นอกจากนี้ ปตท. ยังจัดกรอบการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมและพัฒนาชุมชน ให้การบริหารชุมชนสัมพันธ์เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้งองค์กร สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดย ปตท. ดำเนินงานเพื่อสังคมตาม 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาสังคมและชุมชน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การทำ CSR ของ ปตท. จึงต้องมีความลึกซึ้ง มีเป้าหมาย และมีความสำเร็จที่ชัดเจนมากขึ้น การสนับสนุนในรูปของเงินไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เพราะเมื่อเงินหมด ปัญหาของชาวบ้านก็กลับมาใหม่ เราจะเปลี่ยนจากการทำ CSR แบบเดิมๆ ให้เป็น Strategic CSR หรือที่เรียกว่า CSV นั่นเอง ซึ่ง ปตท. จะต้องมีส่วนร่วมและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นต่อสังคมและชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยองค์กรจะให้ความสนับสนุนในรูปแบบของโครงการต่างๆ เพื่อเป็นการให้ความรู้ซึ่งจะเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและยั่งยืนติดตัวชาวบ้านตลอดไป นอกจากนี้ ปตท. ยังมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจให้เป็นที่รักของสังคมชุมชน ด้วยการให้สถานีบริการน้ำมันสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ภายในสถานีบริการ เพื่อให้สถานีบริการ ปตท. เป็นศูนย์กลางของชุมชน และมีการจัดโครงการ "แยก แลก ยิ้ม" ให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับแคมเปญคัดแยกขยะ และนำรายได้ไปช่วยสังคมรอบๆ สถานีบริการน้ำมันต่อไป
ที่มาของโครงการ "แยก แลก ยิ้ม"
สำหรับโครงการ "แยก แลก ยิ้ม" มีที่มาจากการตระหนักถึงปัญหาการบริหารจัดการขยะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมของประเทศไทย ปตท. จึงได้มีแนวคิดที่จะจัดระบบการบริหารจัดการขยะในสถานี ประกอบกับแนวคิดของการทำสถานีบริการน้ำมัน ให้เป็นสถานีบริการเพื่อชุมชน ทำให้ ปตท. มองเห็นโอกาสที่จะนำขยะมาสร้างรอยยิ้มให้ชุมชน ด้วยการนำเงินที่ได้จากการขายขยะรียูสหรือรีไซเคิล ไปสร้างสาธารณประโยชน์ให้ชุมชนต่างๆ ผ่านสถานีบริการน้ำมัน ปตท. กว่า 1,400 สาขา ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดที่ ปตท. สัมผัสกับผู้บริโภค และใกล้ชิดกับชุมชนมากที่สุด
งบประมาณในการดำเนินงานโครงการฯ
เนื่องจากทาง ปตท. เล็งเห็นว่าการจะสร้างให้ประชาชนเกิดพฤติกรรมการแยกขยะในเวลาอันสั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสาร ณ จุดเกิดเหตุ จึงใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ในการพัฒนารูปแบบถังขยะให้ดึงดูดความสนใจ และง่ายต่อการทำความเข้าใจเวลาที่จะทิ้งขยะ รวมทั้งการกระจายถังขยะให้ครอบคลุมทั่วประเทศผ่านสถานีบริการน้ำมัน ปตท. กว่า 1,400 สาขา นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำสื่อต่างๆ เพื่อสื่อสารกับผู้ประกอบการสถานีฯ ให้มีความเข้าใจ และสามารถดำเนินการตามโครงการฯ อย่างถูกต้อง เพื่อให้รายได้จากการขายขยะของทุกสถานีฯ เปลี่ยนเป็นสาธารณประโยชน์ สร้างรอยยิ้มให้ชุมชนทั่วประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม
ความคาดหวังจากการดำเนินการโครงการฯ
ในปีแรกของการดำเนินโครงการ "แยก แลก ยิ้ม" ปตท. ตั้งเป้าหมายที่จะให้สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทุกสถานี ได้นำรายได้จากขายขยะไปทำประโยชน์ให้ชุมชนบริเวณใกล้เคียงสถานีฯ อย่างน้อย 1 ครั้ง นั่นหมายความว่าจะมีชุมชนอย่างน้อยกว่า 1,400 ชุมชนทั่วประเทศ ที่จะมีรอยยิ้มจากโครงการนี้ และจากการประมาณการแล้ว คาดว่าโดยเฉลี่ยแล้วขยะในสถานีจะสร้างรายได้จากการขายให้แต่ละสถานีประมาณ 15,000 บาท/ปี หรือรวมเงินที่สามารถนำไปทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ทั่วประเทศจากโครงการนี้เป็นจำนวนกว่า 21 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งโครงการนี้ก็จะยังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อจะเป็นการสร้างให้ประชาชนและสถานีบริการน้ำมัน ปตท. มีจิตสำนึกในการบริหารจัดการขยะ การดูแลสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือดูแลสังคมชุมชนร่วมกันตลอดไป
คาลเท็กซ์ เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดใช้พลังงาน
สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เตรียมจัดงานมอบรางวัลสุดยอดผู้นำองค์กร ประจำปี 2568
สภาธุรกิจตลาดทุนไทยหารือนายกรัฐมนตรี ชูข้อเสนอ "Quick - Big Win ตลาดทุนเสริมพลังภาครัฐ"
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ร่วมพิธีวางพานพุ่มและพิธีตักบาตร เนื่องในวันครบรอบ ๑๐๘ ปี แห่งการสถาปนาจุฬาฯ
เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ในโครงการเลือดไม่แบ่งสี งานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75
สนจ. เชิญร่วมงานปิยมหาราชานุสรณ์ 2567 "CU Power of One" รวมพลังสายใยจุฬาฯ ส่งต่อเพื่อสังคม
กลุ่ม ปตท. จัดเต็มความสนุก พาเหล่าเยาวชนตะลุยโลกนวัตกรรมแห่งอนาคต ในงานวันเด็ก ประจำปี 2567
วพน. ผนึกความร่วมมือ สวพน. ยกระดับ Thailand Energy Executive Forum
ปตท. มอบความสุขปีใหม่ประชาชน ตรึงราคา NGV รถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ 14.62 บาท/กก. ต่ออีก 6 เดือน ช่วยลดภาระ 2 ปีที่ผ่านมารวมกว่า 17,000 ล้านบาท