ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ไส้กรอก-เนื้อสัตว์แปรรูปทานได้ แนะเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นางสาวเพ็ญศรี จูงศิริวัฒน์ อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ สำนักส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency Of Research On Cancer หรือ IARC) ในสังกัดองค์การอนามัยโลก หรือ WHO (World Health Organization) ระบุว่า การบริโภคอาหารเนื้อสัตว์แปรรูปมีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งนั้น ในความเป็นจริงแล้วผู้ผลิตจะมีกระบวนการแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ได้มาตรฐานอาหารปลอดภัยระดับสากล ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เนื้อสัตว์สด สะอาด ไม่มีสารเจือปนอื่นๆที่ไม่จำเป็นต่อการผลิต
          "เรื่องนี้ผู้บริโภคไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไปนัก เพราะคนเราบริโภคไส้กรอกมานานกว่า 100 ปี หากการรับประทานไส้กรอกหรือเนื้อสัตว์แปรรูปอันตรายจริง แล้วทำไมชาวเยอรมันซึ่งรับประทานไส้กรอกเป็นอาหารหลัก แต่สถิติการป่วยเป็นมะเร็งกลับไม่สูงกว่าประเทศอื่นๆที่บริโภคไส้กรอกน้อยกว่า ผู้บริโภคจึงควรเลือกรับประทานไส้กรอกและอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ จากผู้ผลิตที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้" นส.เพ็ญศรี กล่าว
          สำหรับการผลิตไส้กรอกและเนื้อสัตว์แปรรูปนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องเติมสารประกอบกลุ่มไนไตรท์-ไนเตรท (Nitrite and Nitrates) ในปริมาณที่เหมาะสมตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 281 ที่กำหนดปริมาณการใช้เกลือโซเดียมไนไตรท์ได้ไม่เกิน 125 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของน้ำหนักผลิตภัณฑ์ และโซเดียมไนเตรทใช้ได้ไม่เกิน 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของน้ำหนักผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจน (anaerobic bacteria) ที่เป็นสาเหตุของการเสื่อมเสียของอาหาร โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย Clostridium botulinum ที่สร้างสารพิษที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค รวมทั้งแบคทีเรีย Clostridium perfringens ที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ และลำไส้เล็กอักเสบเฉียบพลันได้ เกลือไนไตรท์ยัช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีสีชมพูน่ารับประทาน 
          "การใส่สารประกอบกลุ่มไนไตรท์-ไนเตรท และผู้ประกอบการที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานจะเติมสารกลุ่มนี้ตามปริมาณที่กำหนดหรือต่ำกว่ากำหนดอยู่แล้ว ซึ่งความร้อนและระยะเวลาการผลิตจะทำให้ปริมาณเกลือไนไตรท์ลดลงไปอีก จนไม่น่าเป็นสาเหตุให้เกิดสารก่อมะเร็งได้ ที่สำคัญผู้บริโภคต้องไม่ปรุงอาหารด้วยไฟแรงๆหรือใช้ความร้อนสูงเกินไป เช่น การย่าง การทอด จนไหม้เกรียมซึ่งจะเป็นสาเหตุของการเกิดสารก่อมะเร็ง" นส.เพ็ญศรี กล่าว
          ด้าน อ.ดร.ศิริมา พ่วงประพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหาร ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สำนักงาน IARC ได้ประเมินข้อมูลวิจัยเชิงระบาดวิทยาจากหลายแหล่งซึ่งนำไปสู่การจัดสารก่อมะเร็งออกเป็นกลุ่มๆ ตามระดับความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งถึงความสัมพันธ์ของสารกับโรคมะเร็งหนึ่งๆ ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการแบ่งกลุ่มตามระดับความรุนแรงของการก่อมะเร็งโดยสารนั้นๆแต่อย่างใด รายงานของ IARC นี้ได้เสริมคำแนะนำของ WHO ที่ให้ควบคุมปริมาณการบริโภคเนื้อแปรรูป เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ โดยได้สรุปไว้ว่าการบริโภคเนื้อแปรรูปมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้อยู่เล็กน้อย ซึ่งขึ้นกับปริมาณของเนื้อที่บริโภค อันแปลว่าความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่เกิดจากการบริโภคเนื้อแปรรูปนั้นยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นตามปริมาณที่บริโภคเข้าไป ดังนั้นการประกาศของ WHO ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลิกทานเนื้อแดงหรือเนื้อแปรรูป แต่ให้ควบคุมปริมาณการบริโภคให้พอดี
          นอกจากนี้ การบริโภคเนื้อแดง (red meat) ได้แก่ เนื้อวัว หมู แกะ หมูป่า ม้า และแพะ นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะเป็นแหล่งของโปรตีน แร่ธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินบี 12 ส่วนเนื้อแปรรูปหมายถึง เนื้อที่ผ่านกระบวนการเพื่อเป็นการถนอมอาหารหรือปรับปรุงรสชาติ ด้วยการรมควัน อบ เติมเกลือหรือสารกันเสีย
          "สิ่งที่ผู้บริโภคควรคำนึงคือ การเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูปที่มาจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีการควบคุมกระบวนการผลิตที่ดี มีการระบุวัตถุดิบและปริมาณที่ใช้ ที่สำคัญควรควบคุมปริมาณการบริโภคเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปไม่ให้มากเกินไป เลือกทานอาหารที่หลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ รวมถึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ" อ.ดร.ศิริมา กล่าว

ข่าวเพ็ญศรี จูงศิริวัฒน์+องค์การอนามัยโลกวันนี้

GSK ร่วมรณรงค์ "สัปดาห์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก 2025" ชูการป้องกันโรคสำหรับทุกวัย

องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ทุกวันที่ 24-30 เมษายนของทุกปีถือเป็น "สัปดาห์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก" ซึ่งเป็นแคมเปญด้านสาธารณสุขระดับโลกเพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยในปีนี้ได้กำหนดธีม "Immunization for All is Humanly Possible" เพื่อย้ำถึงความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันทั่วโลกสำหรับทุกคนว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ ด้วยความมุ่งหวังให้ผู้คนทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ได้รับการปกป้องจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนมากยิ่งขึ้น

จากสถิติองค์การอนามัยโลกพบว่ามะเร็งปอดเป็... แอสตร้าเซนเนก้า เผยความสำเร็จในการใช้ AI คัดกรองมะเร็งปอดจากภาพเอกซเรย์ เสริมความมั่นคงด้านสุขภาพที่ยั่งยืน — จากสถิติองค์การอนามัยโลกพบว่ามะเร็งปอดเป็นสา...

ผู้แทนองค์การอนามัยโลกปลาบปลื้มพระมหากรุณ... ผู้แทนองค์การอนามัยโลกปลาบปลื้มพระมหากรุณาธิคุณ สืบสานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก เร่งป้องกันปัญหาการคลอดก่อนกำหนด — ผู้แทนองค์การอนามัยโลกปลาบปลื้...

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า วัณโรค (... การต่อสู้กับวัณโรค: ทำไมการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ — องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า วัณโรค (TB) อาจกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตหลักจากการติดเชื้อทั่วโลก...

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระท... สธ. จับมือภาคีหนุนส่งนมแม่ฟรี ดันเป้าเด็กแรกเกิดกินนมแม่ 6 เดือนแรก มากกว่าร้อยละ 50 — นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในโอกาสเ...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย นมแม่มีสาร... นมแม่มีประโยชน์ กรมอนามัย แนะ ทารก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน กินนมแม่อย่างเดียว — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย นมแม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ แนะ ทารกกินน...

หากเอ่ยถึง "โรคพาร์กินสัน" ภาพการรับรู้ขอ... "Check PD" แอปพลิเคชันตรวจหาความเสี่ยงเป็นพาร์กินสัน รู้เร็ว รักษาไว เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี — หากเอ่ยถึง "โรคพาร์กินสัน" ภาพการรับรู้ของหลายคนจะม...

นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำน... กทม. เตรียมพร้อมติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อหิวาตกโรค-แนะยึดหลัก "กินร้อน ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ" — นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.)...

สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (ส... งานประกาศผลการประกวดคลิปสั้น The PAUSE Project : eyes up phone down เดินเท้าปลอดภัย — สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับองค์การอนามัยโล...