พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 20 (Book Expo Thailand 2015)" ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันพุธที่ 21 ตุลาคม - วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 (12 วัน) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด "วาด"
นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า "มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 20 (Book Expo Thailand 2015)" ถือเป็นงานแสดงหนังสือระดับชาติที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากบรรดาคนรักการอ่านมาตลอด โดยในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สวนกระแสเศรษฐกิจ โดยมีสำนักพิมพ์ไทยตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 421 สำนักพิมพ์ รวมทั้งสิ้น 933 บูธ บนพื้นที่ประมาณ 21,000ตารางเมตร
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน อาทิ นิทรรศการการ์ตูนไทยตายแล้ว? / นิทรรศการบทกวีเพื่อจัดประมูลจากศิลปินระดับชาติ ที่บริเวณเมนฟอร์เย่ / นิทรรศการย้อนตำนานสตรีสาร 100 ปี คุณนิลวรรณ ปิ่นทอง / 'มิวเซียมสยามมินิ' คำไทย ใครทำ : หลากหลาย คือไทยแท้ ที่ฮอลล์เอ / นิทรรศการสืบไพร ทุ่งใหญ่ตะวันตก ที่โซนซี 1 อีกทั้งยังมีการจัดอบรมทั้งวิชาการและวิชาชีพกว่า 50 รายการตามห้องประชุมต่างๆ รวมถึงการเสวนาบนเวทีกลางกว่า 80 รายการ
"ในฐานะองค์กรที่มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมการอ่านนั้น เล็งเห็นว่าหนังสือและการอ่านถือเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพราะคนถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของการที่จะพัฒนาประเทศในทิศทางต่างๆ ถ้าคนในชาติอ่านมากขึ้นก็จะมีความรู้ ความคิด และวิจารณญาณในการพิจารณาประเด็นต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาตัวเอง เราจำเป็นต้องอ่านหนังสือให้มากขึ้นกว่านี้ เพื่อเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศก้าวเดินได้อย่างมั่นคง" นายจรัญกล่าว
โดยนายจรัญเปิดเผยว่า ปีนี้ได้จัดงานภายใต้แนวคิด "วาด" ซึ่งเชื่อมโยงกับนิทรรศการไฮไลท์ของงานคือ "การ์ตูนไทยตายแล้ว?" ส่วนตัวแล้วตนหวังว่าการ์ตูนทุกภาพทุกเรื่องเล่า ที่ทางผู้จัดคัดเลือกมาแสดงในนิทรรศการแบบสามมิติครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสะกิดสังคมให้คิดถึงอนาคตทั้งในระดับปัจเจกและระดับชาติ ในวันที่เราทุกคนจะต้องมาเริ่มต้นวาดทุกอย่างใหม่ร่วมกัน
"วาดหมายถึงว่าในยามนี้คุณอยากวาดอะไรก็วาดไป ทุกคนมาเริ่มต้นกันใหม่ประเทศนี้ อยากวาดฝันประเทศอย่างไร อนาคตอย่างไร สอดคล้องกับคีย์วิชวลของงานครั้งนี้ที่ภาพลายเส้นในการวาดทั้งหมด มีนัยยะที่ซ่อนอยู่มากกว่าความเป็นภาพวาดธรรมดาให้ได้ตีความกัน ซึ่งจะวาดฝันประเทศชาติ เศรษฐกิจ วาดอนาคตตัวเอง หนังสือคือส่วนหนึ่งของความรู้ที่เป็นคำตอบ
ในส่วนของนิทรรศการนั้น แม้การ์ตูนจะเป็นวัฒนธรรมที่นำเข้าจากตะวันตก แต่ก็เช่นเดียวกับวัฒนธรรมอื่นๆ เมื่องอกเงยในสังคมไทยต่างก็มีการให้ความหมายและใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน บ้างก็ใช้ล้อเพื่อความบันเทิง บ้างก็ใช้เพื่อแสดงจุดยืนทางความคิด ความเชื่อ แต่ทั้งหมดยังอยู่ในจุดร่วมเดียวกันคือมีท่าทีที่ทีเล่นทีจริง วัฒนธรรมการ์ตูนได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการอ่านไปแล้ว ลายเส้นของการ์ตูนกลับเป็นตัวสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกไม่น้อยไปกว่าตัวอักษร
แต่การ์ตูนเป็นเพียงแค่ภาพล้อให้รู้สึกขบขันเท่านั้นจริงๆหรือ การ์ตูนไม่ได้ให้ความรู้และแรงบันดาลใจแก่ผู้อ่านเลยหรือ และการ์ตูนไม่ได้ปลูกฝังความเชื่อและอุดมการณ์ของยุคสมัยไว้หรืออย่างไร และท่ามกลางกระแสการปิดตัวลงของนิตยสารการ์ตูน และแนวโน้มการลดการผลิตหนังสือการ์ตูนแบบรวมเล่มของสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์การ์ตูนญี่ปุ่น ที่แสดงให้เห็นว่ายอดขายหนังสือการ์ตูนได้ลดลงอย่างมากจนผู้ประกอบการต้องปรับตัวอย่างหนักนั้น รวมถึงแล้วการ์ตูนไทยล่ะ ยังมีที่ทางอยู่ไหม นี่คือบางส่วนของคำถามที่เราตั้งใจจะชวนมาหาคำตอบร่วมกัน" นายจรัญกล่าว
นอกจากนี้ในนิทรรศการใหญ่นี้ยังมี "นิทรรศการ 100 ปี ประยูร จรรยาวงษ์ ราชาการ์ตูนไทย" อีกด้วย
"ประยูร จรรยาวงษ์ ได้สร้างชื่อเสียงแก่วงการนักเขียนการ์ตูนไทยเมื่อผลงานการทดลองระเบิดปรมาณูลูกสุดท้าย ได้รางวัลชนะเลิศการประกวดการ์ตูนสันติภาพที่นิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ผลงานการเขียนการ์ตูนการเมืองก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัลของมูลนิธิรามอนแมกไซไซ สาขานักหนังสือพิมพ์ ในปี 2514 ไม่เพียงแต่เรื่องการเมืองเท่านั้น เขายังถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่เขาได้มีประสบการณ์เรียนรู้ผ่านการใช้ชีวิตของตน ผ่านการ์ตูนชุดขบวนการแก้จน เริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2515 – 2521 การ์ตูนชุดนี้ได้รับความนิยมจากผู้อ่านอย่างมากในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมายาวนานกว่า 20 ปี ขบวนการแก้จนได้รับคัดเลือกให้เป็นหนังสือดี 100 เล่ม ที่คนไทยควรจะได้อ่าน ซึ่งในคำประกาศได้บอกว่าเป็นอัญมณีทางการ์ตูนที่หาได้ยากยิ่ง ถือเป็นประจักษ์พยานได้เป็นอย่างดีถึงความเป็นอมตะในผลงานของราชาการ์ตูนไทยผู้นี้" นายจรัญกล่าว
ที่สำคัญอย่างยิ่งคือกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างมีคุณภาพ "โครงการ ๑ อ่าน ล้านตื่น" ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 27 ตุลาคม 2558 สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่านด้วยหนังสือคุณภาพ จัดงานวัน ๑ อ่าน ล้านตื่น โดยมอบคูปองให้เด็กด้อยโอกาสจากหน่วยงานต่างๆ จำนวน 200 คน คนละ 500 บาท มาเลือกซื้อหนังสือด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของการสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน
โดยในปีนี้สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังได้รับเกียรติอย่างสูงจากกวีและศิลปินชื่อดังระดับประเทศ อาทิ คุณประภัสสร เสวิกุล ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของคุณประภัสสรก่อนจากไป คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, คุณ จิระนันท์ พิตรปรีชา, คุณเรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ เป็นต้น ร่วมมอบบทกวีเขียนด้วยลายมือตนเอง เพื่อประมูลนำรายได้เข้าโครงการ ๑ อ่าน ล้านตื่น ซึ่งถือเป็นโครงการแรกที่ให้สิทธิ์ผู้รับบริจาคในการเลือกหนังสือได้ด้วยตนเอง ตามรายการหนังสือที่สมาชิกส่งมาเข้าร่วมโครงการ โดยได้ผ่านการพิจารณาจากผู้แทนของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเป็นหนังสือคุณภาพ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2558 เวลา 16.00 – 17.00 น. ณ เวทีเอเทรียม
ในส่วนของความคาดหวังนั้น นายจรัญมองว่าแม้ขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะไม่ดีนัก แต่เชื่อมั่นว่าธุรกิจหนังสือเล่มนั้น ยังมีทางที่จะเติบโตได้
"หนังสือเป็นสินค้าที่จำเป็นของผู้อ่านกลุ่มหนึ่ง ที่จำเป็นต้องอ่าน ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร เพราะขึ้นชื่อว่านักอ่านซึ่งมีความผูกพันกับหนังสือ ย่อมไม่มีทางที่จะไม่อ่านอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนคือปริมาณการซื้ออาจจะ"น้อยลง"อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้มีการเลือกซื้อหนังสือตามความจำเป็น หนังสือที่ได้รับความนิยม ก็ยังคงเป็นหนังสือนิยายภาพ หรือเป็นหนังสือที่มีการเล่าเรื่องโดยใช้การ์ตูน
จึงคิดว่าจำนวนผู้ร่วมงานไม่น่าจะน้อยกว่าเดิมคือประมาณ 2,000,000 คน และกลุ่มนักอ่านน่าจะมีเยาวชนเพิ่มมากขึ้น เป็นเด็กๆ รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับความนิยมของหนังสือภาพ แต่ยอดขายอาจไม่น่าดีมากนักตามสภาพเศรษฐกิจ สภาวะเช่นนี้สำนักพิมพ์จะต้องร่วมมือกันผลิตหนังสือที่มีคุณภาพและซื่อสัตย์ต่อผู้อ่าน เพื่อรักษาความเชื่อมั่นให้ได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ตนหวังเห็นหนังสือสารคดีที่มีข้อมูลที่ถูกต้องและมีความแม่นยำทางเนื้อหา หรือหนังสือแนวประวัติศาสตร์มุมมองใหม่ซึ่งมาพร้อมกับความท้าทายในความถูกต้องของเรื่องราวในประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นมากกว่าที่มีอยู่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และองค์ความรู้ในสังคมไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง" นายจรัญกล่าว
เตรียมตัวให้พร้อม หอบความสุข พกความรู้กลับบ้านใน "มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 20 (Book Expo Thailand 2015)" ในระหว่างวันพุธที่ 21 ตุลาคม – วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 (12 วัน) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.
"ซีเอ็ด" สร้างปรากฏการณ์! "เฟยเทียนเย่เสียง" นักเขียนจีนชื่อดังเยือนไทย ร่วมเปิดตัว 'GEMINI LINE UP 2026' พร้อมลิขสิทธิ์ "ปรมาจารย์ลัทธิมาร" ฉบับนิยาย
"ซีเอ็ด" จัดงานเสวนา "DARKSIDE ตลาดหุ้นไทย" เผยด้านมืด และมุมมองเชิงลึกการลงทุนอย่างรอบด้าน ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30
เคทีซีร่วมปลุกเทรนด์ "อ่านด้วยใจ" ในมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 พร้อมสิทธิพิเศษเพื่อคนรักการอ่าน
ซีเอ็ด เปิด "SE-ED PLAYGROUND" พื้นที่สนุกของทุกคน เพื่อค้นพบแรงบันดาลใจ ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30
เตรียมพบกับงานสัมมนา "Book Symposium" ภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 ภายใต้แนวคิด "Read to Learn, Read to Live : อ่านเพื่อเรียน อ่านเพื่อรู้ อ่านเพื่อชีวิต"
เริ่มแล้ว! งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ'29 ซีเอ็ดจัดหนักให้คนไทยต้องได้อ่าน
ศูนย์หนังสือจุฬาฯ เปิดตัว "เก่งสอบ" แพลตฟอร์มข้อสอบออนไลน์
บีทูเอส ชวนนักอ่าน ร่วมงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 28 ยกขบวนหนังสือใหม่ มาให้ช้อป ครบทุกรส จากหลายสำนักพิมพ์
ไปรษณีย์ไทยให้บริการ "EMS ส่งหนังสือด่วนกลับบ้านทั่วไทย" เอาใจนักอ่าน ช้อปจุใจไม่ต้องหิ้วกลับ บริการตลอด 12 วันที่งาน Book Expo Thailand 2023