สภาวะตลาดวันที่ 25 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,216.10-1,216.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,470 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,460 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.42 น.ของวันที่ 25/03/16)
แนวโน้มวันที่ 28 มีนาคม 2559
ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางสกุลเงินหยวนที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากดอลลาร์แข็งค่า โดยหยวนมีโอกาสร่วง 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม โดยหยวนร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน ดูเหมือนว่าแทบไม่มีปฏิกิริยาต่อการดำเนินการของทางการจีนในการสกัดการอ่อนค่าของสกุลเงินหยวน ทั้งนี้ กรรมการในคณะกรรมการกำหนด นโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน กล่าวเตือนว่า หยวนจะเผชิญกับแรงกดดันในช่วงขาลงรอบใหม่ ถ้าหากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจจะกลับมาเป็นแรงกระตุ้นให้ชาวจีนซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อปกป้องความมั่งคั่งของตนเองหากทิศทางค่าเงินหยวนยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกกดดันจากแนวโน้มความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ ข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอในปีนี้ด้วย เมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์มีการปรับทบทวนตัวเลขในช่วงก่อนหน้าในหลายสัปดาห์ให้ต่ำลงจากเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่งเกินคาดเป็นอย่างมาก ขณะที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ในระดับที่มากกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดแรงงานสหรัฐปรับตัวดีขึ้น และเขาจะรอดูการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังจะประกาศออกมาเพื่อตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 26-27 เมษายนนี้ ทั้งนี้ระยะสั้น ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดหุ้นฮ่องกง, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์นี้ เนื่องในวัน Good Friday และ ตลาดบางประเทศจะปิดทำการต่อเนื่องในวันจันทร์ที่ 28 มีนาคมนี้ ในเทศกาลอีสเตอร์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเช่นเดิม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,211 (20,190บาท) 1,200 (20,010บาท) 1,194 (19,910บาท)
แนวต้าน 1,222 (20,380บาท) 1,230 (20,510บาท) 1,242 (20,710บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,211 (20,400บาท) 1,200 (20,210บาท) 1,194 (20,110บาท)
แนวต้าน 1,222 (20,580บาท) 1,230 (20,710บาท) 1,242 (20,910บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.42 น.ของวันที่ 25/03/16)
แนวโน้มวันที่ 28 มีนาคม 2559
ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางสกุลเงินหยวนที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากดอลลาร์แข็งค่า โดยหยวนมีโอกาสร่วง 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม โดยหยวนร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน ดูเหมือนว่าแทบไม่มีปฏิกิริยาต่อการดำเนินการของทางการจีนในการสกัดการอ่อนค่าของสกุลเงินหยวน ทั้งนี้ กรรมการในคณะกรรมการกำหนด นโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน กล่าวเตือนว่า หยวนจะเผชิญกับแรงกดดันในช่วงขาลงรอบใหม่ ถ้าหากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจจะกลับมาเป็นแรงกระตุ้นให้ชาวจีนซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อปกป้องความมั่งคั่งของตนเองหากทิศทางค่าเงินหยวนยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกกดดันจากแนวโน้มความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ ข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอในปีนี้ด้วย เมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์มีการปรับทบทวนตัวเลขในช่วงก่อนหน้าในหลายสัปดาห์ให้ต่ำลงจากเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่งเกินคาดเป็นอย่างมาก ขณะที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ในระดับที่มากกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดแรงงานสหรัฐปรับตัวดีขึ้น และเขาจะรอดูการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังจะประกาศออกมาเพื่อตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 26-27 เมษายนนี้ ทั้งนี้ระยะสั้น ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดหุ้นฮ่องกง, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์นี้ เนื่องในวัน Good Friday และ ตลาดบางประเทศจะปิดทำการต่อเนื่องในวันจันทร์ที่ 28 มีนาคมนี้ ในเทศกาลอีสเตอร์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเช่นเดิม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,211 (20,190บาท) 1,200 (20,010บาท) 1,194 (19,910บาท)
แนวต้าน 1,222 (20,380บาท) 1,230 (20,510บาท) 1,242 (20,710บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,211 (20,400บาท) 1,200 (20,210บาท) 1,194 (20,110บาท)
แนวต้าน 1,222 (20,580บาท) 1,230 (20,710บาท) 1,242 (20,910บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999
YLG แนะจับตาทองคำหากหลุด $1,676 อาจเปลี่ยนภาพระยะยาว เหตุตัวเลขจ้างงานสหรัฐแกร่ง-เสี่ยงเฟดลด QE เร็วขึ้น
YLG ช่วยติดอาวุธช่วง COVID เปิดคอร์สอบรมเทรดโกลด์ฟิวเจอร์สออนไลน์
YLG หนุนตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สคึกคักด้วยระบบเทรดMT4 ชูจุดเด่นเทรดด้วยโรบอตเพิ่มความแม่นยำขยายโอกาสทำกำไร