การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้
          1. ปรับปรุงการหักค่าใช้จ่ายของเงินเดือน ค่าจ้าง ค่านายหน้า ฯลฯ อันเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร จากเดิมให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 40 ของเงินได้แต่ไม่เกิน 60,000 บาท เป็นร้อยละ 50 ของเงินได้แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
          2. ปรับปรุงการหักค่าใช้จ่ายของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (3) แห่งประมวลรัษฎากร จากเดิมให้หักได้เฉพาะค่าแห่งลิขสิทธิ์โดยให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 40 ของค่าแห่งลิขสิทธิ์แต่ไม่เกิน 60,000 บาท ขยายเพิ่มให้ ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น สามารถหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 50 ของเงินได้ดังกล่าวแต่ไม่เกิน 100,000 บาท หรือหักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควรได้
          3. ปรับปรุงการหักค่าลดหย่อน ดังนี้
          (1) ค่าลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ จากเดิม 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท
          (2) ค่าลดหย่อนสำหรับคู่สมรสของผู้มีเงินได้ จากเดิม 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท 
          (3) ค่าลดหย่อนบุตรจากเดิมคนละ 15,000 บาท และจำกัดจำนวนไม่เกิน 3 คน เป็นคนละ 30,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนบุตร และยกเลิกค่าลดหย่อนการศึกษาบุตร (จากเดิมที่ให้หักลดหย่อน 2,000 บาท/คน)
          (4) ในกรณีที่คู่สมรสต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ ให้หักลดหย่อนรวมกันได้ไม่เกิน 120,000 บาท
          (5) กองมรดกเดิมให้หักลดหย่อนได้ 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท
          (6) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล เดิมให้หักลดหย่อนแก่หุ้นส่วน คนละ 30,000 บาท แต่รวมกันต้องไม่เกิน 60,000 บาท เป็นคนละ 60,000 บาท แต่รวมกันต้องไม่เกิน 120,000 บาท
          4. ปรับปรุงขั้นเงินได้ และบัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้
 

บัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

บัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ที่มีการปรับปรุง

เงินได้สุทธิ

อัตราภาษี (ร้อยละ)

เงินได้สุทธิ

อัตราภาษี (ร้อยละ)

1-300,000*

5

1-300,000*

5

300,001-500,000

10

300,001-500,000

10

500,001-750,000

15

500,001-750,000

15

750,001-1,000,000

20

750,001-1,000,000

20

1,000,001-2,000,000

25

1,000,001-2,000,000

25

2,000,001-4,000,000

30

2,000,001-5,000,000

30

4,000,001 ขึ้นไป

35

5,000,001 ขึ้นไป

35

 
           * ทั้งนี้ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรกยังคงสามารถใช้ต่อไปตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 470) พ.ศ. 2551
          5. ปรับปรุงเกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำที่ผู้มีเงินได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี ดังนี้
          (1) กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) เพียงประเภทเดียว
          - หากผู้มีเงินได้เป็นโสด จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้เกิน 50,000 บาท เป็นต้องมีเงินได้เกิน 100,000 บาท
          - หากผู้มีเงินได้มีคู่สมรส จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้รวมกันเกิน 100,000 บาท เป็นต้องมีเงินได้รวมกันเกิน 200,000 บาท
          (2) กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) และมีเงินได้ประเภทอื่นด้วย หรือกรณีมีเฉพาะเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินได้จากการจ้างแรงงาน
          - หากผู้มีเงินได้เป็นโสด จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้เกิน 30,000 บาท เป็นต้องมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
          - หากผู้มีเงินได้มีคู่สมรส จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้รวมกันเกิน 60,000 บาทเป็นต้องมีเงินได้รวมกันเกิน 120,000 บาท
          (3) กรณีกองมรดกของผู้ตายที่ยังมิได้แบ่ง จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้เกิน 30,000 บาทเป็นต้องมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
          (4) กรณีห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้เกิน 30,000 บาท เป็นต้องมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
          6. การปรับปรุงดังกล่าวข้างต้น ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2560 เป็นต้นไป
          การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะทำให้การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีความเหมาะสมเป็นธรรม สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการช่วยบรรเทาภาระภาษีแก่ผู้มีเงินได้โดยผู้เสียภาษีที่มีเฉพาะเงินได้ประเภทเงินเดือนและหักลดหย่อนส่วนตัวโดยไม่ใช้สิทธิลดหย่อนรายการอื่น จะเริ่มเสียภาษีเมื่อมีเงินได้ 26,000 บาทต่อเดือน 

          สำนักวิชาการแผนภาษี กรมสรรพากร
          โทร. 0 2272 8648
          RD Call Center : 1161

ข่าวกระทรวงการคลัง+โครงสร้างภาษีวันนี้

กรุงไทย ผนึก กรมธนารักษ์ และ ธอส. ยกระดับฐานข้อมูลอสังหาฯ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ในพิธีลงนามความร่วมมือว่าด้วยการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประเมินราคาทรัพย์สินร่วมกัน โดยมี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย และ นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมลงนาม เพื่อพัฒนากลไกดิจิทัลให้เชื่อมโยงข้อมูลอย่างมีแบบแผน และต่อยอดไปสู่การพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ภาครัฐและภาคธนาคารมีข้อมูลกลาง

สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กรมธนารักษ์ และ... กระทรวง พม.-กลาโหม-ธนารักษ์ ผนึกกำลัง ยกระดับที่พักสวัสดิการเพื่อกำลังพลกระทรวงกลาโหม — สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กรมธนารักษ์ และการเคหะแห่งชาติ ร่วมลงนาม...

กรุงไทย จับมือกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเ... กรุงไทย ผนึก กระทรวงการคลัง เดินหน้าเสริมภูมิคุ้มกันทางการเงินกลุ่มเปราะบาง ต่อเนื่องปีที่ 2 — กรุงไทย จับมือกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ลงพ...

วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) นายจตุพร บุรุษพั... ปลัดฯ จตุพร นำทีมบอร์ด อ.อ.ป. ประชุมติดตามการดำเนินงานที่สำคัญ ครั้งที่ 3/2568 — วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแ...

ลดข้อจำกัดงบและหนี้สาธารณะผ่านโครงการ PPP ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ผ่อนคลายกฎระเบียบลดต้นทุนธุรกิจ แก้ปัญหาจีนเทาและการสวมสิทธิส่งออก

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประเทศ...

อัดโปรโมชัน สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยคงที... ธอส. จัดงานมหกรรมทางการเงินออนไลน์ : Welfare Marketing Beyond 2025 — อัดโปรโมชัน สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 เดือนแรก 1.50% ต่อปี พร้อมเงินฝากดอกเบี้...