Kingston พร้อมส่งยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ที่มาพร้อมการเข้ารหัสระดับฮาร์ดแวร์ เจาะผู้ใช้กลุ่มองค์กร

          - โดดเด่นด้วยการเข้ารหัสมาตรฐาน FIPS 140-2 Lever3 และ FIPS 197
          - ช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันการสูญเสียข้อมูลที่มีค่าและเป็นไปตามข้อกำหนดต่างๆ ที่เป็นมาตรฐานด้านความมั่นคงของข้อมูล
          จากข่าวข้อมูลความลับที่หลุดออกมานั้น ไม่เพียงแค่เป็นการเปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินที่ถูกซ่อนไว้ของนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดังทั่วโลก แต่มันยังเป็นการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันความมั่นคงทางข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ องค์กรธุรกิจต่างๆ รวมไปถึงบุคคลทั่วไปอย่างเราที่มักจะไม่ค่อยให้ความระมัดระวังกับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวหรือเป็นความลับมากนัก ในวันนี้ Kingston ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หน่วยความจำระดับโลกจึงได้ประกาศเปิดตัวยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ที่สามารถเข้ารหัสได้ระดับฮาร์ดแวร์ใหม่ถึง 2 รุ่น โดยสินค้าใหม่ทั้งสองตัวจะรองรับการจัดการผ่านซอฟต์แวร์ SafeConsole® by DataLocker® โดยทั้งสองรุ่นประกอบไปด้วย DataTraveler 4000G2 with Management (DT4000G2DM) และ Datatraveler Vault Privacy 3.0 with Management (DTVP30DM) ที่จะเข้ามาช่วยตอบความต้องการของธุรกิจเพื่อให้รองรับกับมาตรฐาน Federal Information Processing Standards (FIPS) พร้อมการปกป้องข้อมูลในระดับสูงสุดที่เหมาะสำหรับการใช้งานในยุคโมบาย สำหรับสินค้าทั้งสองรุ่นนี้จะสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความปลอดภัยของข้อมูลผ่านทางแพลตฟอร์ม SafeConsole Encryption Management Platform จาก DataLocker Inc., ซึ่งเป็นบริษัทพันธมิตรกับ Kingston ในด้านสินค้ายูเอสบีแฟลชไดรฟ์ที่มีการเข้ารหัส
          ยูเอสบีไดรฟ์รุ่นใหม่จาก Kingston ทั้งสองตัว มาพร้อมกับการเข้ารหัสด้วยฮาร์ดแวร์บนมาตรฐาน AES ระดับ 256-bit และยังได้รับการรับรองมาตรฐาน FIPS ด้วย (DT4000G2DM ได้รับการรองรับมาตรฐาน FIPS 140-2 ในขณะที่ DTVP30DM ได้รับการรองรับมาตรฐาน FIPS 197) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลทั้งขององค์กรและส่วนตัวของผู้ใช้เองจะได้รับการปกป้องอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ SafeConsole ยังเป็นแพลตฟอร์มเพียงตัวเดียวในท้องตลาดที่สามารถใช้บริหารจัดการความปลอดภัยของข้อมูลบนยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ได้ด้วยการจัดการรหัสผ่านอย่างสมบูรณ์แบบ – ทั้งแบบรีโมทและการใช้งานบนตัวไดรฟ์เอง ตัวแพลตฟอร์มเองยังสามารถกู้คืนรหัสผ่านที่ลืมไว้ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบประวัติหรือรูปแบบการใช้งานได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่อยู่ที่มีการใช้งาน รวมไปถึงขอบเขตพื้นที่ที่สามารถกำหนดให้เป็นไปตามนโยบายได้ ไปจนถึงการสั่งลบข้อมูลจากระยะไกล ในกรณีที่อุปกรณ์เกิดการสูญหาย
องค์กรควรมีการสร้าง best practices สำหรับการนำข้อมูลสำคัญออกไปทำงานภายนอกเครือข่ายขององค์กร เมื่อปัญหาข้อมูลรั่วไหลกลายเป็นปัญหาที่มีความสำคัญซึ่งมีนโยบายและข้อกำหนดต่างๆ ออกมามากขึ้น อย่างเช่นสหภาพยุโรป (EU) กำลังจะมีการบังคับใช้ข้อกำหนด General Data Protection Regulation ซึ่งจะเข้ามาผลักดันให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ตื่นตัวและเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบของตัวเองให้มีความแข็งแรงไม่เช่นนั้นจะมีโทษที่รุนแรง ซึ่งส่วนหนึ่งของนโยบายภายในองค์กรควรจะต้องมีเรื่องการบริหารจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในภายเครือข่ายหรือมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยให้การติดตามและตรวจสอบการเคลื่อนไหวข้อมูลของบริษัทเป็นไปได้ดีขึ้นทั้งขาเข้าและออก
          "ความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ การโดยโจมตีจากมัลแวร์ และการความผิดพลาดทางเทคนิค อาจจะเป็นต้นที่ทำให้ข้อมูลของพนักงานและองค์กรตกอยู่ในความเสี่ยง ดังนั้นบริษัท ตัวแทน และองค์กรเอง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีนโยบายด้านความมั่นคงที่ดีก่อนที่ปัญหาต่างๆ จะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม การถูกปรับจากโทษกระทำผิด หรือแม้แต่การสูญเสียทางด้านการเงิน" Nathan Su ผู้อำนวยการฝ่ายขายด้านแฟลชเมมโมรี่ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Kingston กล่าว "ด้วยยูเอสบีไดรฟ์ที่สามารถเข้ารหัสได้ของเรา และ IronKey acquisition รวมถึงการเป็นพันธมิตรร่วมกับ DataLocket ที่เหนียวแน่นมากขึ้น ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมันของ Kingston ในการนำเสนอโซลูชันยูเอสบีที่มีความปลอดภัยมากที่สุดให้กับตลาด"
          Kingston DT4000G2DM และ DTVP30DM จะมีความจุให้เลือกตั้งแต่ 4GB, 8GB, 16GB, 32GB จนไปถึง 64GB และยังรับประกันนานถึง 5 ปี พร้อมฟรีการสนับสนุนด้านเทคนิค และความน่าเชื่อถือในคุณภาพจาก Kingston ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.kingston.com

Kingston พร้อมส่งยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ที่มาพร้อมการเข้ารหัสระดับฮาร์ดแวร์ เจาะผู้ใช้กลุ่มองค์กร

ข่าวแฟลชไดรฟ์+ฮาร์ดแวร์วันนี้