ผถห.EARTH ชูมือโหวตรับปันผลเพิ่ม ชูจุดขายรักษาฐานลูกค้าเก่า ปั๊มรายได้โตไม่ต่ำกว่า10%
ผู้ถือหุ้น บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) โหวตรับปันผลเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท จากที่รับระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมรับปันผลทั้งสิ้นในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น กำหนดวันรับทรัพย์วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ "ขจรพงศ์ คำดี" ตอกย้ำเป้ารายได้ปี'59 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนยอดจำหน่ายถ่านหินตั้งเป้าไว้ที่ 11 ล้านตัน ระบุฐานลูกค้าเก่ายังเป็นกำลังสำคัญ พร้อมเจาะฐานลูกค้ารายใหม่ทั้งในและต่างประเทศเพิ่ม เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานขยายตัวได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
นายขจรพงศ์ คำดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท จำนวน 3,504,053,611 หุ้น ซึ่งบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2558 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้นรวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นเป็นเงิน 499.14 ล้านบาท กำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2559
สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังคงเน้นในเรื่องของการบริหารต้นทุนธุรกิจทุกภาคส่วนให้มีเสถียรภาพ เพื่อรักษาผลการดำเนินงานให้เติบโตในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทฯจะเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าจากประเทศจีน , เกาหลีใต้ รวมถึงอินเดีย ซึ่งมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดมีลูกค้ารายใหม่จากบังคลาเทศ และฮ่องกงเพิ่มเข้ามา จึงทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะสามารถผลักดันปริมาณการขายถ่านหินเติบโตตามเป้าที่ 11 ล้านตัน และรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ได้
"การเติบโตทั้งในส่วนของรายได้และปริมาณการจำหน่ายถ่านหินปีนี้ของกลุ่มบริษัทฯ เชื่อว่ายังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ซึ่งหลักๆ เป็นการขยายตัวที่มาจากฐานลูกค้าเก่า ส่วนฐานลูกค้ารายใหม่ๆ ก็ยังคงมีเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาระดับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ให้มีความต่อเนื่องได้ในระยะยาว บริษัทฯ ยังคงเน้นบริหารต้นทุนธุรกิจทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ และมองหาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเข้ามาช่วยเสริมธุรกิจเดิมให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"นายขจรพงศ์กล่าวในที่สุด
นายขจรพงศ์ คำดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท จำนวน 3,504,053,611 หุ้น ซึ่งบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2558 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้นรวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นเป็นเงิน 499.14 ล้านบาท กำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2559
สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังคงเน้นในเรื่องของการบริหารต้นทุนธุรกิจทุกภาคส่วนให้มีเสถียรภาพ เพื่อรักษาผลการดำเนินงานให้เติบโตในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทฯจะเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าจากประเทศจีน , เกาหลีใต้ รวมถึงอินเดีย ซึ่งมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดมีลูกค้ารายใหม่จากบังคลาเทศ และฮ่องกงเพิ่มเข้ามา จึงทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะสามารถผลักดันปริมาณการขายถ่านหินเติบโตตามเป้าที่ 11 ล้านตัน และรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ได้
"การเติบโตทั้งในส่วนของรายได้และปริมาณการจำหน่ายถ่านหินปีนี้ของกลุ่มบริษัทฯ เชื่อว่ายังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ซึ่งหลักๆ เป็นการขยายตัวที่มาจากฐานลูกค้าเก่า ส่วนฐานลูกค้ารายใหม่ๆ ก็ยังคงมีเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาระดับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ให้มีความต่อเนื่องได้ในระยะยาว บริษัทฯ ยังคงเน้นบริหารต้นทุนธุรกิจทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ และมองหาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเข้ามาช่วยเสริมธุรกิจเดิมให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"นายขจรพงศ์กล่าวในที่สุด
ข่าวเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ+เอ็นเนอร์ยี่วันนี้
มติผถห.EARTH ท่วมท้น 99.29% เทคะแนนเสียงออก PP หนุนกลุ่มผู้บริหารเดิมลุยธุรกิจต่อ เชื่อมั่นนำพาองค์กรแข็งแกร่ง
บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2563 มีมติอนุมัติให้ออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement:PP) ให้แก่ นายพิพรรธ พิหเคนทร์ จำนวน 973,241,553 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.0001 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 97,324 บาท โดยวาระดังกล่าว ผู้ถือหุ้นมีมติเห็นชอบรวม 2,294,997,625 หุ้น หรือคิดเป็น 99.29% เพื่อให้กลุ่มผู้บริหารชุดเดิม คงสัดส่วนถือหุ้นใหญ่ 30% เท่าเดิม เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมากลุ่มผู้บริหารมีความสามารถผลักดันธุรกิจให้เติบโต