
ในงานลงนาม เหงียน ถิว เฟือง เถา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเวียตเจ็ทแอร์ ได้กล่าวว่า 'เวียตเจ็ท กำลังดำเนินการบินด้วยเครื่องบินขนาดเล็กอย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนในเครื่องบินรุ่น B737 MAX 200 จะถูกปรับเข้ากับกลยุทธ์ของสายการบินเวียตเจ็ทในการขยายเครือข่ายเส้นทางต่างประเทศรวมไปถึงเที่ยวบินที่ต้องใช้เวลาบินนาน โดยข้อตกลงนี้ เวียตเจ็ทจะสนับสนุนการเพิ่มอัตราการหมุนเวียนทางการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงการบูรณาการและพัฒนาอุตสาหกรรมการบินในเวียดนาม'

เครื่องบินเหล่านี้จะถูกส่งไปยัง เวียตเจ็ท ในปี 2562 จนถึงปี 2566 เพื่อสนับสนุนการขยายเครือข่ายภายในประเทศของสายการบินเวียตเจ็ทอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการขยายเครือข่ายระหว่างประเทศเพื่อเป็นตัวเลือกในภูมิภาค ข้อตกลงนี้จะช่วยให้เวียตเจ็ทมีเครื่องบิน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงกว่า 200 ลำ ในสิ้นปี 2566 ซึ่งจะเป็นเครื่องบินที่ให้ความทันสมัยและเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในการให้บริการผู้โดยสารตามแนวคิดสายการบินยุคใหม่
ในพิธีลงนามเดียวกันในวันนี้ เวียตเจ็ทยังได้ลงนามข้อตกลงกับ แพรตต์ แอนด์ วิทนีย์ของ บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ปสำหรับการจัดหาเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินที่สั่งซื้อล่าสุด คือ แอร์บัส A320neo และ A321NEO พร้อมการจัดเตรียมทางด้านเทคนิคและการบำรุงรักษาสำหรับเครื่องบินเหล่านี้
ฯพณฯ นายเจิ่น ด่าย กวาง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาพร้อมกับคณะผู้แทนของทั้งสองประเทศ ร่วมเป็นพยานในการลงนามข้อตกลงที่ลงนามโดย นาย ดินห์ เหวียต พวง รองประธานสายการบินเวียตเจ็ท และแมรี่ เอลเลน โจนส์ รองประธานฝ่ายขาย บริษัท แพรตต์ แอนด์วิทนีย์ โดยข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่าถึง 3.04 พันล้านดอลล่าสหรัฐฯ