ขณะเดียวกัน อาคารแสดงประเทศไทยยังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนต่างชาติทั้งสื่อหลัก และสื่อสังคมออนไลน์ ที่จัดให้ไทยติด 1 ใน 5 ของอาคารแสดงที่มีคนชื่นชอบและได้รับความนิยม ร่วมกับอีก 4 ประเทศ คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ญี่ปุ่น อาเซอร์ไบจาน และคาซัคสถาน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการสร้างภาพลักษณ์ให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงศักยภาพของประเทศไทยในด้านต่างๆ นอกเหนือจากความพร้อมในการเป็นครัวของโลก ผ่านการเข้าร่วมงาน เอ็กซ์โปมิลาโน 2015 ในครั้งนี้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว เป็นต้น
"ล่าสุดขณะนี้อาคารแสดงประเทศไทยมีผู้เข้าชมเกิน 2 ล้านคน ตามเป้าหมาย 10% ของผู้เข้าชมงานเอ็กซ์โป มิลาโน 2015 ทั้งหมด โดยผู้ที่เข้าชมพาวิลเลียนไทยเป็นคนที่ 2 ล้าน ได้แก่ นายมาร์เชลโล พาราโกนี และ น.ส.อลิซ โกดิโอ ชาวอิตาเลียน ซึ่งทั้งสองคนเล่าถึงความประทับใจหลังเข้าชมในหลายๆ ด้าน ทั้งการนำเสนอถึงขั้นตอนการผลิตที่ได้คุณภาพ มาตรฐาน ได้รับทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงทำเพื่อพัฒนาเกษตรกรและภาคการเกษตรของประเทศไทย วัฒนธรรมและสถานที่ที่สวยงาม และรสชาติอาหารไทยที่นำมาจำหน่าย ทำให้สนใจอยากมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยด้วย"
นอกจากการเข้าตรวจเยี่ยมอาคารแสดงประเทศไทยแล้ว ยังได้เข้าเยี่ยมชมอาคารแสดงของประเทศต่างๆ ที่เป็นประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีการเกษตร ได้แก่ อาคารแสดงของประเทศญี่ปุ่น ที่เชื่อมโยงอาหารกับวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี หรือ อาคารแสดงของรัฐอิสราเอล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จัดแสดงเทคโนโลยีเกี่ยวกับการจัดการน้ำที่จะเป็นประโยชน์ในการจัดการภัยแล้งในพื้นที่บางส่วนของไทยได้
การจัดงานเอ็กซ์โปฯ ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรต่างๆ จะร่วมกันกันในอนาคต เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาสำคัญที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ได้แก่ ความอดอยากหิวโหย ความยากจน และการขาดแคลนอาหาร ที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทางการเกษตรและพลังงานอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งการนำเสนอของอาคารแสดงประเทศไทย ได้นำเสนอแนวคิดหลักเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพพร้อมก้าวสู่การเป็น "ครัวโลก" เป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัยในทุกกระบวนการ ที่สำคัญ ยังนำเสนอถึงแนวทางการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานผ่านโครงการพระราชดำริต่างๆ เพื่อถ่ายทอดไปยังเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการผลิตนมทั้งระบบ ณ ฟาร์มโคนมโซซิเอตะ อะกลิโคละ เมลลาโน่ ซึ่งเป็นฟาร์มโคนมแบบครบวงจรขนาดใหญ่ที่ใช้วิธีผสมผสานระหว่างวิธีแบบออร์แกนิคและไบโอไดนามิค ที่เป็นการบริหารจัดการฟาร์มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งไทยพร้อมจะขยายความร่วมมือระหว่างกัน ให้สามารถต่อยอดในการพัฒนาโคนมของไทยได้อนาคต
"รมช.นเรศ" ลงพื้นที่เวียงป่าเป้า ตรวจแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายจากพายุยางิ
"รมว.อรรถกร"นำ กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกำลังภาคเอกชน พัฒนา 'จุลสาหร่าย' สู่พลังงานสะอาด-นวัตกรรมอาหารสัตว์ ยกระดับทรัพยากรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น
"รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ
กระทรวงเกษตรฯ เปิดประชุม "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" เตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรอย่างเร่งด่วน
กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา"
"รมว.อรรถกร" นำ กระทรวงเกษตรฯ เปิดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ จ.นครศรี ยกระดับบริการถึงมือเกษตรกร หนุนองค์ความรู้ เพิ่มรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดงานชุมนุมยุวเกษตรกรระดับประเทศ ประจำปี 2568
กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล"