กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะข้อควรปฏิบัติเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง โดยไม่ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ใช้ความเร็วในการขับรถให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และลดความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ รวมถึงไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน พร้อมจอดพักรถเป็นระยะทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะทาง 150 - 200 กิโลเมตร ตลอดจนใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งขณะขับขี่และโดยสารรถ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2559 พบว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ ทั้งการขับรถเร็ว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การง่วงหลับใน และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรง เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ดังนี้ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วบนเส้นทางอย่างเคร่งครัดใช้ความเร็วในการขับรถให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ ปริมาณการจราจร และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง เพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ลดความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ เขตชุมชน บริเวณโรงเรียน ทางโค้ง ทางลาดชัน ถนนที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม รวมถึงใช้ความเร็วให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมรถได้เมื่อขับผ่านเส้นทางที่ทัศนวิสัยไม่ดี โดยใช้ความเร็วให้สัมพันธ์กับระยะในการมองเห็นเส้นทางและระยะทางที่ไฟหน้าส่องถึง ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ เพราะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง และไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงที หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด ควรให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับรถแทน ใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถโดยสารสาธารณะ กรณีไม่มีเพื่อนร่วมทาง ควรรอจนสร่างเมา จึงค่อยขับรถไปต่อ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน โดยนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ ไม่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรหยุดพักรถทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะทาง 150 – 200 กิโลเมตร รวมถึงควรมีเพื่อนร่วมทางผลัดเปลี่ยนกันขับรถ จะช่วยป้องกันอาการหลับในขณะขับรถ ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ล้างหน้า ดื่มกาแฟ พักหลับประมาณ 15 – 20 นาที จะช่วยคลายความอ่อนล้าที่เป็นสาเหตุของการหลับในได้ ตลอดจนใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถ โดยคาดเข็มขัดนิรภัยแนบชิดลำตัว พาดผ่านสะโพกและหัวไหล่ พร้อมปรับระดับความตึงให้กระชับ สายไม่พลิกและบิดงอ จะช่วยให้เข็มขัดนิรภัยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และป้องกันการกระตุกอย่างแรงเมื่อประสบอุบัติเหตุ เลือกใช้หมวกนิรภัยแบบเต็มใบที่มีขนาดพอดีกับศีรษะ มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สวมหมวกนิรภัยในลักษณะตรง ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง คาดสายรัดคาง และปรับความตึง ให้กระชับใต้คาง สายไม่บิดหรือหย่อน รวมถึงกระชับเพียงพอที่หมวกนิรภัยจะไม่หลุดออกจากศีรษะเมื่อประสบอุบัติเหตุ เลือกใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กให้เหมาะสมกับวัย รูปร่าง น้ำหนักและส่วนสูงของเด็ก โดยใช้เข็มขัดนิรภัยยึดที่นั่งนิรภัยไว้บริเวณกึ่งกลางของเบาะด้านหลังรถอย่างแน่นหนา คาดสายรัดที่นั่งนิรภัยให้กระชับลำตัวเด็ก ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับแซงรถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด ไม่เปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหัน ไม่ขับรถย้อนศร ไม่ขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร ตลอดจนมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง