ฟาร์ม มูลค่าการผลิตปลาสวยงามของจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดย ตลาดส่งออกสำคัญ คือ สิงคโปร์และฮ่องกง และมีความมั่นใจว่า แนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นหลังจากภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว 
          นายธวัชชัย ประยูรสิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 จังหวัดราชบุรี (สศท.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การเพาะเลี้ยงปลาสวยงามของจังหวัดราชบุรี ว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรเพาะเลี้ยงมากที่สุดของประเทศ สร้างรายได้ปีละกว่า 150 ล้านบาท โดยมีฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาสวยงามที่ขึ้นทะเบียนกับกรมประมงแล้ว จำนวน 159 ฟาร์ม รวม 36,682 บ่อ และเนื้อที่เพาะเลี้ยงประมาณ 120 ไร่ ใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม อำเภอเมือง อำเภอบางแพ อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอปากท่อง และอำเภอสวนผึ้ง 
          สำหรับปลาสวยงามยอดนิยม 8 อันดับเพื่อการส่งออก ได้แก่ ปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาหางไหม้ ปลาหมอสี ปลาทรงเครื่อง ปลาคาร์พ ปลาน้ำผึ้ง ปลาสอด และจากความได้เปรียบทางสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และด้านทรัพยากรแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีความพร้อมต่อการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามอย่างมาก ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการผลิตปลาสวยงามของจังหวัดราชบุรีขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 โดยเพิ่มขึ้นจากมูลค่า 89.17 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 166.88 ล้านบาท ในปี 2557 ตลาดส่งออกที่สำคัญ ยังคงเป็นตลาดสิงคโปร์และฮ่องกง ที่เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปยังยุโรป ญี่ปุ่น และอเมริกา โดยมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นหลังจากภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว 
          นอกจากนี้ จังหวัดราชบุรี ได้มีการจัดตั้งตลาดกลางปลาสวยงาม "Fish Village Ratchaburi" หรือ "ฟิชวิลเลจ ราชบุรี" เป็นศูนย์กลางการซื้อขายในภูมิภาคที่จะช่วยยกระดับการเจริญเติบโตของทั้งผู้เพาะเลี้ยง และผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้ง การดำเนินงานของตลาดปลาสวยงามเพื่อขยายตลาดโดยตรงให้มากขึ้น โดยมีแนวทางในการส่งออกไปยังตลาดยุโรป ญี่ปุ่น และอเมริกา ซึ่งจะลดลการพึ่งพาตลาดสิงคโปร์และฮ่องกง ทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน และที่สำคัญช่วยให้สภาพเศรษฐกิจทั้งระดับภูมิภาคและระดับประเทศดีขึ้นอีกด้วย นายธวัชชัย กล่าว


ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่+สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรวันนี้

ปีนี้ ไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ผลผลิตรวม 6.7 แสนตัน สศท.8 ชวนบริโภค 'ลองกอง' ในฤดู ก.ย. - ต.ค. นี้ ออกตลาด ร้อยละ 42

นายนิกร แสงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลสรุปข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคใต้ ปี 2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2568) ซึ่ง สศก. โดย สศท.8 สศท.9 และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 (สสก.5) ร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคใต้ สรุปตัวเลขเอกภาพปริมาณผลผลิตของไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกองในพื้นที่ 14 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ระนอง ภูเก็ต ตรัง

นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำ... สศท.2 เกาะติดสถานการณ์ผลิตทุเรียนภาคเหนือตอนล่าง ปี 68 รวม 6 จังหวัด แตะ 55,000 ตัน เพิ่มขึ้น 12.47% — นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษ...

นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิ... สศท.8 เผยผลศึกษาการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้จากมังคุด ตามแนวทาง BCG Model เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร — นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 ส...

นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศร... สศท.3 หนุนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 'สับปะรดท่าอุเทน' GI ขึ้นแท่นผลไม้เศรษฐกิจเด่น จ.นครพนม — นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่...

นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเ... 'กระท้อนนาปริก' จ.สตูล สินค้า GI มุ่งยกระดับคุณภาพ พัฒนาตลาด สร้างรายได้อย่างยั่งยืน — นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา...